ทปอ.ราชภัฏทั่วประเทศเอาด้วย ออกแถลงการณ์ร่วมต้านร่าง กม.นิรโทษ ชี้เป็นแบบอย่างไม่ดี ด้านจุฬาฯระบุออกแถลงการณ์ต้านเพื่อแสดงพลังการมีส่วนร่วมปกครองประเทศ ชี้อยากให้วุฒิสภาเห็นประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง
ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) เปิดเผยว่า ทปอ.มรภ.ได้ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 พ.ย.56 คัดค้านการดำเนินการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของรัฐบาล โดยมติที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏในแต่ละกลุ่มทั่วประเทศ เห็นว่าสาระสำคัญในร่างกฎหมายดังกล่าวมิชอบและไม่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก เยาวชนของชาติ และสังคม รวมทั้งขัดหลักศีลธรรมอันดี ทปอ.มรภ.จึงขอให้ชะลอร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไปก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในสังคมที่อาจเกิดขึ้น
ด้านจุฬาฯออกแถลงการต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วอนวุฒิสภาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
แถลงการณ์องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เรื่อง คัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง
การแสดงออกทางการเมืองของประชาชนตามที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. .... เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ โดยเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวมีผลให้การดำเนินคดีความเกี่ยวกับการกระทำผิดของบุคคลหรือประชาชนอันเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองและการแสดงออกทางการเมือง การใช้อำนาจโดยมิชอบในการสั่งการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมไปถึงการกระทำอื่นที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน และการทุจริตประพฤติมิชอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิงองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะองค์กรซึ่งมีหน้าที่เป็นตัวแทนนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ จึงใช้สิทธิโดยชอบตามระบอบประชาธิปไตยในการเสนอความคิดเห็นเพื่อเป็นการแสดงพลังของนิสิตด้านการมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ
องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นองค์กรที่เห็นความสำคัญของความชอบด้วยกฎหมายอันเป็นหลักการสำคัญของกระบวนการทางกฎหมาย จึงมีมติคัดค้านการตราร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ที่ขัดต่อข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๑๑๗ วรรคสาม ความว่า “คณะกรรมาธิการอาจเพิ่มมาตราใหม่หรือตัดทอนหรือแก้ไขมาตราเดิมได้ แต่ต้องไม่ขัดกับหลักการแห่งพระราชบัญญัติ” เนื่องจากในการลงมติผ่านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้แก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ในวาระที่ ๒ ทำให้สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่เป็นไปตามหลักการที่สภาผู้แทนราษฎรได้รับหลักการไว้ในวาระที่ ๑ นำไปสู่การขยายผลประโยชน์ในการนิรโทษกรรมแก่บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการสั่งการหรือกระทำการใดๆ ที่ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่และกฎหมาย ซึ่งเป็นการขัดต่อหลักนิติธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ตลอดจนอาจทำให้เกิดบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องในอนาคตได้ รวมถึงอาจมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญอีกด้วย
องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีมติขอเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาใช้อำนาจที่ตนมีในวิถีทางแห่งประชาธิปไตย ยับยั้งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ และส่งพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ กลับไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง
โดยองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแถลงการณ์ฉบับนี้จะมีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ โดยยึดหลักประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
อนึ่ง องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มิได้ปิดกั้นความคิดของผู้มีความคิดเห็นต่างออกไป และเคารพความคิดเห็นอันหลากหลายซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ภายใต้กรอบของหลักการประชาธิปไตย
ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) เปิดเผยว่า ทปอ.มรภ.ได้ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 พ.ย.56 คัดค้านการดำเนินการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของรัฐบาล โดยมติที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏในแต่ละกลุ่มทั่วประเทศ เห็นว่าสาระสำคัญในร่างกฎหมายดังกล่าวมิชอบและไม่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก เยาวชนของชาติ และสังคม รวมทั้งขัดหลักศีลธรรมอันดี ทปอ.มรภ.จึงขอให้ชะลอร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไปก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในสังคมที่อาจเกิดขึ้น
ด้านจุฬาฯออกแถลงการต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วอนวุฒิสภาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
แถลงการณ์องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เรื่อง คัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง
การแสดงออกทางการเมืองของประชาชนตามที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. .... เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ โดยเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวมีผลให้การดำเนินคดีความเกี่ยวกับการกระทำผิดของบุคคลหรือประชาชนอันเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองและการแสดงออกทางการเมือง การใช้อำนาจโดยมิชอบในการสั่งการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมไปถึงการกระทำอื่นที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน และการทุจริตประพฤติมิชอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิงองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะองค์กรซึ่งมีหน้าที่เป็นตัวแทนนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ จึงใช้สิทธิโดยชอบตามระบอบประชาธิปไตยในการเสนอความคิดเห็นเพื่อเป็นการแสดงพลังของนิสิตด้านการมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ
องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นองค์กรที่เห็นความสำคัญของความชอบด้วยกฎหมายอันเป็นหลักการสำคัญของกระบวนการทางกฎหมาย จึงมีมติคัดค้านการตราร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ที่ขัดต่อข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๑๑๗ วรรคสาม ความว่า “คณะกรรมาธิการอาจเพิ่มมาตราใหม่หรือตัดทอนหรือแก้ไขมาตราเดิมได้ แต่ต้องไม่ขัดกับหลักการแห่งพระราชบัญญัติ” เนื่องจากในการลงมติผ่านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้แก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ในวาระที่ ๒ ทำให้สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่เป็นไปตามหลักการที่สภาผู้แทนราษฎรได้รับหลักการไว้ในวาระที่ ๑ นำไปสู่การขยายผลประโยชน์ในการนิรโทษกรรมแก่บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการสั่งการหรือกระทำการใดๆ ที่ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่และกฎหมาย ซึ่งเป็นการขัดต่อหลักนิติธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ตลอดจนอาจทำให้เกิดบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องในอนาคตได้ รวมถึงอาจมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญอีกด้วย
องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีมติขอเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาใช้อำนาจที่ตนมีในวิถีทางแห่งประชาธิปไตย ยับยั้งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ และส่งพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ กลับไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง
โดยองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแถลงการณ์ฉบับนี้จะมีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ โดยยึดหลักประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
อนึ่ง องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มิได้ปิดกั้นความคิดของผู้มีความคิดเห็นต่างออกไป และเคารพความคิดเห็นอันหลากหลายซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ภายใต้กรอบของหลักการประชาธิปไตย
