สนน.เตือนกรุงเทพฯ ยังมีฝนกว่า 70% ของพื้นที่ เร่งประสานงานจังหวัดปริมณฑลเพื่อป้องกันน้ำไหลท่วม ชี้ขยะตกค้างอุดตันทางน้ำไหล
วันนี้ (15 ก.ย.) นายอดิศักดิ์ ขันตรี ผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ (สนน.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ในวันนี้กรุงเทพฯ ยังมีฝนตกกว่าร้อย 70 ของพื้นที่ เนื่องจากว่าย่อมความกดอากาศต่ำยังเคลื่อนตัวอยู่เหนือกรุงเทพฯ ด้านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกอบกับยังมีร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ส่งผลให้ 2-3 วันนี้พื้นที่กรุงทเพฯยังคงจะมีฝนตกบ้างเป็นบ้างแห่ง
ส่วนสถานการณ์ฝนตกน้ำท่วมขังวานนี้ จุดที่วัดระดับน้ำได้สูงสุดอยู่ที่เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ากรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีปริมาณน้ำฝน 88 มิลลิเมตรต่อ 15 นาที ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งในการระบายน้ำ ทั้งนี้ ตนอยากให้ประชาชนช่วยกันดูแลขยะหน้าตะแกรงท่อระบายน้ำด้วย เพื่อไม่ให้ขยะไปอุดตันทางน้ำไหลที่อาจจะส่งผลให้น้ำขังได้
นายอดิศักดิ์กล่าวต่อว่า ทางด้านพื้นที่ที่ติดต่อกับจังหวัดปริมณฑล เช่น ปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรานั้น ทาง สนน.ได้เข้าไปขอติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำทางตอนเหนือของจังหวัดปริมณฑลที่จะไหลเข้าสู้พื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีการเข้าไปติดตั้งบริเวณบ่สูบน้ำลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี สำหรับด้านทิศตะวันออกที่มีเขตติดต่อกับ อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประสานกับกรมชลประทานให้สูลน้ำออกไปยังแม่น้ำบางประกงเพื่อที่จะเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่กรงเทพฯ ฝั่งตะวันออก อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมนั้น จะต้องมีการเฝ้าระวังอยู่ 3 น้ำ คือ น้ำฝน น้ำทะเลหนุนสูง และน้ำเหนือ ที่ไหลผ่านเข้ามายังกรุงเทพฯ และขณะนี้ สนน.ได้มีการเข้าไปเสริมแนวกระสอบบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและท่าโรงพยาบาลศิริราชเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้อุดแนวฟันหล่อเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน แต่ยังมีบางช่วงที่ยังคงดำเนินการไม่ได้เนื่องจากเกรงว่าจะกีดขวางการเดินทางเข้าออกของประชาชน
ด้าน นายบัณฑิต วินิจฉัยกุล รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า ประชาชนทุกคนควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังในช่วงนี้ เพราะฝนตกหนักจะทำให้ถนนลื่น และการขับขี่ยากลำบากขึ้น สำหรับสิ่งที่จะขอความร่วมมือจากประชาชนในช่วงนี้ก็คือ อยากให้ช่วยกันเก็บเศษขยะที่พบเห็นติดอยู่บริเวณตะแกรงเหล็กของฝาท่อระบายน้ำตามถนนต่างๆ ออกด้วย โดยเฉพาะภายในซอยบ้านของตนเอง เพื่อเปิดทางให้น้ำฝนที่ตกลงมาได้ระบายออกไปเร็วยิ่งขึ้น เพราะหลายวันที่ผ่านมานั้นพบเศษขยะจำนวนมาก เช่น ถุงพลาสติก ผักตบชวา ใบไม้แห้ง และขวดน้ำพลาสติก เข้าไปอุดตันบริเวณดังกล่าวส่งผลให้น้ำท่วมขัง เพราะน้ำไม่สามารถไหลออกไปได้ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้สัญจรไปมาอย่างมาก นอกจากนี้ ขอร้องประชาชนด้วยว่าอย่าทิ้งขยะบนพื้นเพียงเพราะความมักง่าย เนื่องจากการกระทำเหล่านี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นเป็นจำนวนมาก