กทม.เผยวัยรุ่นในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นิยมเสพยาไอซ์ เหตุเชื่อทำให้ผอม ขาว ชี้กว่า 30% เป็นผู้หญิง พบผู้เสพมีอายุน้อยลงตั้งแต่ 9 ขวบ
วันนี้ (10 ต.ค.) นางป่านฤดี มโนมัยพิบูล ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ปัจจุบันจากการสำรวจพบว่าผู้ใช้ยาเสพติดในกรุงเทพฯมีอายุน้อยลงจากเดิมผู้ใช้ยาเสพติดจะอยู่ที่อายุ 20-25 ปี แต่ปัจจุบันจะเป็นกลุ่มอายุ 15-19 ปี นอกจากนี้ยังพบเด็กที่มีอายุ 9-10 ปี ริเริ่มใช้ยาเสพติดเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังผันตัวเองเป็นผู้ค้า โดยสาเหตุเกิดจากผู้ปกครองของเด็กเป็นผู้ค้าและใช้เด็กเป็นเครื่องมือเพื่อค้ายาเสพติด สำหรับยาเสพติดที่ผู้เสพนิยมเสพมากคือยาบ้าและยาไอซ์ โดยยาบ้าจะพบผู้เสพเป็นเพศชายสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เพศหญิงพบเพียง10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนยาไอซ์ ผู้เสพจะเป็นเพศชายกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และเพศหญิงสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุเนื่องจากผู้หญิงมักเชื่อว่าการเสพยาไอซ์ จะทำให้สวย ขาว ผอม หุ่นดี และดูมีน้ำมีนวล จึงทำให้ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นต์ของการเสพยาไอซ์เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ซึ่งนับเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
นางป่านฤดี กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการป้องกันยาเสพติดของ กทม.ในขณะนี้ จะมุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มต่อเด็กและเยาวชนให้รู้ถึงอันตรายของยาเสพติดมากกว่าการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ของ กทม.เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความชำนาญในด้านนี้ ทั้งนี้ กทม.ได้เข้าไปสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดแก่เด็กและเยาวชนในโรงเรียนสังกัด กทม.โดยการเพิ่มหลักสูตรการสอนในโรงเรียน และป้องกันคัดกรองเด็กกลุ่มเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น
วันนี้ (10 ต.ค.) นางป่านฤดี มโนมัยพิบูล ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ปัจจุบันจากการสำรวจพบว่าผู้ใช้ยาเสพติดในกรุงเทพฯมีอายุน้อยลงจากเดิมผู้ใช้ยาเสพติดจะอยู่ที่อายุ 20-25 ปี แต่ปัจจุบันจะเป็นกลุ่มอายุ 15-19 ปี นอกจากนี้ยังพบเด็กที่มีอายุ 9-10 ปี ริเริ่มใช้ยาเสพติดเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังผันตัวเองเป็นผู้ค้า โดยสาเหตุเกิดจากผู้ปกครองของเด็กเป็นผู้ค้าและใช้เด็กเป็นเครื่องมือเพื่อค้ายาเสพติด สำหรับยาเสพติดที่ผู้เสพนิยมเสพมากคือยาบ้าและยาไอซ์ โดยยาบ้าจะพบผู้เสพเป็นเพศชายสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เพศหญิงพบเพียง10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนยาไอซ์ ผู้เสพจะเป็นเพศชายกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และเพศหญิงสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุเนื่องจากผู้หญิงมักเชื่อว่าการเสพยาไอซ์ จะทำให้สวย ขาว ผอม หุ่นดี และดูมีน้ำมีนวล จึงทำให้ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นต์ของการเสพยาไอซ์เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ซึ่งนับเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
นางป่านฤดี กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการป้องกันยาเสพติดของ กทม.ในขณะนี้ จะมุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มต่อเด็กและเยาวชนให้รู้ถึงอันตรายของยาเสพติดมากกว่าการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ของ กทม.เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความชำนาญในด้านนี้ ทั้งนี้ กทม.ได้เข้าไปสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดแก่เด็กและเยาวชนในโรงเรียนสังกัด กทม.โดยการเพิ่มหลักสูตรการสอนในโรงเรียน และป้องกันคัดกรองเด็กกลุ่มเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น