โดย..เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ
ภาพธงราวสามเหลี่ยมหลากสี ที่พาดระโยงระยางพลิ้วไหวอยู่เบื้องหน้าบริเวณลานด้านหน้าอาคารศาลาไทย เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงบรรยากาศงานรื่นเริงแบบไทย ๆ หากไม่เพราะรู้ตัวว่ากำลังยืนอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย บนผืนดินกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย ในงานเทศกาลไทย(Thai Food & Cultural Festival) ครั้งที่ 11 คงอดคิดไม่ได้ว่ากำลังอยู่ในงานวัดสักแห่งในประเทศไทยเป็นแน่
งานเทศกาลไทย(Thai Food & Cultural Festival) ครั้งที่ 11 นี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เล่าถึงความเป็นมาว่า สถานเอกอัครราชทูตได้จัดงานเทศกาลไทยมาต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ 11 มีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานจำนวนกว่า 1.5-2 หมื่นคนทุกปี เป้าหมายสำคัญเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทย โปรโมตการท่องเที่ยว อาหารไทย นอกจากนี้ยังจำหน่ายสินค้าโครงการหลวงดอยคำ สินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิของไทยซึ่งเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง รวมถึงน้ำปลา เครื่องปรุงรสต่าง ๆ เพื่อให้ชาวออสเตรเลียรวมถึงชาวต่างประเทศอื่น ๆ ได้รู้จักประเทศไทยยิ่งขึ้น
“ยังคงยึดวัตถุประสงค์เช่นเดิม แต่ครั้งนี้ผมมีความตั้งใจที่อยากจะให้จำลองบรรยากาศของงานวัดไทย และจำลองถนนข้าวสารมาไว้ที่แห่งนี้เป็นไฮไลท์ของงาน และปีนี้เป็นโอกาสพิเศษของการเฉลิมฉลองกรุงแคมเบอร์รา ครบ 100 ปี ทางคณะจัดงานได้ประสานขอให้ทางสถานทูตไทยร่วมเฉลิมฉลองด้วย ดังนั้น ผมจึงได้ประสานไปยังกรุงเทพมหานคร (กทม.) ช่วยสนับสนุนการจัดงานเช่นเคย ซึ่ง กทม.ก็มามีส่วนร่วมเนรมิตรงานวัดและถนนข้าวสาร ช่วยสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานคึกคักขึ้น ซึ่งต้องบอกว่า กทม.ช่วยให้ฝันของผมเป็นจริง ที่น่ายินดีไปกว่านั้นก็คือจากนี้ งานเทศกาลไทย ที่จัดขึ้นในเดือน ก.ย.ของทุกปีจะถูกบันทึกไว้ในปฏิทินกิจกรรมของกรุงแคนเบอร์ราด้วย” นายมาริษ กล่าว
โอกาสนี้ทางกทม.โดย ว่าที่ ร.ต.เศวตชัย ทรัพย์บุญมี ผู้ช่วยปลัด กทม.ซึ่งได้รับมอบหมายให้นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และคณะผู้แทนที่ไปร่วม กระบี่กระบอง นาฏศิลป์ และคีตศิลป์ ไปร่วมงานเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา เปิดเผยว่า กทม.มาร่วมกับทางสถานทูตเพื่อจัดงานประชาสัมพันธ์ให้กับประเทศไทยให้คนต่างชาติรู้จัก “ไทยแลนด์” ให้มากขึ้น เราทราบดีว่าคนออสเตรเลียเมื่อไปเมืองไทยอยากไปถนนข้าวสาร จึงได้จัดนิทรรศการจำลองถนนข้าวสารเพื่อให้รู้ว่าตลอดเส้นทางในถนนข้าวสารมีอะไรบ้าง พร้อมนำศิลปวัฒนธรรมไทย ดนตรีพื้นบ้านของไทย เช่น โปงลาง นาฏศิลป์ การแสดงคีตะมวยไทย กระบี่กระบอง มาจัดแสดงเพื่อให้ชาวออสเตรเลียได้เห็นซึ่งความงดงามและคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย
