สนองรับสั่ง สมเด็จพระเทพฯ วธ.เตรียมบูรณะราชรถ-รร.รถไฟ

วธ.สนองรับสั่ง “สมเด็จพระเทพฯ” บูรณะราชรถ-ราชยาน ให้กลับมางดงาม พร้อมทั้งเร่งประสานผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ปรับปรุงโรงแรมรถไฟ หัวลำโพง สร้างสมัย ร.5 อายุกว่า 100 ปี ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชาวไทย ชาวต่างชาติ

นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า จากการประชุมผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ตนได้แจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบ ตามที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับสั่งเรื่องการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ให้มีชีวิต โดย วธ.ได้รับสนองรับสั่ง และจะดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาพิพิธภัณฑ์ การบริหารจัดการ และเทคโนโลยี ให้มีชีวิต มีความทันสมัย มีการปรับการจัดแสดง และเพิ่มกิจกรรมหมุนเวียนที่น่าสนใจ โดยนำเอกลักษณ์ความโดดเด่นของโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์มาเป็นจุดขายบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะต้องมีการดำเนินงานอย่างเร่งด่วน โดยจะเริ่มนำร่อง ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ก่อน หลังจากนั้นจะขยายไปสู่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุโขทัย เชียงใหม่ และพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป

นายสนธยา กล่าวต่อว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีความห่วงใยถึง การดูแล และอนุรักษ์ ราชรถ ราชยาน ที่เก็บอยู่ภายในอาคารหมู่พระวิมาน ด้านหลังของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซึ่งพระองค์ทรงรับสั่งว่าควรมีการบูรณะ และจัดหาที่เก็บให้เหมาะสม เพื่อนำมาจัดแสดง และให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ พร้อมกันนี้ ยังมีรับสั่งถึงการอนุรักษ์โรงแรมรถไฟ หัวลำโพง ซึ่งมีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมยุโรปที่สวยงาม มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งอาคารดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานแล้ว ปัจจุบันมีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก ตนได้มอบหมายให้กรมศิลปากร รับไปดำเนินการทั้ง 2 เรื่อง โดยสำรวจราชรถ ราชยานทั้งหมด เพื่อทำการบูรณะ ขณะเดียวกันให้ประสานงานไปยังผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการบูรณะโรงแรมรถไฟ ให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ สร้างเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่คนไทยและชาวต่างชาติต่อไป

“ในการประชุมได้มีการชี้แจงความคืบหน้าการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่เวียงกุมกาม จ.เชียงใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โดยได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงาน บูรณาการการทำงานร่วมกัน และจะมีการถ่ายโอนภารกิจในการทำงานในส่วนศูนย์ข้อมูลเวียงกุมกามให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเปิดให้คนในท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกกระบวนการทำงานและเสนอแนวคิดแบบล่างขึ้นบน รวมถึงการจัดการพื้นที่ การจัดกิจกรรม และการจัดทรัพยากรในพื้นที่ ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปสนับสนุนเบื้องต้น โดยให้คนในพื้นที่เข้าไปบริหารจัดการพื้นที่อย่างยั่งยืน” รมว.วัฒนธรรม กล่าว