“ศศิธารา” ขอขยายเวลายื่นเอกสารต่อ คกก.สอบวินัยร้ายแรง แจงเอกสารมากอยู่หลายที่ ขณะที่ “อภิชาติ” ขอหารือและเสนอให้ “จาตุรนต์” พิจารณาขยายได้หรือไม่ หรือได้กี่วัน ส่วนกรณี “ชินภัทร” เชิญรับ สว.3 ด้วยตนเอง หากไม่มาจะจัดส่งไปรษณีย์ไป ระบุกรณีนี้สอบได้ไวเหตุข้อมูลจากชุด “พนิตา” แน่น พร้อมเผย ปลัด สธ.ส่งผลสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีก 3 รายให้ รมว.ศึกษาฯ แล้ว
วันนี้ (19 ส.ค.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) และนายภูมิพิชญ์ วโรดมรุจิรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ รักษาการตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาธุรกิจและบริการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กรณีเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (SP2) : ไทยเข้มแข็ง 2555 สูญหายและส่อว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์โครงการดังกล่าว เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปผลสอบและจัดส่งบันทึกการแจ้งการรับทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาแบบ สว.3 ให้ น.ส.ศศิธารา และนายภูมิพิชญ์ รับทราบข้อกล่าวหาไปตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ทั้ง 2 ท่านได้ส่งเอกสารชี้แจงมาแล้ว เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาการส่งเอกสารหลักฐานชี้แจงพอดี
ทั้งนี้เฉพาะ น.ส.ศศิธารา ได้จัดส่งเอกสารหลักฐานมาบางส่วน พร้อมกับขอขยายเวลาการส่งเอกสารชี้แจงเพิ่ม โดยให้เหตุผลว่า เอกสารมีปริมาณมากและกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ จึงต้องใช้เวลารวบรวม โดยในวันที่ 20 ส.ค.นี้ คณะกรรมการสอบสวนฯ จะหารือว่าสมควรจะต้องขยายเวลาตามที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอหรือไม่ เพื่อเสนอความเห็นไปยังนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาการ (ศธ.) ให้ความเห็นชอบต่อไปส่วนจะสามารถขยายได้หรือไม่ และขยายได้กี่วัน ถือเป็นอำนาจของ รมว.ศึกษาธิการ จากนั้นคณะกรรมการสอบสวนฯ จะมาพิจารณาเอกสาร และคำชี้แจงต่างๆ ว่าสามารถหักล้าง ผลสอบของคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้หรือไม่จึงจะสามารถสรุปผลสอบเพื่อเสนอ รมว.ศึกษาธิการ ตัดสินว่าสมควรจะลดโทษ หรือลงโทษสถานใด
“ส่วนที่ผ่านมามีผู้ทักท้วงว่า การสอบสวนกรณี น.ส.ศศิธารา ใช้ระยะเวลานานเกินไปนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ นายจาตุรนต์ ได้เรียกคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการชุดต่างๆ ไปสอบถามความคืบหน้าการสอบสวน และสอบถามถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงเหตุผล โดยนายจาตุรนต์ ได้กำชับขอให้คณะกรรมการสอบสวนฯ ดำเนินการสอบข้อเท็จจริง ให้เป็นไปตามระเบียบ และข้อกฎหมาย และหากเรื่องใดต้องให้ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบ ก็ขอให้ส่งก่อนวันสิ้นกำหนดเวลาพอสมควร และหากเรื่องที่เสนอมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด ก็ให้ดำเนินการส่งเรื่องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว” นายอภิชาติ กล่าว
ประธานคณะกรรมการ กล่าวต่อว่า ส่วนการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กรณีความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ราชการเกิดความเสียหายกรณีสอบครูผู้ช่วย ว 12 กรณีพิเศษ หรือเหตุจำเป็นนั้น คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปผลสอบและได้เชิญ นายชินภัทร ให้มารับ สว.3 ในวันที่ 19 ส.ค.ซึ่งหากนายชินภัทร ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ทางคณะกรรมการสอบสวนจะจัดส่งให้ทางไปไปรษณีย์ภายในวันที่ 20 ส.ค. ทั้งนี้ การสอบสวนกรณีของ นายชินภัทร ถือว่าเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตการสอบครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นเหตุพิเศษ ว 12 ที่มีนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ.เป็นประธาน ได้สรุปผลสอบและมีการสืบพยานมาค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว จึงทำให้การสอบสวนใช้เวลาไม่นาน
ขณะเดียวกัน ทราบว่าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯได้สรุปผลสอบข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ที่เหลืออีก 3 คน ได้แก่ นายอนันต์ ระงับทุกข์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.อดีตรองเลขาธิการ กพฐ. นายสุเทพ ชิตยวงศ์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.อดีตผู้ช่วยเลขานุการ กพฐ.และ นายไกร เกษทัน ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผล สพฐ.อดีตผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สพฐ.และส่งให้ รมว.ศึกษาธิการ เรียบร้อย ซึ่งต้องรอว่า รมว.ศึกษาธิการ จะมีความเห็นตามที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯเสนอหรือไม่
