กทม.หมดห่วงฝนเริ่มน้อยอากาศหนาวเริ่มเข้ามาย้ำอาจต้องติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุน ด้าน “สุขุมพันธุ์” รุดหน้าตรวจน้ำย่านตลาดยอดพิมาน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตัวเองเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ว่า วันนี้ก็มาถึงครับ เรายังคงเฝ้าจับตาดู พายุไต้ฝุ่นนารี รวมถึงติดตามสถานการณ์ระดับน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันนี้กับวันพรุ่งนี้ ได้เคยกราบเรียนพี่น้องประชาชนมาตลอด โดยเฉพาะพี่น้องที่อยู่นอกคันกั้นน้ำทั้งหมด 25 ชุมชน ซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ด้วยความไม่ประมาท ถึงแม้ดูเหมือนฝนอาจจะเบาบางไปบ้างแล้ว แต่ช่วงฤดูฝนยังไม่หมด ยังมีเรื่องของมรสุมที่ยังคงต้องเกาะติดเพื่อให้แน่ใจว่า เจ้าพายุไต้ฝุ่นนารีตัวนี้ จะเคลื่อนตัวไปในทิศทางใด จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและดีเปรสชันตามลำดับหรือไม่นั้น วันนี้จะติดตามกัน ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ จะไปดูระดับน้ำทะเลหนุนบริเวณเชิงสะพานพุทธ จากสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้รายงานว่าเวลา 16.15 น. ระดับน้ำน่าจะขึ้นสูงสุด ก็จะเดินดูบริเวณแถวท่าเรือไปจนถึงแนวเขื่อนบริเวณตลาดยอดพิมาน ที่ทางกทม.ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีความคืบหน้าเป็นอย่างไรจะเก็บภาพมาฝากนะครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม. รายงานสถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ว่า วันนี้น้ำเหนือที่ไหลมาทางแม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 2,341 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดในเวลา 16.15 คาดว่า จะไม่เกิน 1.52 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ขณะที่น้ำจากแม่น้ำป่าสักชลสิทธิ์ที่เขื่อนพระราม 6 วัดได้ 645 ลบ.ม.ต่อวินาที ปริมาณลดลงจากวานนี้เล็กน้อย ทั้งนี้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ที่ปล่อยลงมามีปริมาณลดลง ทำให้สถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ดีขึ้น ซึ่งน้ำทะเลหนุนสูงในระยะนี้ ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน เนื่องจากน้ำเหนือลดลงและไม่มีฝนตกในพื้นที่ ส่วนพายุนารีก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายนนี้ น้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นอีกครั้ง โดยมีฐานน้ำที่ประมาณ 1.21 เมตร สูงกว่าเดือนตุลาคมที่ฐานน้ำสูง 1.11 ม.แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากน้ำเหนือลดลงและเริ่มหมดฤดูฝน ซึ่งเป็นผลมาจากขณะนี้ความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนเริ่มแผ่ลงมายังประเทศไทยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้อากาศเย็นลงและทำให้หย่อมความกดอากาศต่ำเริ่มหายไป ซึ่งคาดว่าปีนี้น่าจะหมดพายุแล้ว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตัวเองเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ว่า วันนี้ก็มาถึงครับ เรายังคงเฝ้าจับตาดู พายุไต้ฝุ่นนารี รวมถึงติดตามสถานการณ์ระดับน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันนี้กับวันพรุ่งนี้ ได้เคยกราบเรียนพี่น้องประชาชนมาตลอด โดยเฉพาะพี่น้องที่อยู่นอกคันกั้นน้ำทั้งหมด 25 ชุมชน ซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ด้วยความไม่ประมาท ถึงแม้ดูเหมือนฝนอาจจะเบาบางไปบ้างแล้ว แต่ช่วงฤดูฝนยังไม่หมด ยังมีเรื่องของมรสุมที่ยังคงต้องเกาะติดเพื่อให้แน่ใจว่า เจ้าพายุไต้ฝุ่นนารีตัวนี้ จะเคลื่อนตัวไปในทิศทางใด จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและดีเปรสชันตามลำดับหรือไม่นั้น วันนี้จะติดตามกัน ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ จะไปดูระดับน้ำทะเลหนุนบริเวณเชิงสะพานพุทธ จากสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้รายงานว่าเวลา 16.15 น. ระดับน้ำน่าจะขึ้นสูงสุด ก็จะเดินดูบริเวณแถวท่าเรือไปจนถึงแนวเขื่อนบริเวณตลาดยอดพิมาน ที่ทางกทม.ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีความคืบหน้าเป็นอย่างไรจะเก็บภาพมาฝากนะครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม. รายงานสถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ว่า วันนี้น้ำเหนือที่ไหลมาทางแม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 2,341 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดในเวลา 16.15 คาดว่า จะไม่เกิน 1.52 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ขณะที่น้ำจากแม่น้ำป่าสักชลสิทธิ์ที่เขื่อนพระราม 6 วัดได้ 645 ลบ.ม.ต่อวินาที ปริมาณลดลงจากวานนี้เล็กน้อย ทั้งนี้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ที่ปล่อยลงมามีปริมาณลดลง ทำให้สถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ดีขึ้น ซึ่งน้ำทะเลหนุนสูงในระยะนี้ ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน เนื่องจากน้ำเหนือลดลงและไม่มีฝนตกในพื้นที่ ส่วนพายุนารีก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายนนี้ น้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นอีกครั้ง โดยมีฐานน้ำที่ประมาณ 1.21 เมตร สูงกว่าเดือนตุลาคมที่ฐานน้ำสูง 1.11 ม.แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากน้ำเหนือลดลงและเริ่มหมดฤดูฝน ซึ่งเป็นผลมาจากขณะนี้ความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนเริ่มแผ่ลงมายังประเทศไทยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้อากาศเย็นลงและทำให้หย่อมความกดอากาศต่ำเริ่มหายไป ซึ่งคาดว่าปีนี้น่าจะหมดพายุแล้ว
