เลขาฯ กพฐ. ไม่แน่ใจ “พชรพงศ์” ผอ.สตรีวิทยา 2 มารายงานตัวหรือยัง เหตุไม่ต้องรายงานตรงที่เจ้าตัว แจงไม่ได้ดึงตัว ผอ.สตรีวิทยา 2 เพื่อรอถึงฤดูกาลโยกย้าย ระบุอำนาจโยกย้ายเป็นของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯ ซึ่งต้องดูผลสอบข้อเท็จจริงด้วย ขณะที่ รองเลขาฯ กพฐ. เผยระเบียบราชการกำหนดชัดภายใน 15 วันหากไม่มารายงานตัวโดยไม่แจ้งเหตุผล โทษถึงขั้นไล่ออก
วันนี้ (17 เม.ย.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีคำสั่งให้ นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 มาปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวที่ สำนักบริหารงานมัธยมศึกษาตอนปลาย (สมป.) สพฐ. ในระหว่างที่คณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 2 กรุงเทพมหานคร ทำการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีคลิปเสียงขอเงินนายตัน ภาสกรนที ของวงโยธวาทิตโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เพื่อเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยให้มารายงานตัวที่ สพฐ. ในวันนี้ ว่า ตามขั้นตอนแล้ว นายพชรพงศ์ ไม่ต้องมารายงานตัวกับตนโดยตรง แต่จะต้องไปรายงานกับทางฝ่ายธุรการแต่ไม่ทราบว่าไปรายงานแล้วหรือยัง ทั้งนี้ เข้าใจว่านายพชรพงศ์ เป็นกรรมการในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา สพม. 2 จึงจำเป็นต้องมาปฏิบัติงานที่ สพฐ. เป็นการชั่วคราวเพื่อให้การทำงานของคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างสะดวก ได้มีเวลาเข้าไปสอบสวนเพิ่มเติมภายในโรงเรียนผู้ให้ปากคำก็จะได้สบายใจ ซึ่งตนคงไม่ไปเร่งรัดอะไรมากเพราะนอกจากตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว สพม. 2 ยังต้องดำเนินการจัดสอบครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1/2557 ด้วย
อย่างไรก็ตาม กรณีที่บอกว่าการให้นายพชรพงศ์ มาปฏิบัติงานที่ สพฐ. เพื่อรอจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่มีการโยกย้ายนั้น ในข้อเท็จจริงแล้วการโยกย้ายหรือไม่นั้นก็จะต้องรอผลสอบข้อเท็จจริงด้วย ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลจากการสอบปากคำมาแล้วเราก็ต้องให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสชี้แจงเช่นกันและนำมาพิจารณา รวมถึงกรณีที่ระบุว่าคนในพื้นที่ไม่ยอมรับหากจะย้ายกลับไปยังโรงเรียนสตรีวิทยา 2 อาจจะมีปัญหาได้นั้นประเด็นเหล่านี้ก็จะถูกนำมารวมในสำนวนการสืบหาข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการจะต้องลงไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม อำนาจในการโยกย้าย ผอ. โรงเรียน เป็นของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งมีการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการโยกย้ายไว้และยังข้อกำหนดว่าเพื่อประโยชน์ทางราชการ เพราะฉะนั้น หากพบและมีหลักฐานว่ากระทำผิดคลาดเคลื่อนไปจากระเบียบทาง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯ ก็สามารถนำมาประกอบการพิจารณาได้
ด้าน นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ตามระเบียบราชการแล้วหากไม่มารายงานตัวภายใน 15 วันจะถือว่าขาดราชการเกินกว่าที่กำหนดโดยไม่แจ้งเหตุผล ซึ่งโทษสูงสุดคือไล่ออก แต่โดยทั่วไปก็จะมารายงานตัวภายในกำหนด ทั้งนี้ แม้ว่าเจ้าตัวจะรายงานด้วยวาจาแล้วตามระเบียบก็จะต้องส่งใบลาด้วย เพราะฉะนั้น ก่อนหน้าที่ นายพชรพงศ์ ได้รายงานตัวทางโทรศัพท์ต่อ สพม. 2 แจ้งว่าป่วยเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมาก็จะส่งใบลาและจะต้องไปรายงานตัวด้วยตนเองทั้งที่ สพม. 2 และ สพฐ. ภายในระยะเวลาที่กำหนด
