ครูอิสลามส่งมอบคัมภีร์อัล-กุรอาน อายุ 260 ปีให้กรมศิลป์ซ่อมแซม พร้อมจัดแสดงให้ปชช.ชม ด้านกรมศิลป์ ทุ่มงบ 142 ล้านสร้างพิพิธภัณฑ์อัล-กุรอานเก็บเอกสารมุสลิมโบราณ คาด 3 ปีสร้างเสร็จ
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยนางสุรีรัตน์ วงศ์เสงี่ยม รองธิบดีกรมศิลปากร รับมอบคัมภีร์อัล-กุรอานโบราณอายุ 260 ปี จากนายมาหะมะลุตฟี หะยีสาแม ผู้บริหารสถานศึกษาสอนศาสนาอิสลามโรงเรียนสมานมิตรวิทยา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดยนายเอนก กล่าวว่า หลังจากนี้ จะมอบหมายให้กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ ของกรมศิลปากรดำเนินการซ่อมแซมคัมภีร์ เนื่องจากพบว่าคัมภีร์ดังกล่าวมีความชื้น ตัวอักษรที่เขียนด้วยลายมือเริ่มเลือนลาง และหลังจากซ่อมแซมแล้วเสร็จก็จะนำมาจัดแสดงยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสศึกษา
นายเอนก กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์คัมภีร์อัล-กุรอาน เพื่อจัดเก็บรวบรวมคัมภีร์อัล-กุรอาน เอกสารโบราณและจัดแสดงองค์ความรู้ด้านศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี ของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานทางวิชาการชาวมุสลิม เบื้องต้นจากการหารือจะตั้งพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวที่ โรงเรียนสมานมิตรวิทยา เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 คาดว่าจะใช้เวลาจัดสร้างทั้งหมด 3 ปี แล้วเสร็จในปี 2559 ใช้งบประมาณจัดสร้างทั้งหมด 142 ล้านบาท โดยขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดสรรงบระมาณมาให้แล้ว 2.5 ล้านบาท
นายมาหะมะลุตฟี กล่าวว่า สำหรับคัมภีร์ที่นำมามอบให้เป็นคัมภีร์ที่เขียนด้วยลายมือ เมื่อปี 2297 หรือประมาณ 260 ปี ตัวคัมภีร์ล้อมด้วยกรอบทองคำเปลว ใช้สีดำ เขียว แดง หนาประมาณ 300 หน้า เป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นบิดาของตน คาดว่ามีชาวบ้านในพื้นที่แหลมมลายูนำมามอบให้ ทั้งนี้ การนำคัมภีร์ดังกล่าวมามอบให้กรมศิลป์เพราะต้องการให้กรมศิลป์ได้เก็บรักษาอย่างถูกวิธี และให้ผู้สนใจได้เรียนรู้
"ที่ ร.ร.สมานมิตรวิทยายังมีคัมภีร์อัล-กุรอาน และคัมภีร์โบราณที่ชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้นำมามอบให้กว่า 70 เล่ม คัมภีร์บางเล่มมีอายุกว่า 1,200 ปี นอกจากนี้ที่ผ่านมาตนได้นำคัมภีร์บางส่วนที่ชำรุดส่งไปซ่อมแซมที่ตุรกี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากพิพิธภัณฑ์ซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างเสร็จตนก็จะรวบรวบคัมภีร์และเอกสารทั้งหมดไปจัดเก็บและจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ดังกล่าว” นายมาหะมะลุตฟี กล่าว
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยนางสุรีรัตน์ วงศ์เสงี่ยม รองธิบดีกรมศิลปากร รับมอบคัมภีร์อัล-กุรอานโบราณอายุ 260 ปี จากนายมาหะมะลุตฟี หะยีสาแม ผู้บริหารสถานศึกษาสอนศาสนาอิสลามโรงเรียนสมานมิตรวิทยา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดยนายเอนก กล่าวว่า หลังจากนี้ จะมอบหมายให้กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ ของกรมศิลปากรดำเนินการซ่อมแซมคัมภีร์ เนื่องจากพบว่าคัมภีร์ดังกล่าวมีความชื้น ตัวอักษรที่เขียนด้วยลายมือเริ่มเลือนลาง และหลังจากซ่อมแซมแล้วเสร็จก็จะนำมาจัดแสดงยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสศึกษา
นายเอนก กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์คัมภีร์อัล-กุรอาน เพื่อจัดเก็บรวบรวมคัมภีร์อัล-กุรอาน เอกสารโบราณและจัดแสดงองค์ความรู้ด้านศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี ของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานทางวิชาการชาวมุสลิม เบื้องต้นจากการหารือจะตั้งพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวที่ โรงเรียนสมานมิตรวิทยา เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 คาดว่าจะใช้เวลาจัดสร้างทั้งหมด 3 ปี แล้วเสร็จในปี 2559 ใช้งบประมาณจัดสร้างทั้งหมด 142 ล้านบาท โดยขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดสรรงบระมาณมาให้แล้ว 2.5 ล้านบาท
นายมาหะมะลุตฟี กล่าวว่า สำหรับคัมภีร์ที่นำมามอบให้เป็นคัมภีร์ที่เขียนด้วยลายมือ เมื่อปี 2297 หรือประมาณ 260 ปี ตัวคัมภีร์ล้อมด้วยกรอบทองคำเปลว ใช้สีดำ เขียว แดง หนาประมาณ 300 หน้า เป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นบิดาของตน คาดว่ามีชาวบ้านในพื้นที่แหลมมลายูนำมามอบให้ ทั้งนี้ การนำคัมภีร์ดังกล่าวมามอบให้กรมศิลป์เพราะต้องการให้กรมศิลป์ได้เก็บรักษาอย่างถูกวิธี และให้ผู้สนใจได้เรียนรู้
"ที่ ร.ร.สมานมิตรวิทยายังมีคัมภีร์อัล-กุรอาน และคัมภีร์โบราณที่ชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้นำมามอบให้กว่า 70 เล่ม คัมภีร์บางเล่มมีอายุกว่า 1,200 ปี นอกจากนี้ที่ผ่านมาตนได้นำคัมภีร์บางส่วนที่ชำรุดส่งไปซ่อมแซมที่ตุรกี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากพิพิธภัณฑ์ซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างเสร็จตนก็จะรวบรวบคัมภีร์และเอกสารทั้งหมดไปจัดเก็บและจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ดังกล่าว” นายมาหะมะลุตฟี กล่าว