สถาบันโภชนาการเจ๋ง! พัฒนานมปราศจากแล็กโทส ช่วยให้คนไทยแพ้นม กินไม่ได้ ให้กลับมากินได้อีกครั้ง เผยเหตุน้ำย่อยแล็กเทสน้อย ทำให้เกิดปัญหาท้องเสีย ท้องอืดหลังกินนม ระบุนมตัวใหม่ย่อยให้แล้วเรียบร้อย ดื่มแล้วได้ความหวานเพิ่ม แถมสารอาหารครบถ้วน ช่วยเสริมโภชนาการผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และคนติดหวานได้
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ประสานมิตรพลาซ่า รศ.วิสิฐ วะจะสิต ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวแถลงข่าวความร่วมมือการผลิตนมพาสเจอไรซ์ชนิดปราศจากน้ำตาลแล็กโทส (0% Lactose) ว่า นมมีสารอาหารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะโปรตีน และแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างร่างกาย กระดูก และฟัน แต่พบว่า คนไทยโดยเฉพาะผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ดื่มนมไม่ได้ เนื่องจากดื่มแล้วมีอาการท้องเสีย ท้องอืด ไม่สบายท้อง ซึ่งจากการวิจัยของสถาบันโภชนาการพบว่า เกิดจากร่างกายไม่มีน้ำย่อยแล็กเทสที่ใช้ย่อยแล็กโทส ซึ่งคนชาติเอเชียและแอฟริกาจะพบปัญหาดังกล่าวมาก คือยิ่งอายุมากขึ้น น้ำย่อยแล็กเทสยิ่งลดลง ทำให้เมื่อดื่มนมเข้าไป แล็กโทสที่อยู่ในนมไม่ถูกย่อย จุลินทรีย์ในทางเดินอาหารจึงนำน้ำตาลนี้ไปใช้ เกิดการสร้างกรดและแก๊ส มีการดึงน้ำเข้ามาในลำไส้และมีการเคลื่อนตัวของลำไส้เร็วขึ้น จึงเกิดอาการท้องเดิน แน่นท้อง ปวดท้อง ดังกล่าวขึ้น
รศ.วิสิฐ กล่าวอีกว่า แม้จะแก้ปัญหาด้วยการหันมากินนมหลังอาหาร หรือกินนมเปรึ้ยวและโยเกิร์ตแทนก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต่อให้กินนมทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายปรับตัวก็อาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เพราะแม้จะช่วยปรับร่างกายไม่ให้ท้องเสีย แต่ร่างกายไม่สามารถผลิตน้ำย่อยแล็กเทสเพิรมได้ ก็อาจมีอาการท้องอืด ทัองเดิน เช่นเดิม สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล จึงพัฒนานมเพื่อผู้ที่ดื่มนมแล้วเกิดปัญหาไม่สบายท้อง โดยทำการย่อยน้ำตาลแล็กโทสในนมจนหมดไป เหลือเป็นน้ำตาลกลูโคส และกาแล็กโทส ซึ่งให้รสชาติที่หวานกว่าแล็กโทส โดยไม่ต้องเติมน้ำตาล ส่วนสารอาหารอื่นๆ ในนมยังคงอยู่ครบถ้วนเหมือนเดิม
“จากการนำไปทดสอบในผู้ที่มีปัญหาดื่มนมไม่ได้ ดื่มแล้วท้องอืด ท้องเสีย ไม่สบายท้อง พบว่า สามารถดื่มนมที่พัฒนาขึ้นได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ จึงประกาศให้ผู้ผลิตนมในเชิงพาณิชย์ที่สนใจ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งบริษัท ฟาร์มโชคชัย ได้แสดงความจำนงขอความร่วมมือ จึงได้ทำการลงนามเอ็มโอยูในการร่วมมือพัฒนานมดังกล่าวร่วมกัน โดยใช้เวลาประมาณ 6-7 เดือน ก็สามารถผลิตและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว” ผอ.สถาบันโภชนาการ กล่าว
รศ.วิสิฐ กล่าวด้วยว่า นมดังกล่าวถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมโภชนาการของคนไทยได้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ย่อยง่าย ดูดซึมได้ดี จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ติดการกินหวาน กินนมต้องใส่น้ำตาล โดยเฉพาะในเด็ก เนื่องจากนมดังกล่าวจะมีความหวานในตัวอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเติมน้ำตาลเพิ่ม ก็จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคเรืั้อรังต่างๆ ที่เกิดจากการกินหวานจากน้ำตาลทรายได้ นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เคี้ยวอาหารลำบากหรือไม่ได้ แต่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับโปรตีน ซึ่งโปรตีนจากนมถือเป็นโปรตีนคุณภาพดี แต่กินแล้วอาจประสบปัญหาท้องเสียนั้น ก็สามารถกินนมที่พัฒนาขึ้นได้ ซึ่งจากการนำนมผงมาสกัดย่อยแล็กโทสให้ผู้ป่วยมะเร็งช่องปากดื่ม พบว่า ผู้ป่วยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ไม่ขาดสารอาหาร
