xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เผยยอดเจ็บรวมเหตุชุมนุม 127 ราย ตาย 3 ราย ใบ้สนิท รบ.ใช้สารสีม่วงใส่ผู้ชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สธ.เผยยอดบาดเจ็บรวมเหตุปะทะ ม.รามคำแหงและแก๊สน้ำตามี 127 ราย พบมีคนอยู่ในภาวะวิกฤต ผู้บาดเจ็บจากแก๊สน้ำตามีอาการหลอดลมตีบและระคายเคือง แจงยอดเสียชีวิตไม่ตรงกันเพราะมีการนับอาการสมองตาย ยันต้องระบุเมื่อเห็นศพเท่านั้น ชี้พบกระดูกบนรถบัสไม่อยู่ในความดูแลของ สธ. ใบ้สนิทเรื่องใช้สารสีม่วงใส่ผู้ชุมนุม บอกไม่มีข้อมูล
แฟ้มภาพ ใช้แก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่โรงพยาบาลสงฆ์   นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการแพทย์และสาธารณสุขส่วนหน้า (วอร์รูม) ร่วมกับศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และทีมแพทย์ฉุกเฉินว่า จากการประชุมร่วมกัน สธ.จะรับผิดชอบดูแลผู้ชุมนุมในพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือคือ กระทรวงการคลัง บริเวณราชดำเนิน และพื้นที่นางเลิ้ง มีพื้นที่รับผู้ป่วย คือ ลานจอดรถโรงพยาบาลรามาธิบดี จุดจอดรับที่แม็คโคร แจ้งวัฒนะ และบริเวณทางลงทางด่วนยมราช โดยมีทีมแพทย์ฉุกเฉินสนับสนุนจำนวน 40 ทีมจาก 25 จังหวัด นอกจากนี้ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ยังได้สนับสนุนเวชภัณฑ์ในการรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งน้ำเกลือ ยาหยอดตา และผงถ่าน (แอคติเวทเตด ชาร์โค) เพื่อชะล้างสารพิษ ซึ่งทางวอร์รูมจะเป็นผู้กระจายเวชภัณฑ์เหล่านี้ไปตามจุดที่มีการชุมนุมต่างๆ หากผู้ชุมนุมมีความต้องการน้ำเกลือ ยาหยอดตา หรือผงถ่าน สามารถโทรศัพท์ขอประสานได้ที่เบอร์ 08-6366-7154

นพ.ณรงค์กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลเมื่อเวลา 08.00 น. ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 127 ราย เสียชีวิต 3 ราย แบ่งเป็นเหตุการณ์ปะทะบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 71 ราย ยังเหลือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 26 ราย และจากเหตุการณ์ใช้แก๊สน้ำตาต่อผู้ชุมนุม มีผู้บาดเจ็บ 56 ราย ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 3 ราย ทั้งนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งที่ยังต้องรอดูอาการและรายที่อาการวิกฤต โดยผู้ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตาที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลมีอาการหลอดลมตีบและอาการระคายเคือง

จำนวนผู้เสียชีวิตได้มีการทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า จะรายงานต่อเมื่อระบุศพและเห็นศพเท่านั้น ซึ่งการรายงานผู้เสียชีวิต 4 รายใน วันทื่ 1 ธ.ค. เนื่องจากมี 1 รายที่มีอาการสมองตายทำให้เกิดความเข้าใจในการรายงานที่ไม่ตรงกัน ทั้งนี้ สธ.เน้นการดูแลประชาชนเป็นไปตามแผนปฏิบัติการเอราวัณ 2 และไม่แบ่งแยกฝักฝ่ายแต่อย่างใด โดยทุกโรงพยาบาลมีแผนปฏิบัติการพร้อมรับมืออยู่แล้ว ส่วนข่าวพบกระดูกในรถบัสหน้า ม.รามคำแหง ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ สธ. เพราะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคง ซึ่ง สธ.จะดูแลเฉพาะเรื่องการเจ็บป่วยเท่านั้น ” ปลัด สธ.กล่าว

นพ.ณรงค์กล่าวด้วยว่า การใช้แก๊สน้ำตาเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งจะมีการประสานหน่วยงานที่ใช้อีกครั้ง โดยในที่ประชุมแพทย์ฉุกเฉินได้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เป็นสารซัลฟา หรือออร์กาโนฟอสเฟส แต่ยังไม่มีข้อยืนยัน ซึ่งโดยทั่วไปสารที่อยู่ในแก๊สน้ำตา สามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ยังแนะนำให้ใช้น้ำเปล่าล้าง เปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนน้ำเกลือนั้นใช้บริเวณที่สำคัญ เช่น ดวงตา ส่วนบริเวณเยื่อบุตา เยื่อบุปาก จะระคายเคืองมากกว่าปกติ ส่วนผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อาจทำให้หลอดลมตีบและกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ สำหรับสารสีม่วงที่ใช้นั้นยังไม่มีข้อมูลและต้องรอการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ

ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การดูแลด้านสุขภาพจิตนั้น มีทีมปฏิบัติการที่คอยดูแลประชาชน โดยความเครียดจากการรับข่าวสารทางการเมืองนั้น การรับข่าวสารอาจต้องรับข่าวสารหลายๆ ด้านและจำกัดการรับข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งผ่อนคลายจากข้อมูลที่รับบ้าง โดยครอบครัวต้องให้ช่วยกันดูแลจิตใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพจิตอยู่เดิม


กำลังโหลดความคิดเห็น