เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ฯทำหนังสือเปิดผนึกถึงข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ทุกกระทรวง อย่าใช้สิทธิเลือกตั้ง 2 ก.พ. พร้อมจี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาทางออก ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงจนเสียชีวิตของ ปชช. ด้านประชาคม สธ.ประณามการก่อเหตุรุนแรง ลั่นจะดูแลประชาชนตามจรรยาบรรณอย่างดีที่สุด
วันนี้ (31 ม.ค.) เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างของรัฐ ทุกกระทรวงทบวงกรม พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เรื่องขอใช้สิทธิในการไม่ไปเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 มีใจความว่า เป็นเวลาเกือบ 3 เดือน นับตั้งแต่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านสภาผู้แทนราษฎร เกิดการต่อต้านอย่างกว้างขวางของประชาชนทั้งประเทศ จนนำไปสู่การที่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 กระแสการตื่นตัวของประชาชนต่อปัญหาของประเทศทั้งในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเกิดการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง เพื่อแก้ปัญหาที่หมักหมมมานานหลายสิบปี ตั้งแต่ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความเหลื่อมล้ำและเป็นธรรมในสังคม ระบบการเมืองที่ผูกขาด การพัฒนาการศึกษาและปัญหาของชาติ ตลอดจนปัญหาอื่นๆ ซึ่งเป็นวงจรอุบาทว์ต่อการพัฒนาประเทศ
ในขณะที่รัฐบาลรักษาการไม่ได้แสดงความจริงใจในการปฏิรูปประเทศ มุ่งแต่จะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง จนก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงนำไปสู่ความสูญเสียเลือดเนื้อของประชาชนและมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อใกล้วันเลือกตั้ง เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งประกอบด้วย ประชาคมสาธารณสุข กลุ่มโรงเรียนแพทย์ 7 สถาบัน ประกอบด้วย ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยรังสิต และสภาวิชาชีพสาธารณสุข 7 สาขา ประกอบด้วย นายกแพทยสภา นายกทันตแพทยสภา นายกสภาเภสัชกรรม นายกสภาเทคนิคการแพทย์ นายกสภากายภาพบำบัด นายกสัตวแพทยสภา และเครือข่ายพยาบาลเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมแสดงจุดยืน เพื่อแก้ปัญหาของประเทศอย่างจริงจัง ดังนี้
1. ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 2. เพื่อแสดงให้สังคมเห็นถึงความสำคัญของการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะด้านการเมืองในประเด็นการได้มาซึ่งอำนาจ การใช้อำนาจและการตรวจสอบอำนาจรัฐ ประกอบกับข้อเสนอให้มีการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ไม่เป็นที่ยอมรับจากรัฐบาล เราจึงขอสงวนสิทธิในการเลือกตั้งโดยไม่ไปเลือกในวันที่ 2 ก.พ.2557 (NO VOTE) และ 3. ขอเชิญชวนให้ทุกท่านเข้าร่วมในการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังกับทุกภาคส่วน ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ด้าน ประชาคมสาธารณสุข ออกแถลงการณ์ประชาคมสาธารณสุขต่อเหตุการณ์การคุกคามบุคลากรสาธารณสุข ว่าท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศที่ทวีความรุนแรงจนเกิดการสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนไทย ประชาคมสาธารณสุขซึ่งประกอบด้วยชมรมวิชาชีพต่างๆ ในกระทรวงสาธารณสุขทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศด้วยความห่วงใย ซึ่งการแสดงออกต่างๆ โดยสงบ สันติ ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะกดดัน ข่มขู่ คุกคาม จนถึงการใช้ความรุนแรงต่อบุคลากรสาธารณสุขในหลายจังหวัด ประชาคมสาธารณสุขขอแสดงจุดยืนดังต่อไปนี้
1. เราจะยึดมั่นในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ ดูแลรักษาประชาชนโดยไม่เลือปฏิบัติ 2. เรามีสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ที่จะแสดงความคิดเห็นต่อความไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม ตลอดจนเสนอทางออกให้กับสังคม ในฐานะพลเมืองที่ดีของแผ่นดิน โดยไม่ละทิ้งหน้าที่และไม่ลิดรอนสิทธิของผู้อื่น 3. เราเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง ให้เกียรติและปฏิบัติต่อกันอย่างสุภาพชน และ 4. ขอประณามการข่มขู่ คุกคาม และการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อผู้ที่มีความแตกต่าง และจะยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องบุคลากรสาธารณสุขอย่างเต็มกำลัง
