xs
xsm
sm
md
lg

แพทยสภาเตรียมเรียกหมอฉาวโพสต์เฟซบุ๊กอยากกินหัวพยาบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพทยสภาหมายหัว หมอฉาวโพสต์เฟซบุ๊กอยากกินหัวพยาบาล จ่อเรียกสอบสวนลงโทษ ฐานทำเสื่อมเสียวิชาชีพหมอ หากสำนึกอาจโดนว่ากล่าวตักเตือน เตือนหมอระวังใช้โซเชียลมีเดีย จ่อออกมาตรฐานการใช้งานโซเชียลกลุ่มแพทย์ บรรจุลงหลักสูตร นศ. แพทย์ สกัดโพสต์ข้อมูลคนไข้เสี่ยงฟ้องร้อง

วันนี้ (20 มิ.ย.) นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวถึงกรณีแพทย์หนุ่มรายหนึ่งโพสต์ภาพตัวเองบนเฟซบุ๊กในท่าทางเอาเท้าพาดบนเตียงผู้ป่วย พร้อมบรรยายภาพว่าย้ายมาอยู่แผนกศัลยกรรมออโธปิดิกส์ ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และอยากกินหัวพยาบาล และให้หาพยาบาลสาวจบใหม่มารอต้อนรับด้วย มีสามีแล้วไม่เอา จนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม โดยบางคนมองว่าเป็นเรื่องของจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ รวมไปถึงการให้เกียรติเพื่อนร่วมวิชาชีพ ว่า แพทยสภาได้รับเรื่องร้องเรียนถึงพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว และได้ประสานกับต้นสังกัด เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ดังนั้น จึงอยากขอเตือนสมาชิกแพทยสภา ว่าขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นตัวอย่างสำหรับแพทย์และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ทุกคนว่าก่อนที่จะโพสต์รูปของคนไข้หรือโพสต์เรื่องของตนเอง หรือแสดงความคิดเห็นอะไรลงไปต้องรู้จักระมัดระวัง ใช้ความคิดให้มากก่อนโพสต์ด้วยทุกครั้ง เพราะหากโพสต์ข้อความหรือรูปภาพที่ไม่เหมาะสม แม้ในกลุ่มของตน อาจเผยแพร่ออกไป จนมีผู้เสียหาย และนำไปสู่การฟ้องร้องได้

“ไม่ใช่เกิดแค่รายนี้เท่านั้น แต่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้ว ซึ่งเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การเขียนโดยความรู้สึกและใช้อารมณ์จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้น สำหรับข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ได้ระบุให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมพึงยกย่องให้เกียรติเคารพในศักดิ์ศรีซึ่งกันและกันและพึงให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ร่วมงานด้วย ซึ่งเป็นพื้นฐานการทำงานร่วมกันที่ดีเพื่อประชาชนต่อไป” เลขาธิการแพทยสภา กล่าว

ด้าน พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ปัญหาในโซเชียลมีเดียดังกล่าวพบมากขึ้นในปัจจุบัน ตามการพัฒนาของไอที และสื่อออนไลน์ ทั้งนี้ ฝ่ายไอทีแพทยสภาได้เตรียมความพร้อมและวางมาตรฐานเรื่องนี้ไว้ระดับหนึ่ง โดยจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในคณะกรรมการบริหารแพทยสภา ถึงการวางมาตรฐานและข้อแนะนำในการใช้โซเชียลมีเดียของแพทย์ และนักศึกษาแพทย์ เพื่อป้องกันปัญหาตั้งแต่ระดับความลับผู้ป่วยจนถึง การให้ข้อมูลที่อาจทำให้ทั้งผู้ป่วย ผู้ร่วมงาน และผู้ร่วมวิชาชีพได้รับผลกระทบ รวมถึงอาจเพิ่มเนื้อหาขึ้นในหลักสูตรการเรียนการสอนแพทย์ต่อไป และขอเตือนให้แพทย์ทุกคน แม้จะออกความเห็นส่วนตัวได้โดยเสรี แต่โปรดแยกบทบาทส่วนตัวจากภาพลักษณ์ความเป็นแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วย ซึ่งมีจรรยาบรรณกำกับ ให้ชัดเจนและทบทวนก่อนโพสต์สิ่งใดๆ ทุกครั้งเพราะโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่สาธารณะที่เข้าถึงได้ทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด แพทย์หนุ่มรายดังกล่าวได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กของตนเองอีกครั้ง ว่า ขอโทษพยาบาลและทุกคนที่เกี่ยวข้องพร้อมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าจะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ขณะที่เฟซบุ๊กของ “ประชาคมสาธารณสุขเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย” ได้ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า จากความไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้น ขณะนี้ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ได้ตั้งคณะกรรมการสั่งสอบวินัยนายแพทย์ผู้นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีกระแสข่าวว่านายแพทย์ผู้นี้เคยเป็นแพทย์ใช้ทุนที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.บึงกาฬ

นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวถือว่าผิด ทำให้เสื่อมเสียในศักดิ์ศรีวิชาชีพแพทย์ โดยแพทยสภาจะเรียกนายแพทย์ดังกล่าวเข้าเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาจริยธรรมิชาชีพ เพื่อพิจารณาว่าจะลงโทษอย่างไร ซึ่งหากแพทย์รายนี้มีการขอโทษ ก็ต้องมาวิเคราะห์ว่ารู้สึกสำนึกจริงหรือไม่ หากจริงก็จะมีโทษเพียงว่ากล่าวตักเตือน แต่โทษดังกล่าวจะมีผลในแง่ของความน่าเชื่อถือมาก กล่าวคือ หากไปศึกษาต่อต่างประเทศ หรือต้องการไปประกอบวิชาชีพแพทย์ในต่างประเทศจะไม่สามารถทำได้ เพราะต่างประเทศไม่ยอมรับแพทย์ที่มีความด่างพร้อย

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่





กำลังโหลดความคิดเห็น