“จากที่เคยมีแต่การแสดงมาร่วมโชว์ในปีที่แล้วปีนี้เรามาจัดนิทรรศการด้วย ในส่วนการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยยังจัดเต็มมาเช่นเดิม โดยเฉพาะมวยไทยเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของคนออสเตรเลีย เราคัดคนที่เก่ง ๆ ได้รับรางวัลชนะเลิศมาโชว์ปีที่แล้วคนเฝ้ารอชมกันแน่นตั้งแต่รอบแรก และตั้งตารอที่จะดูในรอบต่อ ๆ ไปยังมีการแสดงกระบี่กระบอง ฟันดาบที่ปีนี้นำดาบจริงมาใช้โชว์ด้วย ทั้งหมดนี้เพื่อให้ชาวต่างชาติได้รู้ว่าไปเมืองไทยจะได้พบเจอสิ่งเหล่านี้และไม่ได้สูญหายไปไหน คนไทยยังคงดำรงรักษาสืบทอดไว้จากรุ่นสู่รุ่นด้วยความรักและหวงแหนวัฒนธรรมไทย”ว่าที่ ร.ต.เศวตชัย กล่าว
เดินเที่ยวกันเถอะ..ก้าวเท้าสู่อาคารศาลาไทย ที่ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ใช้จำลองบรรยากาศ “ถนนข้าวสาร” ไฮไลท์ของงาน ฉากหลังแสดงภาพป้อมพระสุเมรุ เสาชิงช้าอันเป็นสัญลักษณ์ของ กทม.มีป้ายนิทรรศการบอกความเป็นมาของกีฬาไทย เช่น มวยไทย กระบี่กระบอง ตะกร้อลอดห่วง ทั้งเวอร์ชั่นไทยและอังกฤษให้ผู้สนใจมาอ่านเพิ่มพูนความรู้ ถัดมาก็เรียงรายด้วยภาพจำลองรถเข็นขายส้มตำ ผัดไทย บาร์บีคิว แม้แต่รถตุ๊กของไทยก็มีใครใคร่อยากโพสต์ท่าแอ็คชันแบบใดก็เลือกตามใจชอบ ส่วนจุดที่สร้างสีสันหนีไม่พ้น การวาดภาพเหมือน ที่หนูน้อยชาวออสซี่ต่างเข้าคิวรอให้จิตกรคนเก่ง วาดรูปตัวเอง เด็กสาว ๆ รักสวยรักงามก็แวะมาเพ้นท์เล็บ หรือจะถักผมเปียก็มีบริการให้เลือก จุดนี้ขายดีตั้งแต่เริ่มงานจนจบคนวาด คนเพ้นท์ คนถักผมติดตรึงกับที่ไม่ได้กระดิกไปไหน ที่แน่ ๆ ทั้งหมดนี้ทำฟรีไม่คิดเงิน ใครอยากให้ก็แค่หยอดลงกล่องทำบุญตามแต่ศรัทธาให้แก่วัดธัมมธโร วัดไทยแห่งเดียวในกรุงแคมเบอร์รา
เดินมานอกอาคาร..จังหวะดนตรีที่เร่งเร้าประกอบท่วงท่าลีลาที่เข้มแข็งให้ลุ้นทุกการเคลื่อนไหวของผู้แสดงศิลปะการต่อสู่มวยไทยสะกดทุกสายตาของ “ฝรั่งตาน้ำข้าว” แบบที่คนโบราณชอบเรียกต้องหยุดนิ่งแทบไม่กระพริบ หรือเผลอไผลขยับตัวหลบด้วยความหวาดเสียวระหว่างนั่งชม บ้างก็ควักกล้องถ่ายรูป สมาร์ทโฟนคู่ใจมาถ่ายคลิปถ่ายรูปตามแต่ชอบ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ก็จะสลับหมุนเวียนการแสดงมาให้ชมอย่างต่อเนื่อง เช่น สาธิตไหว้ครูของมวยไทย การต่อสู้ฟันดาบซึ่งใช้ดาบจริง การแสดงกระบี่กระบอง ร่วมด้วยการร่ายรำที่สวยงามอ่อนช้อยแบบไทย การละเล่นผีตาโขน หรือแม้แต่ร้องลิเกที่ กทม.ก็ขนไปร่วมโชว์ให้ชมแบบจัดเต็ม แถมบางช่วงก็สร้างสัมพันธ์ดึงผู้ร่วมงานมาสนุก เช่น สอนเด็กฝรั่งไหว้ครูกระบี่กระบอง เป็นต้น
