“ปรีชา” ปรับแผนพัฒนาเวียงกุมกามใหม่ ระดมทุกกรมร่วมพัฒนา พร้อมสร้างจุดขายท่องเที่ยววัฒนธรรม
นายปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า สืบเนื่องจาก วธ.ได้ดำเนินโครงการพัฒนาเมืองเวียงกุมกาม จ.เชียงใหม่ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมนั้น ตนเห็นว่า ควรมีการปรับบทบาทการทำงานใหม่ โดยบูรณาการการทำงานของกรม กองต่างๆ ในสังกัด ไม่ว่าจะเป็น กรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กรมการศาสนา (ศน.) สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย(สศร.) สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) เข้าไปร่วมกันพัฒนาพื้นที่ตามที่ได้รับมอบหมายจาก นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม โดยจะแบ่งงานตามความถนัดของแต่ละกรมในการพัฒนาเวียงกุมกามให้มีชีวิต ที่สำคัญสามารถหล่อเลี้ยงชุมชนได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ตนจะหารือกับกรมในสังกัด วธ.ทั้งหมด ในการวางยุทธศาสตร์พัฒนาเวียงกุมกามร่วมกัน โดยแบ่งการจัดการให้ กรมศิลปากร ทำหน้าที่ในการปรับภูมิทัศน์ จัดทำข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ สวธ.ทำหน้าที่ในการสอนทำอาหาร ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ขณะที่ สบศ.สอนการแสดงให้ชาวบ้าน รวมถึงจัดนักศึกษามาแสดงในพื้นที่ให้เวียงกุมกามมีชีวิต ส่วน สศร.หากิจกรรมศิลปะร่วมสมัย ทั้งการถ่ายภาพ วาดภาพ การแสดงร่วมสมัย มาช่วยเสริมให้พื้นที่มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และ ศน.ช่วยสนับสนุนศาสนสถานทำกิจกรรมส่งเสริมศีลธรรม ที่สำคัญตนเน้นย้ำการให้ความรู้ชาวบ้าน ต้องสามารถทำให้เขา ปฏิบัติได้จริง เพื่อจะนำมาต่อยอดประกอบอาชีพ และสามารถเป็นกำลังในการดูแลเวียงกุมกามต่อจากภาครัฐได้
ปลัด วธ.อธิบายว่า ตามแผนงานเราจะจัดกิจกรรมในพื้นที่ประมาณ 7 เดือนนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป ซึ่งเราต้องหาจุดเด่นสร้างจุดขาย ปรับกิจกรรม บุคลากร และสร้างอาชีพในพื้นที่ โดยอาจต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าทำให้เวียงกุมกามอยู่ได้อย่างยั่งยืนด้วยลำแข้งของชุมชน โดยมีกระทรวงวัฒนธรรม ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการบ่มเพาะความรู้ให้แก่ชาวบ้าน และค่อยช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการ เกิดผลสำเร็จ ชาวบ้านสามารถที่จะช่วยกันดูแลเวียงกุมกามแทนหน่วยงานรัฐ ก็ถือว่า คุ้มค่ากับการลงทุน
นายปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า สืบเนื่องจาก วธ.ได้ดำเนินโครงการพัฒนาเมืองเวียงกุมกาม จ.เชียงใหม่ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมนั้น ตนเห็นว่า ควรมีการปรับบทบาทการทำงานใหม่ โดยบูรณาการการทำงานของกรม กองต่างๆ ในสังกัด ไม่ว่าจะเป็น กรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กรมการศาสนา (ศน.) สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย(สศร.) สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) เข้าไปร่วมกันพัฒนาพื้นที่ตามที่ได้รับมอบหมายจาก นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม โดยจะแบ่งงานตามความถนัดของแต่ละกรมในการพัฒนาเวียงกุมกามให้มีชีวิต ที่สำคัญสามารถหล่อเลี้ยงชุมชนได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ตนจะหารือกับกรมในสังกัด วธ.ทั้งหมด ในการวางยุทธศาสตร์พัฒนาเวียงกุมกามร่วมกัน โดยแบ่งการจัดการให้ กรมศิลปากร ทำหน้าที่ในการปรับภูมิทัศน์ จัดทำข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ สวธ.ทำหน้าที่ในการสอนทำอาหาร ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ขณะที่ สบศ.สอนการแสดงให้ชาวบ้าน รวมถึงจัดนักศึกษามาแสดงในพื้นที่ให้เวียงกุมกามมีชีวิต ส่วน สศร.หากิจกรรมศิลปะร่วมสมัย ทั้งการถ่ายภาพ วาดภาพ การแสดงร่วมสมัย มาช่วยเสริมให้พื้นที่มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และ ศน.ช่วยสนับสนุนศาสนสถานทำกิจกรรมส่งเสริมศีลธรรม ที่สำคัญตนเน้นย้ำการให้ความรู้ชาวบ้าน ต้องสามารถทำให้เขา ปฏิบัติได้จริง เพื่อจะนำมาต่อยอดประกอบอาชีพ และสามารถเป็นกำลังในการดูแลเวียงกุมกามต่อจากภาครัฐได้
ปลัด วธ.อธิบายว่า ตามแผนงานเราจะจัดกิจกรรมในพื้นที่ประมาณ 7 เดือนนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป ซึ่งเราต้องหาจุดเด่นสร้างจุดขาย ปรับกิจกรรม บุคลากร และสร้างอาชีพในพื้นที่ โดยอาจต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าทำให้เวียงกุมกามอยู่ได้อย่างยั่งยืนด้วยลำแข้งของชุมชน โดยมีกระทรวงวัฒนธรรม ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการบ่มเพาะความรู้ให้แก่ชาวบ้าน และค่อยช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการ เกิดผลสำเร็จ ชาวบ้านสามารถที่จะช่วยกันดูแลเวียงกุมกามแทนหน่วยงานรัฐ ก็ถือว่า คุ้มค่ากับการลงทุน
