รพ.จุฬาฯ ออกแถลงการณ์พระอาการสมเด็จพระสังฆราช รวมทั้งหมด 9 ฉบับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.ตรวจพบการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต และมีแผลติดเชื้อที่พระอันตะ และพระอนันตคุณ ซึ่งแถลงการณ์ต่อๆ มาพระอาการไม่คงที่ ทั้งทรงตัวและทรุดลง กระทั่งสิ้นพระชนม์จากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “พระอาการประชวรของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขณะประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย” ทั้งหมด 9 ฉบับ โดยฉบับที่ 1 นั้น เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2556 ระบุว่า ตามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2545 เป็นต้นมานั้น เช้าวันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้รายงานว่า สมเด็จพระสังฆราช ทรงประชวร และทรงมีความดันพระโลหิตต่ำ เนื่องมาจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการตรวจพบว่า พระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) และพระอันตคุณ (ลำไส้เล็ก) ขาดพระโลหิตและมีแผลติดเชื้อ จึงได้ถวายการรักษาด้วยการผ่าตัดพระอันตะและพระอันตคุณบางส่วนออก ภายหลังการผ่าตัดปรากฏว่าพระอาการโดยรวมดีขึ้น แต่ยังต้องติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ต่อมาวันที่ 15 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมดีขึ้น ไม่ทรงมีไข้ ความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สามารถลดปริมาณพระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิตได้โดยลำดับ ผลการตรวจพระโลหิตต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น ไม่ปรากฏภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะเพื่อควบคุมภาวะการติดเชื้อต่อไป
วันที่ 17 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่ทรงมีไข้ ความดันพระโลหิตและอัตราการเต้นของพระหทัยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ผลการตรวจพระโลหิตพบว่าพระยกนะ (ตับ) ทำงานดีขึ้น ความผิดปกติของเม็ดพระโลหิตเริ่มดีขึ้น ผลการเพาะเชื้อในพระโลหิตไม่พบเชื้อแต่อย่างไร แผลผ่าตัดอยู่ในสภาพดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน คณะแพทย์ฯ ยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะและเริ่มถวายพระกระยาหารและพระโอสถทางหลอดพระโลหิตดำ อนึ่ง คณะแพทย์ฯ ได้เชิญสมเด็จพระสังฆราช เสด็จจากหออภิบาลผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) กลับมาประทับ ณ ห้องที่ประทับ ตึกวชิรญาณ-สามัคคีพยาบาร ตั้งแต่เมื่อวานนี้
วันที่ 20 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 ระบุว่า ทรงมีความดันพระโลหิตลดต่ำลง และอัตราการเต้นของพระหทัยผิดปกติตั้งแต่ตอนบ่าย ผลการตรวจพระโลหิตพบว่า เม็ดพระโลหิตขาวเพิ่มสูงขึ้น เกล็ดพระโลหิตลดต่ำลง และมีความผิดปกติของการแข็งตัวของพระโลหิต ผลการตรวจการทำงานของพระยกนะ (ตับ) พบความผิดปกติเพิ่มขึ้น พระโลหิตมีภาวะเป็นกรด ผลการตรวจภาพรังสีคอมพิวเตอร์ (CT Scan) ที่พระอุระ (อก) และพระนาภี (ท้อง) ไม่พบการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ คณะแพทย์ฯ ได้ปรับเปลี่ยนพระโอสถปฏิชีวนะถวาย กับถวายสารน้ำ รวมทั้งถวายพระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิตและควบคุมการเต้นของพระหทัย ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯ และพยาบาลได้เฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
วันที่ 22 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมดีขึ้น ระดับความดันพระโลหิตและอัตราการเต้นของพระหทัยอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ผลการตรวจพระโลหิตพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นโดยลำดับ คณะแพทย์ฯ ยังถวายพระโอสถปฏิชีวนะ รวมทั้งถวายพระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิตและควบคุมการเต้นของพระหทัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯ และพยาบาลได้เฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
และเมื่อช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 ระบุว่า ทรงมีพระอาการทรุดลง ระดับความดันพระโลหิตลดต่ำลงอีก ไม่ตอบสนองต่อพระโอสถเพิ่มความดันที่ถวาย การเต้นของพระหทัยไม่สม่ำเสมอ คณะแพทย์ฯ ได้ถวายปรับเปลี่ยนพระโอสถปฏิชีวนะ พระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิต รวมทั้งถวายโลหิตและสารน้ำทางหลอดพระโลหิตดำ ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯ และพยาบาลได้เฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
วันที่ 23 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมทรงตัว ระดับความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ต่ำ คณะแพทย์ฯ ยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะ และพระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิต ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯและพยาบาลได้เฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
วันที่ 24 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 8 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมทรุดลง ระดับความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ต่ำลง คณะแพทย์ฯ และพยาบาล ยังคงถวายพระโอสถ และเฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
