ดีเอสไอสอบทุจริตครูผู้ช่วย พบผู้เข้าสอบขาดคุณสมบัติแต่กลับได้รับรองคุณสมบัติถูกต้อง เบื้องต้นเกือบ 100 คนในกลุ่ม ไปสอบในพื้นที่อีสานซึ่งมีรายชื่อในกลุ่ม 334 รายที่ดีเอสไอมีข้อมูลว่าผ่าน “เสริมศักดิ์” ชี้กรณีนี้ถือว่าขาดคุณสมบัติแต่ต้น และไม่มีสิทธิสอบ
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดีการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว 12 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า จากการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการสอบครูผู้ช่วย ปรากฏว่ามีครูผู้ช่วยที่เข้าสอบขาดคุณสมบัติหลายประเด็น แต่ได้มีการรับรองมาว่ามีคุณสมบัติที่ถูกต้อง เช่น ไม่ได้เป็นทำงานครบ 3 ปี ตามที่หลักเกณฑ์กำหนด แต่มีการรับรองมาว่าทำงานครบ การรับรองให้มีสิทธิสอบ เป็นต้น ซึ่งทางดีเอสไอกำลังตั้งทีมไปสอบสวนต่อในประเด็นนี้เพื่่อขยายผล โดยเบื้องต้นพบว่ามีประมาณเกือบ 100 คนที่ได้ไปสอบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอยู่ในกลุ่มที่ผ่านการสอบคัดเลือกตามรายชื่อของดีเอสไอ 344 ราย
ทั้งนี้ หากดีเอสไอส่งข้อมูลของกลุ่มครูผู้ช่วยที่ขาดคุณสมบัติดังกล่าวมาให้ ศธ.คนกลุ่มนี้ ถือว่าขาดคุณสมบัติและไม่มีสิทธิสอบ และจะเป็นหลักฐานอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งหลักฐานที่มีการรับรองมาว่ามีคุณสมบัติครบก็จะถือว่าเป็นเอกสารเท็จจะต้องไปดูด้วยว่าใครเป็นผู้รับรองมาและมีใครเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในส่วนของการสอบสวนดีเอสไอนั้นเป็นการดำเนินการทางคดีอาญาคิดว่าคงจะมีการสอบสวนกันต่อไปอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับกลุ่มอดีตครูผู้ช่วยที่ขาดคุณสมบัติเพราะทำงานไม่ครบ 3 ปี จะให้กลับมารับราชการอีกครั้งได้หรือไม่ เพราะถือว่าขาดคุณสมบัติแล้ว นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ถือว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่ต้น ไม่มีสิทธิสอบก็สามารถนำหลักฐานในประเด็นนี้มาพิจารณาได้
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดีการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว 12 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า จากการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการสอบครูผู้ช่วย ปรากฏว่ามีครูผู้ช่วยที่เข้าสอบขาดคุณสมบัติหลายประเด็น แต่ได้มีการรับรองมาว่ามีคุณสมบัติที่ถูกต้อง เช่น ไม่ได้เป็นทำงานครบ 3 ปี ตามที่หลักเกณฑ์กำหนด แต่มีการรับรองมาว่าทำงานครบ การรับรองให้มีสิทธิสอบ เป็นต้น ซึ่งทางดีเอสไอกำลังตั้งทีมไปสอบสวนต่อในประเด็นนี้เพื่่อขยายผล โดยเบื้องต้นพบว่ามีประมาณเกือบ 100 คนที่ได้ไปสอบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอยู่ในกลุ่มที่ผ่านการสอบคัดเลือกตามรายชื่อของดีเอสไอ 344 ราย
ทั้งนี้ หากดีเอสไอส่งข้อมูลของกลุ่มครูผู้ช่วยที่ขาดคุณสมบัติดังกล่าวมาให้ ศธ.คนกลุ่มนี้ ถือว่าขาดคุณสมบัติและไม่มีสิทธิสอบ และจะเป็นหลักฐานอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งหลักฐานที่มีการรับรองมาว่ามีคุณสมบัติครบก็จะถือว่าเป็นเอกสารเท็จจะต้องไปดูด้วยว่าใครเป็นผู้รับรองมาและมีใครเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในส่วนของการสอบสวนดีเอสไอนั้นเป็นการดำเนินการทางคดีอาญาคิดว่าคงจะมีการสอบสวนกันต่อไปอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับกลุ่มอดีตครูผู้ช่วยที่ขาดคุณสมบัติเพราะทำงานไม่ครบ 3 ปี จะให้กลับมารับราชการอีกครั้งได้หรือไม่ เพราะถือว่าขาดคุณสมบัติแล้ว นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ถือว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่ต้น ไม่มีสิทธิสอบก็สามารถนำหลักฐานในประเด็นนี้มาพิจารณาได้
