ผู้บาดเจ็บจากเหตุบึมบรรทัดทอง จวกคนขว้างระเบิดโหดเหี้ยม เพราะรู้ทั้งรู้ว่ามีคนมาชุมนุมเป็นพันเป็นหมื่นแต่ยังทำ เผยนาทีระทึกเห็นผู้หญิงล้มลงต่อหน้า จึงรีบเข้าไปช่วย แต่สุดท้ายถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่หัวไหล่และต้นขาเช่นกัน
วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี นายยะฤทธิ์ ทุ่งสว่าง อายุ 46 ปี ผู้ชุมนุม กปปส.จาก จ.นครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารับการรักษาจากเหตุการณ์ลอบปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุม กปปส.บริเวณถนนบรรทัดทอง ว่า เหตุการณ์ขณะนั้นเกิดขึ้นช่วงหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ตอนนั้นหัวขบวนเริ่มเดินนำออกไปก่อน ส่วนท้ายขบวนยังไม่ทันขยับก็เกิดเหตุปาระเบิดเข้ามา ซึ่งไม่ทราบเช่นกันว่าระเบิดนั้นมาจากทิศทางไหน แต่ตนเห็นน้องผู้หญิงที่อยู่บริเวณด้านหน้าตนล้มลงไป ก็เลยไปช่วย ส่วนตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเข้าที่หัวไหล่ และต้นขา จึงถูกนำตัวส่งมายังโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษาเรียบร้อยแล้ว โดยสะเก็ดระเบิดนั้นยังฝังอยู่ในร่างกาย แพทย์ไม่ได้ทำการผ่าตัดออก เนื่องจากสะเก็ดระเบิดชิ้นเล็กมาก หากผ่าตัดจะเป็นอันตรายมากกว่า
“ ผมเป็นคนปุถุชนธรรมดา พฤติกรรมการขว้างระเบิดใส่ผู้ชุมนุมที่มีคนเป็นพันเป็นหมื่นเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก รู้สึกเสียใจมากกับการกระทำแบบนี้ ” นายยะฤทธิ์ กล่าว
วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี นายยะฤทธิ์ ทุ่งสว่าง อายุ 46 ปี ผู้ชุมนุม กปปส.จาก จ.นครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารับการรักษาจากเหตุการณ์ลอบปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุม กปปส.บริเวณถนนบรรทัดทอง ว่า เหตุการณ์ขณะนั้นเกิดขึ้นช่วงหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ตอนนั้นหัวขบวนเริ่มเดินนำออกไปก่อน ส่วนท้ายขบวนยังไม่ทันขยับก็เกิดเหตุปาระเบิดเข้ามา ซึ่งไม่ทราบเช่นกันว่าระเบิดนั้นมาจากทิศทางไหน แต่ตนเห็นน้องผู้หญิงที่อยู่บริเวณด้านหน้าตนล้มลงไป ก็เลยไปช่วย ส่วนตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเข้าที่หัวไหล่ และต้นขา จึงถูกนำตัวส่งมายังโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษาเรียบร้อยแล้ว โดยสะเก็ดระเบิดนั้นยังฝังอยู่ในร่างกาย แพทย์ไม่ได้ทำการผ่าตัดออก เนื่องจากสะเก็ดระเบิดชิ้นเล็กมาก หากผ่าตัดจะเป็นอันตรายมากกว่า
“ ผมเป็นคนปุถุชนธรรมดา พฤติกรรมการขว้างระเบิดใส่ผู้ชุมนุมที่มีคนเป็นพันเป็นหมื่นเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก รู้สึกเสียใจมากกับการกระทำแบบนี้ ” นายยะฤทธิ์ กล่าว