กทม.เร่งหาแนวทางนำรถรางไฟฟ้า ทำท่าเรือ รับ-ส่งนักท่องเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เผย 18 ก.ย.นี้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (16 ก.ย.) นายอรวิทย์ เหมะจุฑา รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวถึง แนวคิดที่จะนำเอารถรางไฟฟ้ามาวิ่งรับ-ส่งนักท่องเที่ยวรอบเกาะรัตน์โกสินทร์ ว่าแนวความคิดการนำรถรางไฟฟ้ามาวิ่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์นั้นมีขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว และลดปัญหาการจราจรรอบเกาะด้วย อีกทั้งรถรางไฟฟ้ายังใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนซึ่งจะสามารถลดมลพิษได้อีกด้วย
ส่วนเส้นทางที่จะเดินรถคาดว่าจะเริ่มต้นที่หน้านิทรรศรัตนโกสินทร์ เพราะถือว่าเป็นจุดแรกที่นักท่องเที่ยวต้องเดินชม จากนั้นก็จะรับ-ส่งไปยังบริเวณรอบสนามหลวง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ และวนกลับมาที่เดิม ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 กันยายน ทาง กทม.จะมีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการ กลุ่มการท่องเที่ยว สำนักงานจราจรและขนส่ง บริษัทขนส่ง จำกัด สำนักพระราชวัง เพื่อหาแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงต้องดูระบบเรื่องค่าใช้จ่ายก่อนว่าควรจะให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการให้ หรือว่า กทม.จะเป็นผู้ดำเนินการเอง สำหรับจำนวนคันรถที่จะนำมาบริการนั้นต้องตรวจสอบว่าในแต่ละวันมีรถนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณกี่คัน เพื่อที่จะได้เตรียมรถรางไฟฟ้าให้มีความเหมาะกับจำนวนนักท่องเที่ยว
นายอรวิทย์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทาง กทม.กำลังศึกษาหาท่าเรือที่เหมาะสมเพื่อที่จะรับ-ส่งนักนักท่องให้ข้ามฟากไปขึ้นรถที่สายใต้เก่าโดยไม่ต้องให้รถวกกลับมารับ เบื้องตนคาดว่าจะทำท่าเรือที่บริเวณสวนสาธารณะสันติชัยปราการ บริเวณป้อมพระสุเมรุ ถนนพระอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม ในการจัดรถรางไฟฟ้า และเรือข้ามฟากจะต้องทำไปพร้อมกับการจัดระเบียบรถทัวร์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เนื่องจากว่ามีความเกี่ยวเนื่องกัน
วันนี้ (16 ก.ย.) นายอรวิทย์ เหมะจุฑา รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวถึง แนวคิดที่จะนำเอารถรางไฟฟ้ามาวิ่งรับ-ส่งนักท่องเที่ยวรอบเกาะรัตน์โกสินทร์ ว่าแนวความคิดการนำรถรางไฟฟ้ามาวิ่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์นั้นมีขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว และลดปัญหาการจราจรรอบเกาะด้วย อีกทั้งรถรางไฟฟ้ายังใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนซึ่งจะสามารถลดมลพิษได้อีกด้วย
ส่วนเส้นทางที่จะเดินรถคาดว่าจะเริ่มต้นที่หน้านิทรรศรัตนโกสินทร์ เพราะถือว่าเป็นจุดแรกที่นักท่องเที่ยวต้องเดินชม จากนั้นก็จะรับ-ส่งไปยังบริเวณรอบสนามหลวง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ และวนกลับมาที่เดิม ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 กันยายน ทาง กทม.จะมีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการ กลุ่มการท่องเที่ยว สำนักงานจราจรและขนส่ง บริษัทขนส่ง จำกัด สำนักพระราชวัง เพื่อหาแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงต้องดูระบบเรื่องค่าใช้จ่ายก่อนว่าควรจะให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการให้ หรือว่า กทม.จะเป็นผู้ดำเนินการเอง สำหรับจำนวนคันรถที่จะนำมาบริการนั้นต้องตรวจสอบว่าในแต่ละวันมีรถนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณกี่คัน เพื่อที่จะได้เตรียมรถรางไฟฟ้าให้มีความเหมาะกับจำนวนนักท่องเที่ยว
นายอรวิทย์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทาง กทม.กำลังศึกษาหาท่าเรือที่เหมาะสมเพื่อที่จะรับ-ส่งนักนักท่องให้ข้ามฟากไปขึ้นรถที่สายใต้เก่าโดยไม่ต้องให้รถวกกลับมารับ เบื้องตนคาดว่าจะทำท่าเรือที่บริเวณสวนสาธารณะสันติชัยปราการ บริเวณป้อมพระสุเมรุ ถนนพระอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม ในการจัดรถรางไฟฟ้า และเรือข้ามฟากจะต้องทำไปพร้อมกับการจัดระเบียบรถทัวร์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เนื่องจากว่ามีความเกี่ยวเนื่องกัน
