สพฐ.เตรียมตั้งวงถกประเด็นแท็บเล็ต 12 มิ.ย.ก่อนสรุปเสนอ คสช.13 มิ.ย.พร้อมนัดประชุมหาแนวทางฟื้นฟูวิชาประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง เพื่อสอนให้คนไทยไม่ลืมรากเหง้า รักสามัคคี รู้จักหน้าที่และสิทธิตน ตามแนวทางที่ คสช.กำหนด พร้อมเร่งให้ทุกองค์กรจัดทำคำของบประมาณ 2558 โดยยึดตามแนวทางที่กำหนดไว้
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และหน่วยงานในกำกับของ ศธ. ว่า ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงเจตนารมณ์และแนวนโยบายของพล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในด้านการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ ศธ. 5 เรื่อง ทั้งในเรื่องการพัฒนาอาชีพ การเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การสร้างความปรองดอง การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา และการปฏิรูประบบการเมืองและการบริหารจัดการภาครัฐในทุกระดับ จึงได้มอบให้องค์กรหลัก ศธ.และหน่วยงานในกำกับ ศธ. ไปดำเนินการ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ให้สรุปนโยบายโครงการของ คสช.ที่เกี่ยวกับหน่วยงานตนเอง 2.ให้รายงานให้ทราบว่าดำเนินงานตอบสนองนโยบายดังกล่าวอย่างไรบ้าง และ3.วางแผนการปฏิบัติงานในอนาคคตเพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าว เพื่อรวบรวมส่งให้ผู้ประสานงาน คสช.ภายในวันที่ 11 มิถุนายนต่อไป
“ส่วนโครงการ 1 คอมพิวเตอร์ (พกพา) แท็บเล็ตต่อ 1 นักเรียน ปีงบประมาณ 2556-2557 ซึ่งฝ่ายสังคมจิตวิทยา คสช.ให้ชะลอไว้ชั่วคราวและแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาข้อดีข้อเสียให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนับจากวันที่ 3 มิถุนายนเป็นต้นมา ที่ประชุมองค์กรหลักได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดประชุมระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายนนี้ จากนั้นจะสรุปเรื่องนี้เสนอหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา ในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน นอกจากนั้นในวันที่ 13 มิถุนายน สพฐ.จะจัดประชุมระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายของหัวหน้า คสช.ที่ต้องการให้ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ฟื้นฟูวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย วิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ซึ่งได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักบริหารงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยจะได้รับทราบแนวทางเพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน”นางสุทธศรี กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาศธ. มีการเตรียมการปรับปรุงวิชาประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมืองมาโดยตลอด แต่อาจจะยังไม่มีความชัดเจนมากนัก โดยการขับเคลื่อนครั้งนี้ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับ คสช. ที่จะทำอย่างไรให้คนไทยมีความรักสามัคคี รู้จักสิทธิหน้าที่ของตนเอง รวมถึงเคารพสิทธิหน้าที่ของคนอื่นด้วย
ปลัด ศธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือเรื่องการจัดทำงบประมาณ 2558 ซึ่ง คสช.โดยสำนักงบประมาณได้กำหนดปฏิทินการจัดทำงบประมาณว่าจะมีการพิจารณาโครงสร้างและวงเงินงบประมาณปี 2558 ของทุกส่วนราชการในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ดังนั้น องค์กรหลักจึงมอบหมายให้ส่วนราชการในสังกัด ศธ.ไปจัดทำคำของบประมาณ ให้เสร็จภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ เพื่อจะได้ส่งให้กับสำนักงบประมาณได้ทันกำหนด โดยขอให้ยึดตาม 6 แนวทาง คือ 1.ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจที่มีผลต่อการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการขยายตัวและประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง รวมทั้งรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคลัง 2.ให้ความสำคัญกับการบูรณาการในระดับพื้นที่ระหว่างส่วนราชการ จังหวัด และกลุ่มจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3. มีการจัดลำดับความสำคัญของภารกิจที่จะเสนอของบประมาณและกำหนดเป้าหมายที่เหมาะสมสอดคล้องกับวงเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด 4.พิจารณาทบทวนเพื่อชะลอ ปรับลด หรือยกเลิกการดำเนินภารกิจต่างๆ ที่มีความสำคัญในระดับต่ำหรือหมดความจำเป็น หรือไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อนำงบฯ ไปดำเนินภารกิจที่มีความสำคัญหรือเร่งด่วนมีความพร้อมในการดำเนินงานและประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง 5.ควรพิจารณาใช้จ่ายงบฯ ให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน ทั้งเงินงบประมาณและนอกงบประมาณ (เงินรายได้และเงินสะสมของหน่วยงาน) รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPPs) เพื่อใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด 6.จัดเตรียมแผนงาน/โครงการให้มีความพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อให้มีการใช้จ่ายงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับปีงบประมาณ 2557 นั้น ศธ.ใช้งบประมาณไปแล้ว 65% ของวงเงินงบประมาณ 4 แสนกว่าล้านบาท โดยช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ (มิถุนายน-กันยายน 2557) ยังเหลือจำนวน 169,801 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็น งบบุคลากร 83,000 ล้านบาท งบลงทุน 19,000 ล้านบาท และงบพัฒนา 66,000 ล้านบาท ดังนั้ นจึงได้กำชับว่าให้แต่ละหน่วยงานไปดำเนินการตามโครงการหากโครงการใดจำเป็นต้องเสนอให้ คสช.