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ประสานมิตรพลาซ่า รศ.วิสิฐ วะจะสิต ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวแถลงข่าวความร่วมมือการผลิตนมพาสเจอไรซ์ชนิดปราศจากน้ำตาลแล็กโทส (0% Lactose) ว่า นมมีสารอาหารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะโปรตีน และแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างร่างกาย กระดูก และฟัน แต่พบว่า คนไทยโดยเฉพาะผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ดื่มนมไม่ได้ เนื่องจากดื่มแล้วมีอาการท้องเสีย ท้องอืด ไม่สบายท้อง ซึ่งจากการวิจัยของสถาบันโภชนาการพบว่า เกิดจากร่างกายไม่มีน้ำย่อยแล็กเทสที่ใช้ย่อยแล็กโทส ซึ่งคนชาติเอเชียและแอฟริกาจะพบปัญหาดังกล่าวมาก คือยิ่งอายุมากขึ้น น้ำย่อยแล็กเทสยิ่งลดลง ทำให้เมื่อดื่มนมเข้าไป แล็กโทสที่อยู่ในนมไม่ถูกย่อย จุลินทรีย์ในทางเดินอาหารจึงนำน้ำตาลนี้ไปใช้ เกิดการสร้างกรดและแก๊ส มีการดึงน้ำเข้ามาในลำไส้และมีการเคลื่อนตัวของลำไส้เร็วขึ้น จึงเกิดอาการท้องเดิน แน่นท้อง ปวดท้อง ดังกล่าวขึ้น
รศ.วิสิฐ กล่าวอีกว่า แม้จะแก้ปัญหาด้วยการหันมากินนมหลังอาหาร หรือกินนมเปรึ้ยวและโยเกิร์ตแทนก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต่อให้กินนมทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายปรับตัวก็อาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เพราะแม้จะช่วยปรับร่างกายไม่ให้ท้องเสีย แต่ร่างกายไม่สามารถผลิตน้ำย่อยแล็กเทสเพิรมได้ ก็อาจมีอาการท้องอืด ทัองเดิน เช่นเดิม สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล จึงพัฒนานมเพื่อผู้ที่ดื่มนมแล้วเกิดปัญหาไม่สบายท้อง โดยทำการย่อยน้ำตาลแล็กโทสในนมจนหมดไป เหลือเป็นน้ำตาลกลูโคส และกาแล็กโทส ซึ่งให้รสชาติที่หวานกว่าแล็กโทส โดยไม่ต้องเติมน้ำตาล ส่วนสารอาหารอื่นๆ ในนมยังคงอยู่ครบถ้วนเหมือนเดิม
“จากการนำไปทดสอบในผู้ที่มีปัญหาดื่มนมไม่ได้ ดื่มแล้วท้องอืด ท้องเสีย ไม่สบายท้อง พบว่า สามารถดื่มนมที่พัฒนาขึ้นได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ จึงประกาศให้ผู้ผลิตนมในเชิงพาณิชย์ที่สนใจ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งบริษัท ฟาร์มโชคชัย ได้แสดงความจำนงขอความร่วมมือ จึงได้ทำการลงนามเอ็มโอยูในการร่วมมือพัฒนานมดังกล่าวร่วมกัน โดยใช้เวลาประมาณ 6-7 เดือน ก็สามารถผลิตและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว” ผอ.สถาบันโภชนาการ กล่าว
รศ.วิสิฐ กล่าวด้วยว่า นมดังกล่าวถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมโภชนาการของคนไทยได้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ย่อยง่าย ดูดซึมได้ดี จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ติดการกินหวาน กินนมต้องใส่น้ำตาล โดยเฉพาะในเด็ก เนื่องจากนมดังกล่าวจะมีความหวานในตัวอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเติมน้ำตาลเพิ่ม ก็จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคเรืั้อรังต่างๆ ที่เกิดจากการกินหวานจากน้ำตาลทรายได้ นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เคี้ยวอาหารลำบากหรือไม่ได้ แต่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับโปรตีน ซึ่งโปรตีนจากนมถือเป็นโปรตีนคุณภาพดี แต่กินแล้วอาจประสบปัญหาท้องเสียนั้น ก็สามารถกินนมที่พัฒนาขึ้นได้ ซึ่งจากการนำนมผงมาสกัดย่อยแล็กโทสให้ผู้ป่วยมะเร็งช่องปากดื่ม พบว่า ผู้ป่วยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ไม่ขาดสารอาหาร