xs
xsm
sm
md
lg

วิจัยพบดอกแก้วมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิจัยน้ำมันหอมระเหยดอกไม้ไทย 6 ชนิด พบดอกแก้วมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด คือ 1.55 mgTrolox/mg น้ำมันหอมระเหย แนะศึกษาต่อยอดพัฒนาเป็นยาและเครื่องสำอาง
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ภญ.วิทิตา ไปบน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2 พิษณุโลก นำเสนอผลการวิจัยเรื่อ “องค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากดอกไม้หอมไทย” ในงานประชุมวิชาการการวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 21 เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ดอกไม้หอมของไทยมีกลิ่นเฉพาะตัว มีส่วนดอกที่บอบบาง หลุดร่วงง่าย บางชนิดออกดอกตลอดปี บางชนิดออกดอกในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หากไม่มีการนำมาใช้ หรือสกัดเอาน้ำมันหอมระเหยไว้ ดอกไม้อาจร่วงหล่นเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ คณะผู้วิจัยจึงทำการศึกษาถึงองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของน้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากดอกไม้หอมไทย

ภญ.วิทิตา กล่าวอีกว่า คณะวิจัยทำการศึกษาดอกไม้หอมในพื้นที่ชุมชน จ.พิษณุโลก จำนวน 6 ชนิด ได้แก่ ดอกปีบ ดอกลีลาวดี ดอกแก้ว ดอกเล็บมือนาง ดอกพุด และดอกขจร โดยส่วนของกลีบดอกนำมาสกัดโดยใช้เฮกเซนเป็นตัวทำละลาย จากนั้นนำน้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้มาศึกษาถึงองค์ประกอบทางเคมี โดยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี แมสสเปคโตรเมทรี และนำสารสกัดน้ำมันหอมระเหยที่ได้ไปศึกษาฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้ทั้ง 6 ชนิดมีสีเหลือง และความสามารถในการจับอนุมูลอิสระของสารสกัดน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้ทั้ง 6 ชนิด เปรียบเทียบกับสารมาตรฐานโทลอกซ์ (Trolox) พบว่า ดอกปีบ มีค่า 0.08 มิลลิกรัมโทลอกซ์ต่อมิลลิกรัมน้ำมันหอมระเหย (mg Trolox/mg น้ำมันหอมระเหย) ดอกลีลาวดี 0.23 mg Trolox/mg น้ำมันหอมระเหย ดอกแก้ว 1.55 mg Trolox/mg น้ำมันหอมระเหย ดอกเล็บมือนาง 1.13 mg Trolox/mg น้ำมันหอมระเหย และดอกขจร 1.07 mg Trolox/mg น้ำมันหอมระเหย

“จากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดน้ำมันหอมระเหยจากดอกแก้วมาที่สุด รองลงมาเป็นดอกเล็บมือนาง ดอกพุด ดอกลีลาวดี และดอกขจร ซึ่งน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้แต่ละชนิด มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระได้ไม่เท่ากัน เนื่องจากองค์ประกอบในน้ำมันหอมระเหยอแต่ละชนิดแตกต่างกัน จึงควรศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆ ของน้ำมันหอมระเหย ซึ่งสามารถนำไปใช้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอางต่อไป” ภญ.วิทิตา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น