“สมชาย” เผยไม่เกิน 7 วัน “เฉลิม” กลับบ้านแน่ ปฏิเสธข่าวลือโกนหัว-พูดไม่ได้ คาด รอแพทย์สรุปอาการ ด้าน ผอ.รพ.รามาฯ ยืนยันไม่กระทบสมอง ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานกลับไปทำงานได้ตามปกติ ขณะที่คนแห่เยี่ยมคึกคัก
วันนี้ (7 ต.ค. ) ตั้งแต่ช่วงเช้ามีคนทยอยเข้าเยี่ยมร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอย่างคึกคัก อาทิ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย นายพร้องพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ตลอดจนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงาน จนทางโรงพยาบาลต้องนำโต๊ะสำหรับวางกระเช้าดอกไม้มาเพิ่มอีกหลายตัว โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวหลังเข้าเยี่ยมในห้อง ประมาณ 30 นาที ว่า สบายใจได้ ไม่มีอะไรรุนแรง
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่มีข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อาจพูดไม่ได้ และต้องโกนหัว ไม่เป็นความจริง ตนเข้าไปเยี่ยมก็พูดคุยกันตามปกติ หน้าตาสดชื่น เพียงแต่หน้ายังแดงๆ ตนถามว่าหลังผ่ามีอะไรผิดปกติไหม ก็ยังบอกว่ารู้สึกเฉยๆ ไม่เป็นอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีิ
ก็ได้โทรศัพท์มาถามอาการถึงเตียงก็ยังพูดคุยเล่าอาการให้ฟังได้เป็นปกติ และได้ให้กำลังใจเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน ข่าวที่เอาไปลือว่าอาจพูดไม่ได้จึงไม่จริง และการผ่าตัดไม่ได้โกนหัวทั้งหมด เพียงแต่โกนเฉพาะจุดที่เจาะเอาเลือดออก แพทย์วิเคราะห์อาการไม่หนักเพราะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ไม่ได้ออกในเนื้อสมอง จึงรักษาง่าย ภายใน 7 วันก็คงกลับบ้านได้
ด้าน นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ตั้งให้เป็นที่ปรึกษาช่วยงานด้านแรงงานและการป้องกันการค้ามนุษย์ กล่าวว่า อาการของรัฐมนตรีดีขึ้นแล้ว ไม่น่าเป็นห่วง และมั่นใจว่าหลังรักษาหายป่วยแน่นอน 100% เพราะพ่อตนก็เคยเป็นแบบเดียวกัน อาการแบบนี้มีโอกาสเกิดกับผู้สูงอายุ แต่เทคโนโลยีสมัยนี้ทันสมัยมากสามารถตรวจจุดที่เลือดออกได้ชัดเจนแล้วเจาะดูดเอาเลือดออกมาโดยไม่ต้องเปิดกะโหลกเหมือนสมัยก่อน จึงฟื้นตัวเร็วและสามารถทำงานได้ตามปกติ และอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง จะไม่เหมือนกับเลือดออกในสมองจึงไม่ร้ายแรง เพราะไม่มีการกดทับสมองส่วนอื่น ประกอบกับได้รับการรักษาทันทีหลังมีอาการ
ด้านรศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า แพทย์ได้ติดตามอาการหลังผ่าตัดพบว่าทุกอย่างดีขึ้นจึงคาดว่าน่าจะกลับบ้านได้ภายใน 7 วัน แต่เป็นการคาดการณ์เท่านั่น ขณะนี้ ยังต้องติดตามผลการรักษาเป็นระยะ และคนไข้สูงอายุแล้วจึงต้องพักผ่อนมากๆ เพื่อให้ร่างกายฟื้นคืนสภาพเดิม โรคนี้ใช้เวลาไม่นานก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้ส่วนหายแล้วจะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกหรือไม่ น่าจะมีโอกาสไม่มาก
วันนี้ (7 ต.ค. ) ตั้งแต่ช่วงเช้ามีคนทยอยเข้าเยี่ยมร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอย่างคึกคัก อาทิ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย นายพร้องพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ตลอดจนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงาน จนทางโรงพยาบาลต้องนำโต๊ะสำหรับวางกระเช้าดอกไม้มาเพิ่มอีกหลายตัว โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวหลังเข้าเยี่ยมในห้อง ประมาณ 30 นาที ว่า สบายใจได้ ไม่มีอะไรรุนแรง
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่มีข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อาจพูดไม่ได้ และต้องโกนหัว ไม่เป็นความจริง ตนเข้าไปเยี่ยมก็พูดคุยกันตามปกติ หน้าตาสดชื่น เพียงแต่หน้ายังแดงๆ ตนถามว่าหลังผ่ามีอะไรผิดปกติไหม ก็ยังบอกว่ารู้สึกเฉยๆ ไม่เป็นอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีิ
ก็ได้โทรศัพท์มาถามอาการถึงเตียงก็ยังพูดคุยเล่าอาการให้ฟังได้เป็นปกติ และได้ให้กำลังใจเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน ข่าวที่เอาไปลือว่าอาจพูดไม่ได้จึงไม่จริง และการผ่าตัดไม่ได้โกนหัวทั้งหมด เพียงแต่โกนเฉพาะจุดที่เจาะเอาเลือดออก แพทย์วิเคราะห์อาการไม่หนักเพราะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ไม่ได้ออกในเนื้อสมอง จึงรักษาง่าย ภายใน 7 วันก็คงกลับบ้านได้
ด้าน นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ตั้งให้เป็นที่ปรึกษาช่วยงานด้านแรงงานและการป้องกันการค้ามนุษย์ กล่าวว่า อาการของรัฐมนตรีดีขึ้นแล้ว ไม่น่าเป็นห่วง และมั่นใจว่าหลังรักษาหายป่วยแน่นอน 100% เพราะพ่อตนก็เคยเป็นแบบเดียวกัน อาการแบบนี้มีโอกาสเกิดกับผู้สูงอายุ แต่เทคโนโลยีสมัยนี้ทันสมัยมากสามารถตรวจจุดที่เลือดออกได้ชัดเจนแล้วเจาะดูดเอาเลือดออกมาโดยไม่ต้องเปิดกะโหลกเหมือนสมัยก่อน จึงฟื้นตัวเร็วและสามารถทำงานได้ตามปกติ และอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง จะไม่เหมือนกับเลือดออกในสมองจึงไม่ร้ายแรง เพราะไม่มีการกดทับสมองส่วนอื่น ประกอบกับได้รับการรักษาทันทีหลังมีอาการ
ด้านรศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า แพทย์ได้ติดตามอาการหลังผ่าตัดพบว่าทุกอย่างดีขึ้นจึงคาดว่าน่าจะกลับบ้านได้ภายใน 7 วัน แต่เป็นการคาดการณ์เท่านั่น ขณะนี้ ยังต้องติดตามผลการรักษาเป็นระยะ และคนไข้สูงอายุแล้วจึงต้องพักผ่อนมากๆ เพื่อให้ร่างกายฟื้นคืนสภาพเดิม โรคนี้ใช้เวลาไม่นานก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้ส่วนหายแล้วจะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกหรือไม่ น่าจะมีโอกาสไม่มาก