งานวัดที่สถานทูตไทยรอบตัวรายล้อมไปด้วยซุ้มอาหารไทย ร้านขายสินค้าเกษตร งานฝีมือ งานประดิษฐ์ของไทย กระจายเต็มพื้นที่ประมาณ 8 ไร่จะเริ่มเริ่มเดินเลือกซื้อหาอาหารไทยคาว-หวานจากร้านชื่อดังในพื้นที่ไม่ว่าจะส้มตำ กุ๋ยช่าย ผัดไทย หอยทอด หรือขนมครก ฝอยทอง วุ้นสวยหลากสี แล้วมายืนดูการแสดงโชว์ลานหน้าอาคารศาลาไทย หรือจะแวะถ่ายรูปเล่นระหว่างทางก่อน เดินเลยมานั่งที่ลานกว้างฟังเพลงสบาย ๆ จากนักดนตรีคนไทยก็ได้ แต่ที่แน่ ๆ มาเที่ยวงานวัดก็ต้องมาเล่นเกมทดสอบความแม่นยำ อย่างปาลูกโป่ง ที่มีรางวัลเป็นโมบายปลาตะเพียน โยนบอลลงไห โยนห่วงลงขวด เป็นต้น หรือจะสอยดาวแบบงานกาชาดไทยซึ่งที่นั่นเรียกเก๋ ๆ ว่า “Wishing Tree” ก็มี สุดท้ายเดินจนเมื่อยอยากมีคนนวดต้องไม่พลาดนวดแผนไทยมาให้บริการเช่นเดิม
แม้จะจัดงานเพียง 1 วันเท่านั้นแต่ก็อัดแน่นไปด้วยความสนุกสาน ที่สร้างความสุขให้แก่ชาวออสซี่ทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงชาวต่างประเทศเชื้อชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะคนไทยที่มาพำนักที่กรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลียที่ได้ชื่อว่าเงียบสงบที่สุดในโลกแห่งนี้
ภาพธงราวสามเหลี่ยมหลากสี ที่พาดระโยงระยางพลิ้วไหวอยู่เบื้องหน้าบริเวณลานด้านหน้าอาคารศาลาไทย เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงบรรยากาศงานรื่นเริงแบบไทย ๆ หากไม่เพราะรู้ตัวว่ากำลังยืนอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย บนผืนดินกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย ในงานเทศกาลไทย(Thai Food & Cultural Festival) ครั้งที่ 11 คงอดคิดไม่ได้ว่ากำลังอยู่ในงานวัดสักแห่งในประเทศไทยเป็นแน่
งานเทศกาลไทย(Thai Food & Cultural Festival) ครั้งที่ 11 นี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เล่าถึงความเป็นมาว่า สถานเอกอัครราชทูตได้จัดงานเทศกาลไทยมาต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ 11 มีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานจำนวนกว่า 1.5-2 หมื่นคนทุกปี เป้าหมายสำคัญเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทย โปรโมตการท่องเที่ยว อาหารไทย นอกจากนี้ยังจำหน่ายสินค้าโครงการหลวงดอยคำ สินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิของไทยซึ่งเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง รวมถึงน้ำปลา เครื่องปรุงรสต่าง ๆ เพื่อให้ชาวออสเตรเลียรวมถึงชาวต่างประเทศอื่น ๆ ได้รู้จักประเทศไทยยิ่งขึ้น
