อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เอ็มโอยูศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในการฝึกอาชีพแก่เด็กและเยาวชน หวังด็กไม่กลับมาทำผิดซ้ำ
วันนี้ (8 พ.ย.) นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กล่าวว่า เป็นการสร้างอาชีพให้เยาวชนที่หลงผิด ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ในหลักสูตร การทำเบเกอรี่ การตัดผม พร้อมสอดแทรกจริยธรรมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหลักสูตรให้เยาวชนที่อายุใกล้ครบ 18 ปี เช่น ช่างเชื่อม ช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศ ช่างซ่อมมือถือ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ และการประกอบอาชีพอิสระ ระยะเวลาการฝึก 60 ชั่วโมง โดยเน้นฝึกในภูมิลำเนาที่เยาวชนอาศัยอยู่ แต่ต้องห่างไกลจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ เพื่อไม่ให้หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก และขณะนี้ได้ฝึกนำร่องในจังหวัดสมุทรปราการ อุทัยธานี และนครปฐม จำนวน 16 คน และจะขยายไปยังจังหวัดอื่นทั่วประเทศ นอกจากนี้เยาวชนที่ผ่านการฝึกอบรมแล้ว กพร.จะออกหนังสือรับรองความสามารถให้ และส่งต่อให้กรมการจัดหางาน ช่วยหางานที่ตรงกับความสามารถให้ด้วย
ด้านนายสุภัทร อยู่ถนอม อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มีเจตนารมณ์ให้เด็กไม่มีคดีติดตัว โดยหากมีความประพฤติดีเจ้าหน้าที่ก็จะให้เด็กเข้ารับการฝึกอบรมกับทาง กพร.เพื่อให้มีวิชาความรู้ในการประกอบอาชีพไม่หวนกลับไปกระทำความผิดอีก ซึ่งเด็กและเยาวชนที่ผ่านการฝึกและมีความประพฤติดีศาลจะสามารถจำหน่ายคดีได้ เพื่อที่จะสามารถกลับเข้าสู่สังคมได้ และในวันจันทร์หน้า (11 พฤศจิกายน) จะทำหนังสือแจ้งไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศในการพิจารณาเยาวชนเข้าร่วมโครงการ
วันนี้ (8 พ.ย.) นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กล่าวว่า เป็นการสร้างอาชีพให้เยาวชนที่หลงผิด ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ในหลักสูตร การทำเบเกอรี่ การตัดผม พร้อมสอดแทรกจริยธรรมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหลักสูตรให้เยาวชนที่อายุใกล้ครบ 18 ปี เช่น ช่างเชื่อม ช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศ ช่างซ่อมมือถือ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ และการประกอบอาชีพอิสระ ระยะเวลาการฝึก 60 ชั่วโมง โดยเน้นฝึกในภูมิลำเนาที่เยาวชนอาศัยอยู่ แต่ต้องห่างไกลจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ เพื่อไม่ให้หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก และขณะนี้ได้ฝึกนำร่องในจังหวัดสมุทรปราการ อุทัยธานี และนครปฐม จำนวน 16 คน และจะขยายไปยังจังหวัดอื่นทั่วประเทศ นอกจากนี้เยาวชนที่ผ่านการฝึกอบรมแล้ว กพร.จะออกหนังสือรับรองความสามารถให้ และส่งต่อให้กรมการจัดหางาน ช่วยหางานที่ตรงกับความสามารถให้ด้วย
ด้านนายสุภัทร อยู่ถนอม อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มีเจตนารมณ์ให้เด็กไม่มีคดีติดตัว โดยหากมีความประพฤติดีเจ้าหน้าที่ก็จะให้เด็กเข้ารับการฝึกอบรมกับทาง กพร.เพื่อให้มีวิชาความรู้ในการประกอบอาชีพไม่หวนกลับไปกระทำความผิดอีก ซึ่งเด็กและเยาวชนที่ผ่านการฝึกและมีความประพฤติดีศาลจะสามารถจำหน่ายคดีได้ เพื่อที่จะสามารถกลับเข้าสู่สังคมได้ และในวันจันทร์หน้า (11 พฤศจิกายน) จะทำหนังสือแจ้งไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศในการพิจารณาเยาวชนเข้าร่วมโครงการ
