อย.เตือนสาวท่องราตรี “วันวาเลนไทน์” ระวังเสียสาวจากการถูกวางยาสลบ หรือยานอนหลับ แนะ 7 วิธีปฏิบัติช่วยรอดพ้นสถานการณ์เป็นเหยื่อกามารมณ์หื่นกาม
นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การก่ออาชญากรรมล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิง โดยการใช้ยาสลบผสมในเครื่องดื่ม ซึ่งจะทำให้เหยื่อหมดความรู้สึกและการรับรู้ รวมทั้งยับยั้งระบบประสาทอัตโนมัติ หรือผสมยานอนหลับ ซึ่งจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วงซึม มึนงง และอาจลืมว่าตัวเองทำอะไรบ้าง ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน แม้ยาสลบและยานอนหลับจะต้องใช้หรือสั่งจ่ายโดยแพทย์ก็ตาม ทั้งนี้ วันที่ 14 ก.พ.ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก อาจมีการเลี้ยงสังสรรค์โดยการดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ และอาจมีการละเมิดทางเพศโดยการใช้ยาสลบ หรือยานอนหลับผสมในเครื่องดื่มได้
นพ.ปฐม กล่าวอีกว่า ขอเตือนผู้หญิงว่าทางที่ดีควรป้องกันตนเองโดยยึดหลัก 7 ไม่ คือ 1.ไม่ไปร่วมงานคนเดียว ควรมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปด้วย 2.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 3.ไม่รับเครื่องดื่มจากคนที่เราไม่รู้จักดีหรือไม่สามารถเชื่อใจได้ 4.ไม่ดื่มอย่างรวดเร็ว เพราะหากเครื่องดื่มถูกใส่ยาลงไปจะได้มีเวลาที่จะระวังตัวได้ทัน 5.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกับผู้อื่น 6.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เพราะง่ายต่อการถูกใส่ยาหรืออาจถูกใส่ยาไปแล้ว และ 7.ไม่ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตน หากต้องเข้าห้องน้ำหรือออกไปเต้นรำ กลับมาแล้วควรเปลี่ยนแก้วใหม่ทันที
“ ขอฝากเตือนถึงผู้หญิงที่ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์หรือไปเที่ยวที่สถานบันเทิงต่างๆ ควรสังเกตภาชนะบรรจุว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยเจาะ หรือรอยปิดด้วยเทป หรือผ่านการเปิดฝามาก่อนไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ หรือน้ำอัดลม และเมื่อดื่มเครื่องดื่มแล้วพบว่ารสหรือกลิ่นของเครื่องดื่มผิดปกติหรือเปลี่ยนไปควรหลีกเลี่ยงการดื่มต่อ และหากมีอาการแปลกๆ เช่น รู้สึกมึนงงหลังจากดื่มไปได้เพียงเล็กน้อยให้รีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ไว้ใจ ปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า เพราะอาจจะเป็นคนที่ลอบวางยาได้ ” รองเลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การก่ออาชญากรรมล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิง โดยการใช้ยาสลบผสมในเครื่องดื่ม ซึ่งจะทำให้เหยื่อหมดความรู้สึกและการรับรู้ รวมทั้งยับยั้งระบบประสาทอัตโนมัติ หรือผสมยานอนหลับ ซึ่งจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วงซึม มึนงง และอาจลืมว่าตัวเองทำอะไรบ้าง ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน แม้ยาสลบและยานอนหลับจะต้องใช้หรือสั่งจ่ายโดยแพทย์ก็ตาม ทั้งนี้ วันที่ 14 ก.พ.ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก อาจมีการเลี้ยงสังสรรค์โดยการดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ และอาจมีการละเมิดทางเพศโดยการใช้ยาสลบ หรือยานอนหลับผสมในเครื่องดื่มได้
นพ.ปฐม กล่าวอีกว่า ขอเตือนผู้หญิงว่าทางที่ดีควรป้องกันตนเองโดยยึดหลัก 7 ไม่ คือ 1.ไม่ไปร่วมงานคนเดียว ควรมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปด้วย 2.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 3.ไม่รับเครื่องดื่มจากคนที่เราไม่รู้จักดีหรือไม่สามารถเชื่อใจได้ 4.ไม่ดื่มอย่างรวดเร็ว เพราะหากเครื่องดื่มถูกใส่ยาลงไปจะได้มีเวลาที่จะระวังตัวได้ทัน 5.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกับผู้อื่น 6.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เพราะง่ายต่อการถูกใส่ยาหรืออาจถูกใส่ยาไปแล้ว และ 7.ไม่ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตน หากต้องเข้าห้องน้ำหรือออกไปเต้นรำ กลับมาแล้วควรเปลี่ยนแก้วใหม่ทันที
“ ขอฝากเตือนถึงผู้หญิงที่ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์หรือไปเที่ยวที่สถานบันเทิงต่างๆ ควรสังเกตภาชนะบรรจุว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยเจาะ หรือรอยปิดด้วยเทป หรือผ่านการเปิดฝามาก่อนไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ หรือน้ำอัดลม และเมื่อดื่มเครื่องดื่มแล้วพบว่ารสหรือกลิ่นของเครื่องดื่มผิดปกติหรือเปลี่ยนไปควรหลีกเลี่ยงการดื่มต่อ และหากมีอาการแปลกๆ เช่น รู้สึกมึนงงหลังจากดื่มไปได้เพียงเล็กน้อยให้รีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ไว้ใจ ปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า เพราะอาจจะเป็นคนที่ลอบวางยาได้ ” รองเลขาธิการ อย.กล่าว