xs
xsm
sm
md
lg

“สมเด็จพระเทพฯ” พระราชทานเพลิงศพ “สมเด็จเกี่ยว” 9 มี.ค.หอ จม.เหตุจ่อบันทึกงานเคลื่อนศพพระราชาคณะที่ใหญ่ที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คณะสงฆ์ไทย-เทศ กว่า 2 หมื่นรูปร่วมขบวนเคลื่อนศพสมเด็จเกี่ยว วันที่ 9 มี.ค.นี้ โดย ในหลวง โปรดเกล้าฯ สมเด็จพระเทพฯ เป็นประธานงานพระราชทานเพลิงศพ วัดสระเกศฯ ชวนพุทธศาสนิกชนแต่งขาวร่วมขบวน ขณะที่หอจดหมายเหตุเตรียมบันทึกเหตุการณ์เคลื่อนศพสมเด็จพระราชาคณะใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ รวมทั้งเปิดตัวเพลง บัวบานกลางหิมะ และแสงแห่งดาว เพื่อบูชาสมเด็จเกี่ยว

วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ หลวงพ่อดวงดี วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร พระวิจิตรธรรมาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ  แถลงข่าวแจ้งเส้นทางเชิญโกศศพด้วยรถวอจัตุรมุข ในการพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชและเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ในวันที่ 8-10 มี.ค.โดยในวันที่ 9 มี.ค.ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพ ที่เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เวลา 17.00 น.

ทั้งนี้ สำหรับพิธีในวันที่ 8 มี.ค.เวลา 17.00 น.จะมีพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานในการออกเมรุ ณ ศาลาการเปรียญ ส่วนวันที่ 9 มีนาคม ซึ่งเป็นวันพระราชทานเพลิงศพ ในช่วงเช้าเวลา 10.30 น.จะมีพิธีสวดพระพุทธมนต์ ถวายพระพรพระที่วัดสระเกศฯ พร้อมกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานผ้าไตรบังสุกุล จากนั้นเวลา 12.30 น.จะเชิญโกศศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ ขึ้นรถวอจัตุรมุข เพื่อเคลื่อนจากศาลาการเปรียญวัดสระเกศฯ ไปยังเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทร์ โดยใช้เส้นทางจากวัดสระเกศ เลี้ยวขวาสี่แยกแม้นศรี ไปตามเส้นทางถนนบำรุงเมือง เลี้ยวขวาแยกกษัตริย์ศึก ไปตามถนนกรุงเกษม เลี้ยวขวาแยกนพวงษ์ ไปตามทางถนนหลวง ก่อนเลี้ยวขวาเข้าวัดเทพศิรินทร์

ขบวนดังกล่าวจัดเป็นขบวนการเคลื่อนศพสมเด็จพระราชาคณะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์  ซึ่งขณะนี้มีพระสงฆ์แจ้งความจำนงเข้าร่วมขบวนแล้วกว่า 20,000 รูป พร้อมด้วยชาวพุทธจากต่างประเทศอีกประมาณ 2,000 คน ซึ่งยังไม่รวมพุทธศาสนิกชนที่จะเข้าร่วมขบวนอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ ขอให้พุทธศาสนิกชนที่จะเข้าร่วมขบวนแต่งกายชุดสีขาว เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กล่าวและว่า ในวันดังกล่าวหอจดหมายเหตุแห่งชาติ  จะมาบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวกัน ผู้ที่เฝ้าสักการะตามรายทางสามารถเดินเข้าร่วมขบวนได้

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กล่าวต่อว่า ส่วนในวันที่ 10 มี.ค.เวลา 07.00 น.จะมีการเชิญอัฐิสมเด็จพระพุฒาจารย์กลับมายังตำหนักสมเด็จวัดสระเกศฯ อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่มาร่วมงานในวันดังกล่าว ทางคณะสงฆ์วัดสระเกศฯ และคณะศิษยานุศิษย์ เตรียมของที่ระลึกมอบแก่พุทธศาสนิกชน ผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย  1.พระไตรปิฎก ฉบับที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้มีบัญชาให้ชำระ โดยมหาเถรสมาคม จัดพิมพ์พระไตรปิฎก ทั้งภาษาไทย และภาษาบาลี ฉบับเฉลิมพระเกียรติในพิธีมหามงคลสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ  60 ปี  2.หนังสือภาพเล่าเรื่องประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์  3.หนังสือประวัติวัดสระเกศฯ และประวัติพระบรมสารีริกธาตุ  4.หนังสือเย็นหิมะในรอยธรรม เป็นหนังสือที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ สะท้อนถึงแนวคิดการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ 5.สมันตปาสาธิกา  เป็นผลงานแปลของสมเด็จพระพุฒาจารย์  โดยหนังสือสมันตปาสาธิกา คือ คัมภีร์อรรถกถาที่อธิบายขยายความพระวินัยปิฎก และสมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้แปลไว้ ตั้งแต่ปี 2497 เมื่อครั้งเป็นครูสอนบาลี ประโยค ป.ธ.7 และได้ถูกนำมาตีพิมพ์ เป็นหนังสือที่ระลึกในวาระออกพระเมรุ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) เมื่อปี 2508 ซึ่งเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนบาลี ประโยค ป.ธ.7 เป็นอย่างมาก และ 6. ล็อกเกตและเหรียญที่ระลึก สมเด็จพระพุฒาจารย์ ทั้งนี้สำหรับผู้ที่มาร่วมงานแล้วไม่ได้รับของทีระลึกทางวัดจะแจกคูปองเพื่อมารับหนังสือในภายหลัง

ขณะเดียวกัน ศิลปินวง “โฮป” ซึ่งเป็นหนึ่งคณะศิษยานุศิษย์ได้มีการแต่งเพลงเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์ เนื่องในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ได้แก่ เพลงบัวบานกลางหิมะ และแสงแห่งดาว เพื่อบูชาสมเด็จพระพุฒาจารย์ ที่เผยแพร่ศาสนาไปทั่วโลกและจะจัดทำซีดีแจกในงานดังกล่าวด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น