“ยังคงยึดวัตถุประสงค์เช่นเดิม แต่ครั้งนี้ผมมีความตั้งใจที่อยากจะให้จำลองบรรยากาศของงานวัดไทย และจำลองถนนข้าวสารมาไว้ที่แห่งนี้เป็นไฮไลท์ของงาน และปีนี้เป็นโอกาสพิเศษของการเฉลิมฉลองกรุงแคมเบอร์รา ครบ 100 ปี ทางคณะจัดงานได้ประสานขอให้ทางสถานทูตไทยร่วมเฉลิมฉลองด้วย ดังนั้น ผมจึงได้ประสานไปยังกรุงเทพมหานคร (กทม.) ช่วยสนับสนุนการจัดงานเช่นเคย ซึ่ง กทม.ก็มามีส่วนร่วมเนรมิตรงานวัดและถนนข้าวสาร ช่วยสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานคึกคักขึ้น ซึ่งต้องบอกว่า กทม.ช่วยให้ฝันของผมเป็นจริง ที่น่ายินดีไปกว่านั้นก็คือจากนี้ งานเทศกาลไทย ที่จัดขึ้นในเดือน ก.ย.ของทุกปีจะถูกบันทึกไว้ในปฏิทินกิจกรรมของกรุงแคนเบอร์ราด้วย” นายมาริษ กล่าว
โอกาสนี้ทางกทม.โดย ว่าที่ ร.ต.เศวตชัย ทรัพย์บุญมี ผู้ช่วยปลัด กทม.ซึ่งได้รับมอบหมายให้นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และคณะผู้แทนที่ไปร่วม กระบี่กระบอง นาฏศิลป์ และคีตศิลป์ ไปร่วมงานเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา เปิดเผยว่า กทม.มาร่วมกับทางสถานทูตเพื่อจัดงานประชาสัมพันธ์ให้กับประเทศไทยให้คนต่างชาติรู้จัก “ไทยแลนด์” ให้มากขึ้น เราทราบดีว่าคนออสเตรเลียเมื่อไปเมืองไทยอยากไปถนนข้าวสาร จึงได้จัดนิทรรศการจำลองถนนข้าวสารเพื่อให้รู้ว่าตลอดเส้นทางในถนนข้าวสารมีอะไรบ้าง พร้อมนำศิลปวัฒนธรรมไทย ดนตรีพื้นบ้านของไทย เช่น โปงลาง นาฏศิลป์ การแสดงคีตะมวยไทย กระบี่กระบอง มาจัดแสดงเพื่อให้ชาวออสเตรเลียได้เห็นซึ่งความงดงามและคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย
“จากที่เคยมีแต่การแสดงมาร่วมโชว์ในปีที่แล้วปีนี้เรามาจัดนิทรรศการด้วย ในส่วนการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยยังจัดเต็มมาเช่นเดิม โดยเฉพาะมวยไทยเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของคนออสเตรเลีย เราคัดคนที่เก่ง ๆ ได้รับรางวัลชนะเลิศมาโชว์ปีที่แล้วคนเฝ้ารอชมกันแน่นตั้งแต่รอบแรก และตั้งตารอที่จะดูในรอบต่อ ๆ ไปยังมีการแสดงกระบี่กระบอง ฟันดาบที่ปีนี้นำดาบจริงมาใช้โชว์ด้วย ทั้งหมดนี้เพื่อให้ชาวต่างชาติได้รู้ว่าไปเมืองไทยจะได้พบเจอสิ่งเหล่านี้และไม่ได้สูญหายไปไหน คนไทยยังคงดำรงรักษาสืบทอดไว้จากรุ่นสู่รุ่นด้วยความรักและหวงแหนวัฒนธรรมไทย”ว่าที่ ร.ต.เศวตชัย กล่าว