วันนี้ (31 ม.ค.) เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างของรัฐ ทุกกระทรวงทบวงกรม พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เรื่องขอใช้สิทธิในการไม่ไปเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 มีใจความว่า เป็นเวลาเกือบ 3 เดือน นับตั้งแต่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านสภาผู้แทนราษฎร เกิดการต่อต้านอย่างกว้างขวางของประชาชนทั้งประเทศ จนนำไปสู่การที่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 กระแสการตื่นตัวของประชาชนต่อปัญหาของประเทศทั้งในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเกิดการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง เพื่อแก้ปัญหาที่หมักหมมมานานหลายสิบปี ตั้งแต่ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความเหลื่อมล้ำและเป็นธรรมในสังคม ระบบการเมืองที่ผูกขาด การพัฒนาการศึกษาและปัญหาของชาติ ตลอดจนปัญหาอื่นๆ ซึ่งเป็นวงจรอุบาทว์ต่อการพัฒนาประเทศ
ในขณะที่รัฐบาลรักษาการไม่ได้แสดงความจริงใจในการปฏิรูปประเทศ มุ่งแต่จะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง จนก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงนำไปสู่ความสูญเสียเลือดเนื้อของประชาชนและมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อใกล้วันเลือกตั้ง เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งประกอบด้วย ประชาคมสาธารณสุข กลุ่มโรงเรียนแพทย์ 7 สถาบัน ประกอบด้วย ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยรังสิต และสภาวิชาชีพสาธารณสุข 7 สาขา ประกอบด้วย นายกแพทยสภา นายกทันตแพทยสภา นายกสภาเภสัชกรรม นายกสภาเทคนิคการแพทย์ นายกสภากายภาพบำบัด นายกสัตวแพทยสภา และเครือข่ายพยาบาลเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมแสดงจุดยืน เพื่อแก้ปัญหาของประเทศอย่างจริงจัง ดังนี้
1. ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 2. เพื่อแสดงให้สังคมเห็นถึงความสำคัญของการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะด้านการเมืองในประเด็นการได้มาซึ่งอำนาจ การใช้อำนาจและการตรวจสอบอำนาจรัฐ ประกอบกับข้อเสนอให้มีการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ไม่เป็นที่ยอมรับจากรัฐบาล เราจึงขอสงวนสิทธิในการเลือกตั้งโดยไม่ไปเลือกในวันที่ 2 ก.พ.2557 (NO VOTE) และ 3. ขอเชิญชวนให้ทุกท่านเข้าร่วมในการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังกับทุกภาคส่วน ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ด้าน ประชาคมสาธารณสุข ออกแถลงการณ์ประชาคมสาธารณสุขต่อเหตุการณ์การคุกคามบุคลากรสาธารณสุข ว่าท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศที่ทวีความรุนแรงจนเกิดการสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนไทย ประชาคมสาธารณสุขซึ่งประกอบด้วยชมรมวิชาชีพต่างๆ ในกระทรวงสาธารณสุขทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศด้วยความห่วงใย ซึ่งการแสดงออกต่างๆ โดยสงบ สันติ ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะกดดัน ข่มขู่ คุกคาม จนถึงการใช้ความรุนแรงต่อบุคลากรสาธารณสุขในหลายจังหวัด ประชาคมสาธารณสุขขอแสดงจุดยืนดังต่อไปนี้
1. เราจะยึดมั่นในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ ดูแลรักษาประชาชนโดยไม่เลือปฏิบัติ 2. เรามีสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ที่จะแสดงความคิดเห็นต่อความไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม ตลอดจนเสนอทางออกให้กับสังคม ในฐานะพลเมืองที่ดีของแผ่นดิน โดยไม่ละทิ้งหน้าที่และไม่ลิดรอนสิทธิของผู้อื่น 3. เราเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง ให้เกียรติและปฏิบัติต่อกันอย่างสุภาพชน และ 4. ขอประณามการข่มขู่ คุกคาม และการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อผู้ที่มีความแตกต่าง และจะยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องบุคลากรสาธารณสุขอย่างเต็มกำลัง