“อ๋อย” สวนกลับ กกต.จับผิดเรื่องไม่เป็นเรื่องแทนที่จะดูว่าใครขัดขวางเลือกตั้ง ยันไม่เคยใช้อำนาจเพื่อออกทีวี ชี้การพูดในฐานะรักษาการ รมว.ศึกษาฯ เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญ ลั่นพร้อมชี้แจงและพร้อมสู้ทุกคดี
วันนี้ (14 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการตรวจสอบการใช้สื่อของรัฐ (สถานีโทรทัศน์ช่อง 11) ของผู้สมัครพรรคเพื่อไทยซึ่งมีการออกอากาศ ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.-7 มี.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง เพราะอาจเข้าข่ายก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง ว่า หากจะให้ตนไปชี้แจงหรือดำเนินคดีก็พร้อมที่จะไปสู่คดีทุกเรื่อง แต่รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นเหตุเป็นผลที่จะมาจ้องเล่นงานผู้สมัครหรือรัฐมนตรีที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกว่าจะเกิดความสับสนในประเด็นนี้ เพราะการไปออกทีวีของตนไม่ได้ไปออกในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้ง และการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งก็ไม่ใช่จะถูกตัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ได้ ส่วนที่บอกว่าเป็นรัฐมนตรีแล้วไปใช้อำนาจสั่งการ เพื่อให้ออกทีวีนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ไปใช้อำนาจหรือใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อจะได้ออกทีวี และการไปออกทีวีของตนที่ผ่านมานั้น คนจัดรายการก็เป็นผู้เชิญไปออก และตนไม่มีหน้าที่ไปกำกับหรือควบคุมทีวีเหล่านั้นด้วย ทั้งนี้ ปกติปัญหาที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง คือรัฐมนตรีไปใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเอง เพื่อให้คุณให้โทษกับผู้สมัคร เช่น ตนในฐานะ รมว.ศึกษาธิการ ไปบอกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ไปช่วยผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง หรือให้มีการพัฒนาโรงเรียนไหนแล้วให้ประชาชนไปเลือกพรรคการเมืองนั้นๆ อย่างนี้ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ ดังนั้น หากพูดในฐานะรักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพราะเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่เห็นจะเป็นประเด็นที่จะมาเอาความผิดกับตน
“การที่ กกต.มาจ้องเอาเรื่องกับผู้ที่รับสมัครเลือกตั้ง หรือรัฐมนตรีที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง แทนที่จะสนใจไปตรวจสอบว่ามีใครขัดขวางการเลือกตั้งบ้างหรือไม่ ใครทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในเรื่องใดบ้าง และได้ไปดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้นมากน้อยแค่ไหน ถ้า กกต.ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ก็ควรไปดูปัญหาเหล่านี้ ไม่ใช่มาจ้องจับผิดผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ใช้สิทธิเสรีภาพตามปกติ แล้วหาทางเอาผิดกันให้ได้ แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของ กกต.บางคนเท่านั้น และหวังว่ากกต.ส่วนใหญ่จะเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย และเสรีภาพของคนที่แสดงความคิดเห็น” นายจาตุรนต์ กล่าว
