กรมแพทย์แผนไทยฯ เผยสมุนไพรหายากถูกทำลายเพียบ พบ “มะขามป้อม” หนึ่งในสูตรยาอายุวัฒนะ ถูกโค่นทั้งต้นจำนวนมากเพียงเพื่อเก็บผล ระบุใกล้สูญแล้ว เร่งวางแผนป้องกันพร้อมพัฒนาให้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในระยะยาว
นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวภายหลังการประชุมหารือเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์แชมเปียน เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพตามยุทธศาสตร์ให้ไทยเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพนานาชาติ ว่า กลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อสนับสนุนนโยบายการสร้างเสริมรายได้สุขภาพของประเทศ ทั้งด้านยา สมุนไพร อาหาร สินค้าพื้นเมือง และการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ โดยกรมฯ จะดูแลเรื่องการพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และมาตรฐานบริการสุขภาพด้านการแพทย์แผนไทยเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยปัจจุบันมีพืชสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ประมาณ 800-1,800 ชนิด หรือประมาณร้อยละ 15.5 ของสมุนไพรที่พบในประเทศประมาณ 11,625 ชนิด โดยมีพืชสมุนไพรที่หายากและถูกคุกคามจำนวน 1,131 ชนิด
“กรมฯกำลังเสนอแผนยุทธศาสตร์พัฒนาสมุนไพรไทยสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ปี 2557-2562 และจะคุ้มครองพืชสมุนไพรครบวงจร เพื่อสนับสนุนสมุนไพรสู่ตลาดโลกอย่างเป็นรูปธรรม โดยคัดเลือก 5 ชนิดที่ส่งเสริมให้เป็นผลิตภัณฑ์แชมเปียน คือ กวาวเครือขาว กระชายดำ ลูกประคบ ไพล และบัวบก โดยที่ผ่านมาสร้างรายได้จำนวนมาก เช่น อาหารเสริมมูลค่า 8 หมื่นล้านบาท เครื่องสำอาง 1.4 แสนล้านบาท ยาแผนโบราณ 2 ร้อยล้านบาท” นพ.ธวัชชัย กล่าว
นพ.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า จากการสำรวจยังพบว่า ขณะนี้มีพืชสมุนไพรที่กำลังขาดแคลนมีด้วยกันหลายชนิด จากหลายสาเหตุ เช่น สมุนไพรบางชนิดปลูกได้ยาก อย่างกวาวเครือใช้เวลาปลูกถึง 4 ปี มะขามใช้เวลาปลูกถึง 8 ปี ทำให้ไม่ค่อยมีเกษตรกรปลูกเพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสมุนไพร แต่ใช้วิธีเก็บจากในป่า แต่เก็บไม่ถูกวิธี โดยพบว่ามะขามป้อมที่มักพบในพื้นที่สูงภาคเหนือ ชาวบ้านใช้วิธีการโค่นต้นมะขามป้อมเพื่อเก็บลูก ทำให้พันธุ์พืชถูกทำลายลง หรือหญ้าคาที่ต้องนำเข้าจากประเทศจีน เพราะไทยมีปัญหาเรื่องการใช้สารเคมีจำนวนมาก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สมุนไพรอย่างมะขามป้อมนั้น เป็นตัวยาที่ใช้ผสมในตำรับยากว่า 100 ตำรับ และยังเป็นตัวยาที่สำคัญใน สมุนไพรตรีผลา ที่ถือเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งในสหรัฐอเมริกา รับรองผลและนำมาใช้ช่วยบำรุงร่างกายด้วย จึงจำเป็นต้องให้ความรู้ประชาชนในการเก็บสมุนไพรอย่างถูกต้อง และช่วยกันอนุรักษ์พันธุ์พืช
นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวภายหลังการประชุมหารือเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์แชมเปียน เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพตามยุทธศาสตร์ให้ไทยเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพนานาชาติ ว่า กลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อสนับสนุนนโยบายการสร้างเสริมรายได้สุขภาพของประเทศ ทั้งด้านยา สมุนไพร อาหาร สินค้าพื้นเมือง และการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ โดยกรมฯ จะดูแลเรื่องการพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และมาตรฐานบริการสุขภาพด้านการแพทย์แผนไทยเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยปัจจุบันมีพืชสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ประมาณ 800-1,800 ชนิด หรือประมาณร้อยละ 15.5 ของสมุนไพรที่พบในประเทศประมาณ 11,625 ชนิด โดยมีพืชสมุนไพรที่หายากและถูกคุกคามจำนวน 1,131 ชนิด
“กรมฯกำลังเสนอแผนยุทธศาสตร์พัฒนาสมุนไพรไทยสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ปี 2557-2562 และจะคุ้มครองพืชสมุนไพรครบวงจร เพื่อสนับสนุนสมุนไพรสู่ตลาดโลกอย่างเป็นรูปธรรม โดยคัดเลือก 5 ชนิดที่ส่งเสริมให้เป็นผลิตภัณฑ์แชมเปียน คือ กวาวเครือขาว กระชายดำ ลูกประคบ ไพล และบัวบก โดยที่ผ่านมาสร้างรายได้จำนวนมาก เช่น อาหารเสริมมูลค่า 8 หมื่นล้านบาท เครื่องสำอาง 1.4 แสนล้านบาท ยาแผนโบราณ 2 ร้อยล้านบาท” นพ.ธวัชชัย กล่าว
นพ.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า จากการสำรวจยังพบว่า ขณะนี้มีพืชสมุนไพรที่กำลังขาดแคลนมีด้วยกันหลายชนิด จากหลายสาเหตุ เช่น สมุนไพรบางชนิดปลูกได้ยาก อย่างกวาวเครือใช้เวลาปลูกถึง 4 ปี มะขามใช้เวลาปลูกถึง 8 ปี ทำให้ไม่ค่อยมีเกษตรกรปลูกเพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสมุนไพร แต่ใช้วิธีเก็บจากในป่า แต่เก็บไม่ถูกวิธี โดยพบว่ามะขามป้อมที่มักพบในพื้นที่สูงภาคเหนือ ชาวบ้านใช้วิธีการโค่นต้นมะขามป้อมเพื่อเก็บลูก ทำให้พันธุ์พืชถูกทำลายลง หรือหญ้าคาที่ต้องนำเข้าจากประเทศจีน เพราะไทยมีปัญหาเรื่องการใช้สารเคมีจำนวนมาก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สมุนไพรอย่างมะขามป้อมนั้น เป็นตัวยาที่ใช้ผสมในตำรับยากว่า 100 ตำรับ และยังเป็นตัวยาที่สำคัญใน สมุนไพรตรีผลา ที่ถือเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งในสหรัฐอเมริกา รับรองผลและนำมาใช้ช่วยบำรุงร่างกายด้วย จึงจำเป็นต้องให้ความรู้ประชาชนในการเก็บสมุนไพรอย่างถูกต้อง และช่วยกันอนุรักษ์พันธุ์พืช