วันนี้ (19 ส.ค.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) และนายภูมิพิชญ์ วโรดมรุจิรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ รักษาการตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาธุรกิจและบริการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กรณีเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (SP2) : ไทยเข้มแข็ง 2555 สูญหายและส่อว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์โครงการดังกล่าว เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปผลสอบและจัดส่งบันทึกการแจ้งการรับทราบข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาแบบ สว.3 ให้ น.ส.ศศิธารา และนายภูมิพิชญ์ รับทราบข้อกล่าวหาไปตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ทั้ง 2 ท่านได้ส่งเอกสารชี้แจงมาแล้ว เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาการส่งเอกสารหลักฐานชี้แจงพอดี
ทั้งนี้เฉพาะ น.ส.ศศิธารา ได้จัดส่งเอกสารหลักฐานมาบางส่วน พร้อมกับขอขยายเวลาการส่งเอกสารชี้แจงเพิ่ม โดยให้เหตุผลว่า เอกสารมีปริมาณมากและกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ จึงต้องใช้เวลารวบรวม โดยในวันที่ 20 ส.ค.นี้ คณะกรรมการสอบสวนฯ จะหารือว่าสมควรจะต้องขยายเวลาตามที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอหรือไม่ เพื่อเสนอความเห็นไปยังนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาการ (ศธ.) ให้ความเห็นชอบต่อไปส่วนจะสามารถขยายได้หรือไม่ และขยายได้กี่วัน ถือเป็นอำนาจของ รมว.ศึกษาธิการ จากนั้นคณะกรรมการสอบสวนฯ จะมาพิจารณาเอกสาร และคำชี้แจงต่างๆ ว่าสามารถหักล้าง ผลสอบของคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้หรือไม่จึงจะสามารถสรุปผลสอบเพื่อเสนอ รมว.ศึกษาธิการ ตัดสินว่าสมควรจะลดโทษ หรือลงโทษสถานใด
“ส่วนที่ผ่านมามีผู้ทักท้วงว่า การสอบสวนกรณี น.ส.ศศิธารา ใช้ระยะเวลานานเกินไปนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ นายจาตุรนต์ ได้เรียกคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการชุดต่างๆ ไปสอบถามความคืบหน้าการสอบสวน และสอบถามถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงเหตุผล โดยนายจาตุรนต์ ได้กำชับขอให้คณะกรรมการสอบสวนฯ ดำเนินการสอบข้อเท็จจริง ให้เป็นไปตามระเบียบ และข้อกฎหมาย และหากเรื่องใดต้องให้ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบ ก็ขอให้ส่งก่อนวันสิ้นกำหนดเวลาพอสมควร และหากเรื่องที่เสนอมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด ก็ให้ดำเนินการส่งเรื่องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว” นายอภิชาติ กล่าว
ประธานคณะกรรมการ กล่าวต่อว่า ส่วนการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กรณีความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ราชการเกิดความเสียหายกรณีสอบครูผู้ช่วย ว 12 กรณีพิเศษ หรือเหตุจำเป็นนั้น คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปผลสอบและได้เชิญ นายชินภัทร ให้มารับ สว.3 ในวันที่ 19 ส.ค.ซึ่งหากนายชินภัทร ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ทางคณะกรรมการสอบสวนจะจัดส่งให้ทางไปไปรษณีย์ภายในวันที่ 20 ส.ค. ทั้งนี้ การสอบสวนกรณีของ นายชินภัทร ถือว่าเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตการสอบครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นเหตุพิเศษ ว 12 ที่มีนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ.เป็นประธาน ได้สรุปผลสอบและมีการสืบพยานมาค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว จึงทำให้การสอบสวนใช้เวลาไม่นาน
ขณะเดียวกัน ทราบว่าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯได้สรุปผลสอบข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ที่เหลืออีก 3 คน ได้แก่ นายอนันต์ ระงับทุกข์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.อดีตรองเลขาธิการ กพฐ. นายสุเทพ ชิตยวงศ์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.อดีตผู้ช่วยเลขานุการ กพฐ.และ นายไกร เกษทัน ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผล สพฐ.อดีตผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สพฐ.และส่งให้ รมว.ศึกษาธิการ เรียบร้อย ซึ่งต้องรอว่า รมว.ศึกษาธิการ จะมีความเห็นตามที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯเสนอหรือไม่