โครงการสวนสาธารณะป้อมมหากาฬชะงักกว่า 50 ปี เหตุชาวบ้านไม่ยอมย้ายออก เหลืออีก 56 หลังคาเรือน ทั้งที่รับเงินค่าเวนคืนที่ไปหมดแล้วส่วนหนึ่ง รับเงิน 75% อีกส่วนหนึ่ง หนักใจยังมีปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่เพิ่มอีก “ชายหมู” จี้หาทางออกเรื่องนี้ รับปากช่วยหาที่อยู่ใหม่ให้
นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดการกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา (สนย.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ชาวชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร จำนวน 56 หลังคาเรือน รื้อย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อพัฒนาเป็นสวนสาธารณะว่า จากการประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารได้สั่งการให้ สนย.รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ทั้งมาตรการต่างๆ ที่ กทม.ได้ช่วยเหลือ และเรื่องแผนประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับโครงการสวนสาธารณะของ กทม.ซึ่งจะมีการนำข้อมูลมาหารืออีกครั้งในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม.ได้มอบหมายให้คณะที่ปรึกษาหลายท่านมาร่วมดูแลเรื่องนี้เพื่อร่วมกันหาทางออก
นายศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กทม.ได้พยายามเร่งรัดมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากมีมวลชนต่อต้าน นอกจากนี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เร่งรัดให้ กทม.หาทางออกให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ทั้งนี้ โครงการสวนสาธารณะของ กทม.ที่บริเวณป้อมมหากาฬ ได้รับความร่วมมือและผ่านการเห็นชอบหลายหน่วยงาน ซึ่ง กทม.ต้องเตรียมเรื่องที่อยู่อาศัยและเงินชดเชย รวมทั้งอาชีพให้แก่ประชาชนที่ต้องย้ายออกด้วย
แหล่งข่าวจาก กทม.กล่าวว่า หากชุมชนยินยอมที่จะออกไป กทม.จะจัดหาที่อยู่ให้ใหม่ โครงการนี้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2502 แต่มีกฎหมายบังคับโดยมีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2535 โดยชุมชนในบริเวณนั้นมี 102 หลังคาเรือน ได้รับเงินค่ารื้อย้ายไปแล้ว 99% และขณะนี้มี 56 หลังคาเรือนที่ยังไม่ย้ายออกไป โดย 26 หลังคาเรือนรับเงินไปหมดแล้ว แต่ผู้เช่าช่วงที่อาศัยอยู่ปัจจุบันไม่ยินยอมออกจากพื้นที่ ส่วนอีกประมาณ 28 หลังคาเรือนที่เหลือ เป็นผู้รับเงินไป 75% แต่ยังไม่โอนบ้านให้ กทม.อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่รายใหม่ ที่กทม.ต้องหาทางแก้ไขด้วย
นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดการกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา (สนย.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ชาวชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร จำนวน 56 หลังคาเรือน รื้อย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อพัฒนาเป็นสวนสาธารณะว่า จากการประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารได้สั่งการให้ สนย.รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ทั้งมาตรการต่างๆ ที่ กทม.ได้ช่วยเหลือ และเรื่องแผนประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับโครงการสวนสาธารณะของ กทม.ซึ่งจะมีการนำข้อมูลมาหารืออีกครั้งในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม.ได้มอบหมายให้คณะที่ปรึกษาหลายท่านมาร่วมดูแลเรื่องนี้เพื่อร่วมกันหาทางออก
นายศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กทม.ได้พยายามเร่งรัดมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากมีมวลชนต่อต้าน นอกจากนี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เร่งรัดให้ กทม.หาทางออกให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ทั้งนี้ โครงการสวนสาธารณะของ กทม.ที่บริเวณป้อมมหากาฬ ได้รับความร่วมมือและผ่านการเห็นชอบหลายหน่วยงาน ซึ่ง กทม.ต้องเตรียมเรื่องที่อยู่อาศัยและเงินชดเชย รวมทั้งอาชีพให้แก่ประชาชนที่ต้องย้ายออกด้วย
แหล่งข่าวจาก กทม.กล่าวว่า หากชุมชนยินยอมที่จะออกไป กทม.จะจัดหาที่อยู่ให้ใหม่ โครงการนี้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2502 แต่มีกฎหมายบังคับโดยมีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2535 โดยชุมชนในบริเวณนั้นมี 102 หลังคาเรือน ได้รับเงินค่ารื้อย้ายไปแล้ว 99% และขณะนี้มี 56 หลังคาเรือนที่ยังไม่ย้ายออกไป โดย 26 หลังคาเรือนรับเงินไปหมดแล้ว แต่ผู้เช่าช่วงที่อาศัยอยู่ปัจจุบันไม่ยินยอมออกจากพื้นที่ ส่วนอีกประมาณ 28 หลังคาเรือนที่เหลือ เป็นผู้รับเงินไป 75% แต่ยังไม่โอนบ้านให้ กทม.อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่รายใหม่ ที่กทม.ต้องหาทางแก้ไขด้วย
