“ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” เสด็จเปิดโครงการแพทย์อาสาฯ จัดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 16 ด้านดูแลประชาชนรวมกว่า 3,000 คน พร้อมมีพระราชดำรัสถึงบุคลากรทางการแพทย์ ให้มีหลักธรรม คุณธรรม และจริยธรรม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและผาสุกในสังคม
วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่โรงพยาบาลหัวหิน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเปิดโครงการแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ครั้งที่ 2 โดยมีพระราชดำรัสตอนหนึ่ง ว่า
ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มาเปิดโครงการแพทย์อาสาเฉพาะทางฯ และทราบว่ากิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาการเข้าถึงการรักษาโดยแพทย์ในระดับผู้เชี่ยวชาญของพื้นที่โดยรอบการออกหน่วยแพทย์อาสา 3 จังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และราชบุรี การแพทย์และการสาธารณสุขของไทยมีความก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ โดยสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงให้ความสำคัญกับการแพทย์และการสาธารณสุขของไทยอย่างยิ่ง และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงจัดตั้งหน่วยแพทย์และมูลนิธิที่สำคัญขึ้น คือหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. และมูลนิธิ พอ.สว. หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสิ้นพระชนน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพเจ้าเป็นประธานมูลนิธิจนถึงปัจจุบัน
บุคลากรทางการแพทย์และผู้เกี่ยวข้องทุกระดับจะต้องมีหลักธรรม คุณธรรม และจริยธรรม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและความผาสุกในสังคม การที่ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นผู้บริหารทางการแพทย์ระดับสูง ในหลักสูตรธรรมาภิบาลสำหรับผู้บริหารทางการแพทย์ของแพทยสภาและสถาบันพระปกเกล้าได้มาร่วมแรงร่วมใจ สร้างกิจกรรมเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนจึงเป็นสิ่งหน้ายินดียิ่ง ข้าพเจ้าขอชื่นชมบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ตั้งใจดีร่วมกันหาหนทางแก้ ปัญหาเพื่อให้ประเทศของเรามีความเจริญรุ่งเรื่องด้านการแพทย์ และสาธารณสุขอย่างมั่นคงถาวรสืบไป ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผู้ป่วยที่พบว่าเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาในวันเดียวได้ จะมีการนัดตรวจรักษาต่อเนื่องตามสิทธิ หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคเฉพาะที่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง ก็จะมีระบบส่งต่อเพื่อรักษาต่อไป ซึ่งขณะนี้ สธ. ได้ยกระดับให้ รพ.หัวหิน เป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 340 เตียง เป็นศูนย์อุบัติเหตุ และศูนย์โรคหัวใจ ดูแลประชาชนในพื้นที่ อ.หัวหิน และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และเพชรบุรี ตามแผนเขตบริการสุขภาพ
ด้าน นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า วันที่ 21 เม.ย. มีประชาชนใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และใกล้เคียงมารับบริการและคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 16 ด้าน ได้แก่ คลินิกโรคทั่วไป แพทย์แผนไทยและฝังเข็ม ให้คำปรึกษาสุขภาพจิต ทันตกรรม กระดูกและข้อ ตา ทางเดินอาหาร รถเอกซเรย์เต้านม รถเอกซเรย์ สมองและประสาท หูคอจมูก ดูผลเอกซเรย์และอัลตราซาวนด์ หัวใจและหลอดเลือด ก้อนที่เต้านม เด็ก และโรคผิวหนัง ประมาณ 3,000 ราย ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงตั้งเป้าว่าจะทำการจัดโครงการแพทย์อาสาทุกปีเพื่อช่วยเหลือและตอบแทนประชาชน รวมถึงทำให้ประชาชนได้รับความรู้และคำแนะนำที่ดีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่โรงพยาบาลหัวหิน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเปิดโครงการแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ครั้งที่ 2 โดยมีพระราชดำรัสตอนหนึ่ง ว่า
ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มาเปิดโครงการแพทย์อาสาเฉพาะทางฯ และทราบว่ากิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาการเข้าถึงการรักษาโดยแพทย์ในระดับผู้เชี่ยวชาญของพื้นที่โดยรอบการออกหน่วยแพทย์อาสา 3 จังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และราชบุรี การแพทย์และการสาธารณสุขของไทยมีความก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ โดยสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงให้ความสำคัญกับการแพทย์และการสาธารณสุขของไทยอย่างยิ่ง และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงจัดตั้งหน่วยแพทย์และมูลนิธิที่สำคัญขึ้น คือหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. และมูลนิธิ พอ.สว. หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสิ้นพระชนน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพเจ้าเป็นประธานมูลนิธิจนถึงปัจจุบัน
บุคลากรทางการแพทย์และผู้เกี่ยวข้องทุกระดับจะต้องมีหลักธรรม คุณธรรม และจริยธรรม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและความผาสุกในสังคม การที่ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นผู้บริหารทางการแพทย์ระดับสูง ในหลักสูตรธรรมาภิบาลสำหรับผู้บริหารทางการแพทย์ของแพทยสภาและสถาบันพระปกเกล้าได้มาร่วมแรงร่วมใจ สร้างกิจกรรมเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนจึงเป็นสิ่งหน้ายินดียิ่ง ข้าพเจ้าขอชื่นชมบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ตั้งใจดีร่วมกันหาหนทางแก้ ปัญหาเพื่อให้ประเทศของเรามีความเจริญรุ่งเรื่องด้านการแพทย์ และสาธารณสุขอย่างมั่นคงถาวรสืบไป ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผู้ป่วยที่พบว่าเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาในวันเดียวได้ จะมีการนัดตรวจรักษาต่อเนื่องตามสิทธิ หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคเฉพาะที่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง ก็จะมีระบบส่งต่อเพื่อรักษาต่อไป ซึ่งขณะนี้ สธ. ได้ยกระดับให้ รพ.หัวหิน เป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 340 เตียง เป็นศูนย์อุบัติเหตุ และศูนย์โรคหัวใจ ดูแลประชาชนในพื้นที่ อ.หัวหิน และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และเพชรบุรี ตามแผนเขตบริการสุขภาพ
ด้าน นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า วันที่ 21 เม.ย. มีประชาชนใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และใกล้เคียงมารับบริการและคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 16 ด้าน ได้แก่ คลินิกโรคทั่วไป แพทย์แผนไทยและฝังเข็ม ให้คำปรึกษาสุขภาพจิต ทันตกรรม กระดูกและข้อ ตา ทางเดินอาหาร รถเอกซเรย์เต้านม รถเอกซเรย์ สมองและประสาท หูคอจมูก ดูผลเอกซเรย์และอัลตราซาวนด์ หัวใจและหลอดเลือด ก้อนที่เต้านม เด็ก และโรคผิวหนัง ประมาณ 3,000 ราย ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงตั้งเป้าว่าจะทำการจัดโครงการแพทย์อาสาทุกปีเพื่อช่วยเหลือและตอบแทนประชาชน รวมถึงทำให้ประชาชนได้รับความรู้และคำแนะนำที่ดีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย