คนกรุงผวาถนนทรุด สนย.เร่งจ้างบริษัทเอกชนสแกนทั่วเมือง เผยถนนพระราม 4 เสี่ยงสุด เหตุมีสาธารณูปโภคใต้ดินมาก เร่งซ่อมแซมลดความสูญเสีย
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายสุรพล อนวัชพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างและบูรณะ สำนักการโยธา เปิดเผยว่า จากกรณีรถบรรทุก 6 ล้อตกหลุมบริเวณทางเท้าหน้าทางเข้าตลาดสรงประภา เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากทางเท้าเกิดทรุดตัวขณะรถบรรทุกกำลังขับขึ้นไปเพื่อดำเนินการซ่อมท่อประปานั้น ขณะนี้ กทม.โดยสำนักการโยธาได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบบริเวณใต้พื้นทางเดินเท้าตามถนนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัยของบริษัทที่ได้ว่าจ้างมาทำการสแกนลงไปใต้ดิน หากพบว่าบริเวณถนนสายใดเกิดความชำรุด ทั้งที่เป็นโพรงจากการที่ทรายใต้ดินถูกน้ำพัดพาออกไป เนื่องจากเคยเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วม หรือเป็นถนนที่ใช้งานมานานแล้วก็อาจเกิดความเสื่อมสภาพได้ รวมถึงถนนสายที่มีสาธารณูปโภคใต้ดินจำนวนมาก อาทิ ท่อประปา รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือท่อน้ำทิ้งต่างๆ
นายสุรพล กล่าวว่า เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบของสำนักการโยธาร่วมกับบริษัทที่ว่าจ้าง พบว่า ถนนพระราม 4 เป็นถนนที่มีปัญหาดังกล่าวมากที่สุด เนื่องจากมีสาธารณูปโภคอยู่ใต้ดินเป็นจำนวนมาก ทั้งรถไฟใต้ดิน ท่อระบายน้ำ และท่อประปา ทำให้ถนนสายนี้เป็นถนนที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ซึ่ง กทม.จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมโดยด่วนเพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป ทั้งบริเวณตัวถนนและทางเดินเท้า นอกจากนี้ยังมีถนนสายอื่นๆ ในกรุงเทพฯที่มีจำเป็นต้องตรวจสอบเพื่อแก้ไขต่อไปอีกจำนวนมากมาย
ด้าน นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รอง ผอ.สำนักการโยธา กล่าวว่า บริเวณทางเดินเท้าที่มีปัญหาชำรุดบริเวณริมถนนสายต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯนั้น มีทั้งที่เป็นถนนเก่า ใช้งานมานาน ทำให้ดินและทรายที่อยู่ด้านล่างหายไปตามกาลเวลา และที่ถูกพัดหายไปจากการถูกน้ำท่วมขังในอดีต รวมทั้งการที่มีท่อประปาอยู่ใต้ดิน ทำให้น้ำพัดพาเอาทรายที่คอยเป็นตัวรองรับน้ำหนักอยู่ด้านล่างหายไปจากตำแหน่งเดิม ส่งผลให้ทางเดินเท้าเกิดความเปราะบาง จนทำให้พื้นเกิดการแตกหักและทรุดตัวลงมา และทำให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนทั่วไปได้
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายสุรพล อนวัชพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างและบูรณะ สำนักการโยธา เปิดเผยว่า จากกรณีรถบรรทุก 6 ล้อตกหลุมบริเวณทางเท้าหน้าทางเข้าตลาดสรงประภา เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากทางเท้าเกิดทรุดตัวขณะรถบรรทุกกำลังขับขึ้นไปเพื่อดำเนินการซ่อมท่อประปานั้น ขณะนี้ กทม.โดยสำนักการโยธาได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบบริเวณใต้พื้นทางเดินเท้าตามถนนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัยของบริษัทที่ได้ว่าจ้างมาทำการสแกนลงไปใต้ดิน หากพบว่าบริเวณถนนสายใดเกิดความชำรุด ทั้งที่เป็นโพรงจากการที่ทรายใต้ดินถูกน้ำพัดพาออกไป เนื่องจากเคยเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วม หรือเป็นถนนที่ใช้งานมานานแล้วก็อาจเกิดความเสื่อมสภาพได้ รวมถึงถนนสายที่มีสาธารณูปโภคใต้ดินจำนวนมาก อาทิ ท่อประปา รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือท่อน้ำทิ้งต่างๆ
นายสุรพล กล่าวว่า เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบของสำนักการโยธาร่วมกับบริษัทที่ว่าจ้าง พบว่า ถนนพระราม 4 เป็นถนนที่มีปัญหาดังกล่าวมากที่สุด เนื่องจากมีสาธารณูปโภคอยู่ใต้ดินเป็นจำนวนมาก ทั้งรถไฟใต้ดิน ท่อระบายน้ำ และท่อประปา ทำให้ถนนสายนี้เป็นถนนที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ซึ่ง กทม.จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมโดยด่วนเพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป ทั้งบริเวณตัวถนนและทางเดินเท้า นอกจากนี้ยังมีถนนสายอื่นๆ ในกรุงเทพฯที่มีจำเป็นต้องตรวจสอบเพื่อแก้ไขต่อไปอีกจำนวนมากมาย
ด้าน นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รอง ผอ.สำนักการโยธา กล่าวว่า บริเวณทางเดินเท้าที่มีปัญหาชำรุดบริเวณริมถนนสายต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯนั้น มีทั้งที่เป็นถนนเก่า ใช้งานมานาน ทำให้ดินและทรายที่อยู่ด้านล่างหายไปตามกาลเวลา และที่ถูกพัดหายไปจากการถูกน้ำท่วมขังในอดีต รวมทั้งการที่มีท่อประปาอยู่ใต้ดิน ทำให้น้ำพัดพาเอาทรายที่คอยเป็นตัวรองรับน้ำหนักอยู่ด้านล่างหายไปจากตำแหน่งเดิม ส่งผลให้ทางเดินเท้าเกิดความเปราะบาง จนทำให้พื้นเกิดการแตกหักและทรุดตัวลงมา และทำให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนทั่วไปได้
