สปส.จ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพ 147 ล้าน พร้อมขอความร่วมมือนายจ้าง รับเข้าทำงานหลังฟื้นฟูสมรรถภาพ
วันนี้ (8 ส.ค.) นายอารักษ์ พรหมณี รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กองทุนประกันสังคมดูแลผู้ประกันตนซึ่งเกิดความทุพพลภาพ เนื่องจากอาการเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการทำงานโดยได้รับเงินค่ารักษา 2,000 บาทต่อเดือน และเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของเงินเดือนในทุกเดือนตลอดชีวิต แต่จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว ทั้งนี้ช่วงตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม พ.ศ. 2556 มีผู้ประกันตนมายื่นเรื่องรับสิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคมจำนวนทั้งหมด 41,915 คน หากคิดโดยเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละกว่า 8,300 คน และจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ไปทั้งหมดกว่า 147 ล้านบาท
รองเลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า สปส.มีเป้าหมายมุ่งฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ประกันตนให้กลับมาทำงานหรือประกอบอาชีพอิสระและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยปัจจุบัน สปส.มีศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานในจังหวัดต่างๆ 4 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ปทุมธานี ระยอง ขอนแก่น โดยศูนย์ จ.ขอนแก่น นั้น เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้และกำลังก่อสร้างศูนย์เพิ่มอีก 1 แห่งที่ จ.สงขลา โดย สปส.จัดงบเบื้องต้นในการก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าภายใน 2 ปีจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ ซึ่งในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2556 มีผู้ประกันตนที่เข้ารับการฟื้นฟูและอบรมอาชีพกับศูนย์ทั้ง 3 แห่งไปเรียบร้อยแล้วรวม 146 คน ซึ่งทั้งหมดได้กลับไปทำงานและใช้ชีวิตประจำวันตามปกติโดยบางส่วนเข้าทำงานในสถานประกอบการเดิม ส่วนหนึ่งไปทำงานกับสถานประกอบการแห่งใหม่ และมีผู้ที่ไปประกอบอาชีพอิสระและทำงานบ้านด้วย
“สปส.ได้ขอความร่วมมือจากนายจ้างให้รับคนงานซึ่งได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพกลับเข้าทำงานตามเดิมโดยจัดหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้ทำ เช่น งานธุรการ คอมพิวเตอร์ หรือสถานประกอบการอื่นๆ รับเข้าไปทำงาน เนื่องจากกฎกระทรวงแรงงานกำหนดให้สถานประกอบการรับผู้พิการเข้าทำงานในสัดส่วนผู้พิการ 1 คนต่อพนักงาน 100 คน รวมทั้งมีการหาแหล่งทุนให้ประกอบอาชีพอิสระเพื่อให้ผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพมีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว” นายอารักษ์ กล่าว
วันนี้ (8 ส.ค.) นายอารักษ์ พรหมณี รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กองทุนประกันสังคมดูแลผู้ประกันตนซึ่งเกิดความทุพพลภาพ เนื่องจากอาการเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการทำงานโดยได้รับเงินค่ารักษา 2,000 บาทต่อเดือน และเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของเงินเดือนในทุกเดือนตลอดชีวิต แต่จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว ทั้งนี้ช่วงตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม พ.ศ. 2556 มีผู้ประกันตนมายื่นเรื่องรับสิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคมจำนวนทั้งหมด 41,915 คน หากคิดโดยเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละกว่า 8,300 คน และจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ไปทั้งหมดกว่า 147 ล้านบาท
รองเลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า สปส.มีเป้าหมายมุ่งฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ประกันตนให้กลับมาทำงานหรือประกอบอาชีพอิสระและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยปัจจุบัน สปส.มีศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานในจังหวัดต่างๆ 4 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ปทุมธานี ระยอง ขอนแก่น โดยศูนย์ จ.ขอนแก่น นั้น เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้และกำลังก่อสร้างศูนย์เพิ่มอีก 1 แห่งที่ จ.สงขลา โดย สปส.จัดงบเบื้องต้นในการก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าภายใน 2 ปีจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ ซึ่งในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2556 มีผู้ประกันตนที่เข้ารับการฟื้นฟูและอบรมอาชีพกับศูนย์ทั้ง 3 แห่งไปเรียบร้อยแล้วรวม 146 คน ซึ่งทั้งหมดได้กลับไปทำงานและใช้ชีวิตประจำวันตามปกติโดยบางส่วนเข้าทำงานในสถานประกอบการเดิม ส่วนหนึ่งไปทำงานกับสถานประกอบการแห่งใหม่ และมีผู้ที่ไปประกอบอาชีพอิสระและทำงานบ้านด้วย
“สปส.ได้ขอความร่วมมือจากนายจ้างให้รับคนงานซึ่งได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพกลับเข้าทำงานตามเดิมโดยจัดหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้ทำ เช่น งานธุรการ คอมพิวเตอร์ หรือสถานประกอบการอื่นๆ รับเข้าไปทำงาน เนื่องจากกฎกระทรวงแรงงานกำหนดให้สถานประกอบการรับผู้พิการเข้าทำงานในสัดส่วนผู้พิการ 1 คนต่อพนักงาน 100 คน รวมทั้งมีการหาแหล่งทุนให้ประกอบอาชีพอิสระเพื่อให้ผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพมีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว” นายอารักษ์ กล่าว