พิจารณาก็ให้เร่งเสนอมาตามขั้นตอนต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และหน่วยงานในกำกับของ ศธ. ว่า ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงเจตนารมณ์และแนวนโยบายของพล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในด้านการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ ศธ. 5 เรื่อง ทั้งในเรื่องการพัฒนาอาชีพ การเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การสร้างความปรองดอง การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา และการปฏิรูประบบการเมืองและการบริหารจัดการภาครัฐในทุกระดับ จึงได้มอบให้องค์กรหลัก ศธ.และหน่วยงานในกำกับ ศธ. ไปดำเนินการ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ให้สรุปนโยบายโครงการของ คสช.ที่เกี่ยวกับหน่วยงานตนเอง 2.ให้รายงานให้ทราบว่าดำเนินงานตอบสนองนโยบายดังกล่าวอย่างไรบ้าง และ3.วางแผนการปฏิบัติงานในอนาคคตเพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าว เพื่อรวบรวมส่งให้ผู้ประสานงาน คสช.ภายในวันที่ 11 มิถุนายนต่อไป
“ส่วนโครงการ 1 คอมพิวเตอร์ (พกพา) แท็บเล็ตต่อ 1 นักเรียน ปีงบประมาณ 2556-2557 ซึ่งฝ่ายสังคมจิตวิทยา คสช.ให้ชะลอไว้ชั่วคราวและแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาข้อดีข้อเสียให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนับจากวันที่ 3 มิถุนายนเป็นต้นมา ที่ประชุมองค์กรหลักได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดประชุมระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายนนี้ จากนั้นจะสรุปเรื่องนี้เสนอหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา ในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน นอกจากนั้นในวันที่ 13 มิถุนายน สพฐ.จะจัดประชุมระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายของหัวหน้า คสช.ที่ต้องการให้ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ฟื้นฟูวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย วิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ซึ่งได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักบริหารงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยจะได้รับทราบแนวทางเพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน”นางสุทธศรี กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาศธ. มีการเตรียมการปรับปรุงวิชาประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมืองมาโดยตลอด แต่อาจจะยังไม่มีความชัดเจนมากนัก โดยการขับเคลื่อนครั้งนี้ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับ คสช. ที่จะทำอย่างไรให้คนไทยมีความรักสามัคคี รู้จักสิทธิหน้าที่ของตนเอง รวมถึงเคารพสิทธิหน้าที่ของคนอื่นด้วย
ปลัด ศธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือเรื่องการจัดทำงบประมาณ 2558 ซึ่ง คสช.โดยสำนักงบประมาณได้กำหนดปฏิทินการจัดทำงบประมาณว่าจะมีการพิจารณาโครงสร้างและวงเงินงบประมาณปี 2558 ของทุกส่วนราชการในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ดังนั้น องค์กรหลักจึงมอบหมายให้ส่วนราชการในสังกัด ศธ.ไปจัดทำคำของบประมาณ ให้เสร็จภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ เพื่อจะได้ส่งให้กับสำนักงบประมาณได้ทันกำหนด โดยขอให้ยึดตาม 6 แนวทาง คือ 1.ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจที่มีผลต่อการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการขยายตัวและประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง รวมทั้งรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคลัง 2.ให้ความสำคัญกับการบูรณาการในระดับพื้นที่ระหว่างส่วนราชการ จังหวัด และกลุ่มจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3. มีการจัดลำดับความสำคัญของภารกิจที่จะเสนอของบประมาณและกำหนดเป้าหมายที่เหมาะสมสอดคล้องกับวงเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด 4.พิจารณาทบทวนเพื่อชะลอ ปรับลด หรือยกเลิกการดำเนินภารกิจต่างๆ ที่มีความสำคัญในระดับต่ำหรือหมดความจำเป็น หรือไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อนำงบฯ ไปดำเนินภารกิจที่มีความสำคัญหรือเร่งด่วนมีความพร้อมในการดำเนินงานและประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง 5.ควรพิจารณาใช้จ่ายงบฯ ให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน ทั้งเงินงบประมาณและนอกงบประมาณ (เงินรายได้และเงินสะสมของหน่วยงาน) รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPPs) เพื่อใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด 6.จัดเตรียมแผนงาน/โครงการให้มีความพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อให้มีการใช้จ่ายงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับปีงบประมาณ 2557 นั้น ศธ.ใช้งบประมาณไปแล้ว 65% ของวงเงินงบประมาณ 4 แสนกว่าล้านบาท โดยช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ (มิถุนายน-กันยายน 2557) ยังเหลือจำนวน 169,801 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็น งบบุคลากร 83,000 ล้านบาท งบลงทุน 19,000 ล้านบาท และงบพัฒนา 66,000 ล้านบาท ดังนั้ นจึงได้กำชับว่าให้แต่ละหน่วยงานไปดำเนินการตามโครงการหากโครงการใดจำเป็นต้องเสนอให้ คสช.พิจารณาก็ให้เร่งเสนอมาตามขั้นตอนต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่