วันนี้ (17 เม.ย.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีคำสั่งให้ นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 มาปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวที่ สำนักบริหารงานมัธยมศึกษาตอนปลาย (สมป.) สพฐ. ในระหว่างที่คณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 2 กรุงเทพมหานคร ทำการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีคลิปเสียงขอเงินนายตัน ภาสกรนที ของวงโยธวาทิตโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เพื่อเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยให้มารายงานตัวที่ สพฐ. ในวันนี้ ว่า ตามขั้นตอนแล้ว นายพชรพงศ์ ไม่ต้องมารายงานตัวกับตนโดยตรง แต่จะต้องไปรายงานกับทางฝ่ายธุรการแต่ไม่ทราบว่าไปรายงานแล้วหรือยัง ทั้งนี้ เข้าใจว่านายพชรพงศ์ เป็นกรรมการในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา สพม. 2 จึงจำเป็นต้องมาปฏิบัติงานที่ สพฐ. เป็นการชั่วคราวเพื่อให้การทำงานของคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างสะดวก ได้มีเวลาเข้าไปสอบสวนเพิ่มเติมภายในโรงเรียนผู้ให้ปากคำก็จะได้สบายใจ ซึ่งตนคงไม่ไปเร่งรัดอะไรมากเพราะนอกจากตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว สพม. 2 ยังต้องดำเนินการจัดสอบครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1/2557 ด้วย
อย่างไรก็ตาม กรณีที่บอกว่าการให้นายพชรพงศ์ มาปฏิบัติงานที่ สพฐ. เพื่อรอจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่มีการโยกย้ายนั้น ในข้อเท็จจริงแล้วการโยกย้ายหรือไม่นั้นก็จะต้องรอผลสอบข้อเท็จจริงด้วย ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลจากการสอบปากคำมาแล้วเราก็ต้องให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสชี้แจงเช่นกันและนำมาพิจารณา รวมถึงกรณีที่ระบุว่าคนในพื้นที่ไม่ยอมรับหากจะย้ายกลับไปยังโรงเรียนสตรีวิทยา 2 อาจจะมีปัญหาได้นั้นประเด็นเหล่านี้ก็จะถูกนำมารวมในสำนวนการสืบหาข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการจะต้องลงไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม อำนาจในการโยกย้าย ผอ. โรงเรียน เป็นของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งมีการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการโยกย้ายไว้และยังข้อกำหนดว่าเพื่อประโยชน์ทางราชการ เพราะฉะนั้น หากพบและมีหลักฐานว่ากระทำผิดคลาดเคลื่อนไปจากระเบียบทาง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯ ก็สามารถนำมาประกอบการพิจารณาได้
ด้าน นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ตามระเบียบราชการแล้วหากไม่มารายงานตัวภายใน 15 วันจะถือว่าขาดราชการเกินกว่าที่กำหนดโดยไม่แจ้งเหตุผล ซึ่งโทษสูงสุดคือไล่ออก แต่โดยทั่วไปก็จะมารายงานตัวภายในกำหนด ทั้งนี้ แม้ว่าเจ้าตัวจะรายงานด้วยวาจาแล้วตามระเบียบก็จะต้องส่งใบลาด้วย เพราะฉะนั้น ก่อนหน้าที่ นายพชรพงศ์ ได้รายงานตัวทางโทรศัพท์ต่อ สพม. 2 แจ้งว่าป่วยเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมาก็จะส่งใบลาและจะต้องไปรายงานตัวด้วยตนเองทั้งที่ สพม. 2 และ สพฐ. ภายในระยะเวลาที่กำหนด