xs
xsm
sm
md
lg

แฟชั่น “ผ้าไทย” สไตล์ GEN Y ใส่แล้วไม่แก่อย่างที่คิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมื่อพูดถึง “ผ้าไทย” เชื่อได้เลยว่าคนส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงภาพผู้สูงอายุสวมชุด “ผ้าไหม” ดูเชยๆ แก่ๆ โบราณๆ ไม่เหมาะที่วัยโจ๋ยุคใหม่อย่างเราจะนำมาสวมใส่

แต่สำหรับ นายจารุต ภิญโญกีรติ อาจารย์พิเศษสาขาการออกแบบแฟชั่นและการจัดการสินค้า คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวว่า จริงๆ แล้วผ้าไทยมีอีกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ผ้ามัดหมี่ ผ้าไหมแก้ว ผ้ามุง ดังนั้น “วิชาการตัดเย็บชั้นสูง” จึงให้นักศึกษาสาขาออกแบบแฟชั่นและการจัดการสินค้า ที่เป็นกลุ่มเจเนอเรชันวาย (GEN Y) ซึ่งส่วนใหญ่นักศึกษาจะออกแบบเป็นอย่างเดียว ไม่สามารถตัดเย็บได้ ได้มาเรียนรู้จักผ้าไทย และสามารถนำมาประยุกต์ มาออกแบบเป็นชุดราตรี ชุดโอกาสพิเศษที่สามารถใส่ในงาน รวมถึงชุดแต่งงาน และที่สำคัญได้สอนเทคนิคในเรื่องของการตัดเย็บขั้นสูงด้วย ทำให้นักศึกษารู้ถึงคุณสบบัติของผ้าไทย นำมาออกแบบและตัดเย็บให้เหมาะกับคนเจนวาย เพื่อลบภาพลักษณ์ที่ว่าวัยรุ่นไม่เหมาะที่จะใส่ผ้าไทยออกไป ซึ่งนักศึกษาได้ออกแบบและตัดเย็บมากถึง 60 ชุด 60 ไอเดีย

“ทุกวันนี้นักศึกษาจะมีไอเดียในการออกแบบ แต่ในเรื่องของการตัดเย็บ นักศึกษาจะมีทักษะทางด้านนี้น้อยมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย จึงอยากจะถ่ายทอดความรู้ที่ตนเองมีให้แก่นักศึกษา และอยากให้นักศึกษาทุกคนให้ความสำคัญในเรื่องรายละเอียดในเรื่องของการตัดเย็บ” นายจารุต กล่าว

ซึ่งจากการเรียนรู้การออกแบบ และการตัดเย็บ ก็ไม่ทำให้อาจารย์ต้องผิดหวัง เพราะเหล่านักศึกษาสามารถออกแบบ และตัดเย็บ “ผ้าไทย” ออกมาได้อย่างสวยสดงดงาม และสามารถนำไปใส่ออกงานได้ในชีวิตจริง และดูไม่แก่ ไม่เชย ไม่โบราณอย่างที่คิด

เจ้าของผลงานอย่าง นายอานนท์ ไอศะนาวิน หรือนนท์ เล่าว่า ชุดที่ออกแบบเป็นชุดแต่งงานสีขาว นำผ้าฝ้ายทอจากลำพูน และผ้าไหมแก้ว มาใช้ในการออกแบบ ที่เลือกผ้าทอลำพูน เพราะผ้ามีลวดลายที่สวยงาม โดยนำมาตัดเย็บเป็นช่วงบนของชุด โดยใช้ “เทคนิคคัตติ้ง” ตรงอก ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษที่ได้เรียนรู้จากอาจารย์ ส่วนกระโปรงของเจ้าสาว ใช้ผ้าไหมแก้ว จะมีลักษณะโปร่งแสง เน้นช่วงขา เน้นสรีระของผู้สวมใส่ มีการประดับด้วยขนนก เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ชุด หลังจากที่ได้ลงมือออกแบบ และตัดเย็บชุด ทำให้รู้ว่า ผ้าไทยสวยงาม ผ้าไทยสามารถนำมาตัดเย็บได้ และได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ จากอาจารย์พิเศษอีกด้วย

น.ส.จีระไน พลูวรรณ หรือบูล เล่าว่า ผ้าไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในออกแบบจะเน้นในเรื่องของความเรียบง่าย คำนึงถึงการสวมใส่สามารถใช้งานได้จริง เริดหรู สวมใส่ในงานกลางคืน นำผ้าฝ้ายทอมัดหมี่ ผ้าไหมเปลือกไม้ และผ้าลูกไม้มาใช้ในการออกแบบ ที่เลือกผ้าฝ้ายมัดหมี่ เนื่องจากเนื้อผ้านุ่ม สวมใส่สบาย มีลวดลายในตัว ผ้าไหมเปลือกไม้ มีความแข็งตัว เพิ่มรูปทรงให้ชุด และปักลูกไม้ไว้ข้างหลังชุด ผ้าไทยเป็นผ้าที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่น แต่คนไทยกลับไม่นิยม เมื่อพูดถึง made in Thailand จะไม่นิยม อยากให้ทุกคนหันมานิยมของไทย เพราะว่าผ้าไทยสวยมาก

นายภาณุวิชญ์ สังข์ทอ หรือปอนด์ เล่าว่า ออกแบบชุดราตรีสตรีอายุ 20-35 ปี ออกแบบด้วยผ้าไหมสี่เส้น ลักษณะเนื้อผ้าจะนูน ใส่สบาย ราคาไม่แพง ตัดเป็นราตรีเข้ารูป ตกแต่งปลายกระโปรงด้วยผ้ามุง ซึ่งใส่เทคนนิคการเพิ่มชายมุงเป็นชั้นๆ ทำให้ชายกระโปรงมีมิติ ทุกวันนี้ผ้าไทยถูกมองว่าจะเหมาะกับผู้สูงอายุ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผ้าไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ หรือว่าออกแบบให้เข้ากับยุคสมัยได้

หากวัยรุ่นเข้าใจ และเข้าถึงผ้าไทย สามารถดีไซน์ให้เอกลักษณ์ของผ้าไทยยังคงอยู่ และมีความร่วมสมัย เหมาะแก่การใส่ในโอกาสต่างๆ ก็เชื่อว่าผ้าไทยจะไม่หายไปจากสังคมไทย และอาจกลับมาฮิตอีกครั้งก็เป็นได้


นายจารุต ภิญโญกีรติ



กำลังโหลดความคิดเห็น