เดินเที่ยวกันเถอะ..ก้าวเท้าสู่อาคารศาลาไทย ที่ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ใช้จำลองบรรยากาศ “ถนนข้าวสาร” ไฮไลท์ของงาน ฉากหลังแสดงภาพป้อมพระสุเมรุ เสาชิงช้าอันเป็นสัญลักษณ์ของ กทม.มีป้ายนิทรรศการบอกความเป็นมาของกีฬาไทย เช่น มวยไทย กระบี่กระบอง ตะกร้อลอดห่วง ทั้งเวอร์ชั่นไทยและอังกฤษให้ผู้สนใจมาอ่านเพิ่มพูนความรู้ ถัดมาก็เรียงรายด้วยภาพจำลองรถเข็นขายส้มตำ ผัดไทย บาร์บีคิว แม้แต่รถตุ๊กของไทยก็มีใครใคร่อยากโพสต์ท่าแอ็คชันแบบใดก็เลือกตามใจชอบ ส่วนจุดที่สร้างสีสันหนีไม่พ้น การวาดภาพเหมือน ที่หนูน้อยชาวออสซี่ต่างเข้าคิวรอให้จิตกรคนเก่ง วาดรูปตัวเอง เด็กสาว ๆ รักสวยรักงามก็แวะมาเพ้นท์เล็บ หรือจะถักผมเปียก็มีบริการให้เลือก จุดนี้ขายดีตั้งแต่เริ่มงานจนจบคนวาด คนเพ้นท์ คนถักผมติดตรึงกับที่ไม่ได้กระดิกไปไหน ที่แน่ ๆ ทั้งหมดนี้ทำฟรีไม่คิดเงิน ใครอยากให้ก็แค่หยอดลงกล่องทำบุญตามแต่ศรัทธาให้แก่วัดธัมมธโร วัดไทยแห่งเดียวในกรุงแคมเบอร์รา
เดินมานอกอาคาร..จังหวะดนตรีที่เร่งเร้าประกอบท่วงท่าลีลาที่เข้มแข็งให้ลุ้นทุกการเคลื่อนไหวของผู้แสดงศิลปะการต่อสู่มวยไทยสะกดทุกสายตาของ “ฝรั่งตาน้ำข้าว” แบบที่คนโบราณชอบเรียกต้องหยุดนิ่งแทบไม่กระพริบ หรือเผลอไผลขยับตัวหลบด้วยความหวาดเสียวระหว่างนั่งชม บ้างก็ควักกล้องถ่ายรูป สมาร์ทโฟนคู่ใจมาถ่ายคลิปถ่ายรูปตามแต่ชอบ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ก็จะสลับหมุนเวียนการแสดงมาให้ชมอย่างต่อเนื่อง เช่น สาธิตไหว้ครูของมวยไทย การต่อสู้ฟันดาบซึ่งใช้ดาบจริง การแสดงกระบี่กระบอง ร่วมด้วยการร่ายรำที่สวยงามอ่อนช้อยแบบไทย การละเล่นผีตาโขน หรือแม้แต่ร้องลิเกที่ กทม.ก็ขนไปร่วมโชว์ให้ชมแบบจัดเต็ม แถมบางช่วงก็สร้างสัมพันธ์ดึงผู้ร่วมงานมาสนุก เช่น สอนเด็กฝรั่งไหว้ครูกระบี่กระบอง เป็นต้น
งานวัดที่สถานทูตไทยรอบตัวรายล้อมไปด้วยซุ้มอาหารไทย ร้านขายสินค้าเกษตร งานฝีมือ งานประดิษฐ์ของไทย กระจายเต็มพื้นที่ประมาณ 8 ไร่จะเริ่มเริ่มเดินเลือกซื้อหาอาหารไทยคาว-หวานจากร้านชื่อดังในพื้นที่ไม่ว่าจะส้มตำ กุ๋ยช่าย ผัดไทย หอยทอด หรือขนมครก ฝอยทอง วุ้นสวยหลากสี แล้วมายืนดูการแสดงโชว์ลานหน้าอาคารศาลาไทย หรือจะแวะถ่ายรูปเล่นระหว่างทางก่อน เดินเลยมานั่งที่ลานกว้างฟังเพลงสบาย ๆ จากนักดนตรีคนไทยก็ได้ แต่ที่แน่ ๆ มาเที่ยวงานวัดก็ต้องมาเล่นเกมทดสอบความแม่นยำ อย่างปาลูกโป่ง ที่มีรางวัลเป็นโมบายปลาตะเพียน โยนบอลลงไห โยนห่วงลงขวด เป็นต้น หรือจะสอยดาวแบบงานกาชาดไทยซึ่งที่นั่นเรียกเก๋ ๆ ว่า “Wishing Tree” ก็มี สุดท้ายเดินจนเมื่อยอยากมีคนนวดต้องไม่พลาดนวดแผนไทยมาให้บริการเช่นเดิม
แม้จะจัดงานเพียง 1 วันเท่านั้นแต่ก็อัดแน่นไปด้วยความสนุกสาน ที่สร้างความสุขให้แก่ชาวออสซี่ทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงชาวต่างประเทศเชื้อชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะคนไทยที่มาพำนักที่กรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลียที่ได้ชื่อว่าเงียบสงบที่สุดในโลกแห่งนี้