และในช่วงหัวค่ำได้ออกแถลงการณ์ฉบับสุดท้าย ที่สะเทือนใจพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั่วประเทศ โดยแถลงการณ์ฉบับที่ 9 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมทรุดลง ได้สิ้นพระชนม์ลงแล้ว เมื่อเวลา 19.30 นาฬิกา ของวันนี้ สาเหตุเนื่องจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “พระอาการประชวรของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขณะประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย” ทั้งหมด 9 ฉบับ โดยฉบับที่ 1 นั้น เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2556 ระบุว่า ตามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2545 เป็นต้นมานั้น เช้าวันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้รายงานว่า สมเด็จพระสังฆราช ทรงประชวร และทรงมีความดันพระโลหิตต่ำ เนื่องมาจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการตรวจพบว่า พระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) และพระอันตคุณ (ลำไส้เล็ก) ขาดพระโลหิตและมีแผลติดเชื้อ จึงได้ถวายการรักษาด้วยการผ่าตัดพระอันตะและพระอันตคุณบางส่วนออก ภายหลังการผ่าตัดปรากฏว่าพระอาการโดยรวมดีขึ้น แต่ยังต้องติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ต่อมาวันที่ 15 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมดีขึ้น ไม่ทรงมีไข้ ความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สามารถลดปริมาณพระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิตได้โดยลำดับ ผลการตรวจพระโลหิตต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น ไม่ปรากฏภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะเพื่อควบคุมภาวะการติดเชื้อต่อไป
วันที่ 17 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่ทรงมีไข้ ความดันพระโลหิตและอัตราการเต้นของพระหทัยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ผลการตรวจพระโลหิตพบว่าพระยกนะ (ตับ) ทำงานดีขึ้น ความผิดปกติของเม็ดพระโลหิตเริ่มดีขึ้น ผลการเพาะเชื้อในพระโลหิตไม่พบเชื้อแต่อย่างไร แผลผ่าตัดอยู่ในสภาพดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน คณะแพทย์ฯ ยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะและเริ่มถวายพระกระยาหารและพระโอสถทางหลอดพระโลหิตดำ อนึ่ง คณะแพทย์ฯ ได้เชิญสมเด็จพระสังฆราช เสด็จจากหออภิบาลผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) กลับมาประทับ ณ ห้องที่ประทับ ตึกวชิรญาณ-สามัคคีพยาบาร ตั้งแต่เมื่อวานนี้
วันที่ 20 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 ระบุว่า ทรงมีความดันพระโลหิตลดต่ำลง และอัตราการเต้นของพระหทัยผิดปกติตั้งแต่ตอนบ่าย ผลการตรวจพระโลหิตพบว่า เม็ดพระโลหิตขาวเพิ่มสูงขึ้น เกล็ดพระโลหิตลดต่ำลง และมีความผิดปกติของการแข็งตัวของพระโลหิต ผลการตรวจการทำงานของพระยกนะ (ตับ) พบความผิดปกติเพิ่มขึ้น พระโลหิตมีภาวะเป็นกรด ผลการตรวจภาพรังสีคอมพิวเตอร์ (CT Scan) ที่พระอุระ (อก) และพระนาภี (ท้อง) ไม่พบการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ คณะแพทย์ฯ ได้ปรับเปลี่ยนพระโอสถปฏิชีวนะถวาย กับถวายสารน้ำ รวมทั้งถวายพระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิตและควบคุมการเต้นของพระหทัย ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯ และพยาบาลได้เฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
วันที่ 22 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมดีขึ้น ระดับความดันพระโลหิตและอัตราการเต้นของพระหทัยอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ผลการตรวจพระโลหิตพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นโดยลำดับ คณะแพทย์ฯ ยังถวายพระโอสถปฏิชีวนะ รวมทั้งถวายพระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิตและควบคุมการเต้นของพระหทัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯ และพยาบาลได้เฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
และเมื่อช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 ระบุว่า ทรงมีพระอาการทรุดลง ระดับความดันพระโลหิตลดต่ำลงอีก ไม่ตอบสนองต่อพระโอสถเพิ่มความดันที่ถวาย การเต้นของพระหทัยไม่สม่ำเสมอ คณะแพทย์ฯ ได้ถวายปรับเปลี่ยนพระโอสถปฏิชีวนะ พระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิต รวมทั้งถวายโลหิตและสารน้ำทางหลอดพระโลหิตดำ ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯ และพยาบาลได้เฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
วันที่ 23 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมทรงตัว ระดับความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ต่ำ คณะแพทย์ฯ ยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะ และพระโอสถเพิ่มความดันพระโลหิต ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯและพยาบาลได้เฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
วันที่ 24 ต.ค. 2556 ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 8 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมทรุดลง ระดับความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ต่ำลง คณะแพทย์ฯ และพยาบาล ยังคงถวายพระโอสถ และเฝ้าถวายการตรวจและติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
และในช่วงหัวค่ำได้ออกแถลงการณ์ฉบับสุดท้าย ที่สะเทือนใจพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั่วประเทศ โดยแถลงการณ์ฉบับที่ 9 ระบุว่า ทรงมีพระอาการโดยรวมทรุดลง ได้สิ้นพระชนม์ลงแล้ว เมื่อเวลา 19.30 นาฬิกา ของวันนี้ สาเหตุเนื่องจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต