สพฐ.ไม่นิ่งนอนใจกรณี ด.ญ.วัย 10 ขวบตั้งท้อง ชี้ระบบการดูแล นร.สำคัญที่สุดต้องทำให้เข้มข้น และเหตุใน ร.ร.เป็นหน้าที่ของครูทุกคนที่ต้องจับตาดูทุกอิริยาบถของเด็กอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้แอบหรืออยู่ในที่ลับตา และควรสอนความรู้เพศศึกษาแต่ประถม โดยวิทยากรที่มีความรู้และเชี่ยวชาญ ย้ำต่อไปผู้บริหารและครูต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในด้านคุณธรรม-จริยธรรมแก่เด็ก
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีครูโรงเรียนนครพนมวิทยาคม เปิดเผยปัญหาสังคมหลังพบเด็กหญิงวัยเพียง 10 ขวบตั้งครรภ์และคลอดลูกก่อนวัยอันควร รวมถึงกรณีเด็กใช้ห้องพักเรียนในการแอบมีเพศสัมพันธ์ ว่า เรื่องนี้จะต้องเน้นระบบการดูแลนักเรียนให้มีความเข้มข้น เพราะจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ที่มีนักเรียนผู้ชายเล่นกันจนนำไปสู่การทำร้ายร่างกายและเสียชีวิต ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนยังมีช่องว่างเรื่องระบบดูแลนักเรียนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กในระดับประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษา หากโรงเรียน หรือครูปล่อยให้ไปทำกิจกรรมกันเองโดยที่ไม่อยู่ในสายตาก็อาจจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ได้ เพราะฉะนั้น ระบบการดูแลนักเรียนจะเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ได้มีแนวปฏิบัติเรื่องระบบการดูแลนักเรียนอยู่แล้ว ซึ่งกำชับว่าเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของโรงเรียนที่จะดูแลเฝ้าระวังนักเรียนทุกอิริยาบถเมื่อเด็กยังอยู่ในโรงเรียน
ทั้งนี้ ส่วนที่มีการทำกิจกรรมโครงการ “นครพนมวัยใสห่วงใยสุขภาพ” ของโรงเรียนนครพนมวิทยาคม จ.นครพนม และได้มีการเปิดเผยปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาชน โดยเฉพาะเรื่องการท้องก่อนวัยอันควรนั้น ก็ต้องยอมรับเมื่อทำโครงการลักษณะนี้ขึ้นคงจะปกปิดข้อมูลไม่ได้ และเมื่อพบปัญหาก็จะต้องได้รีบหาทางแก้ไขอย่างถูกต้อง ซึ่งการพยายามแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่วิธีการนำเสนอข้อมูลใดก็จะต้องดูว่าอะไรเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการใดๆ ที่ได้เข้ามามีส่วนเพื่อดูแลคุณภาพชีวิต ร่างกาย จิตใจ และความประพฤติ ของคนในสังคมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะมิติด้านการศึกษาตนก็ถือว่าเป็นโครงการที่ดี แต่ขณะเดียวกันครูจะต้องดูแลนักเรียนให้อยู่ในสายตาตลอดเวลาในขณะที่ยังอยู่ในโรงเรียนด้วย และต้องทำให้เกิดเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติงานของครูอย่างจริงจังด้วย เพราะในโรงเรียนบางแห่งจะมีมุมอับลับตาคน เมื่อเลิกเรียนแล้วโรงเรียนจะต้องกำหนดแนวปฏิบัติให้เด็กลงมาอยู่ในพื้นที่ควบคุมดูแลของครูอย่างเคร่งครัด
“สำหรับการเรียนการสอนเรื่องเพศศึกษาในโรงเรียนนั้น ผมอยากให้เริ่มให้ความรู้ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา แต่จะต้องอาศัยวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญเน้นการให้ความรู้ด้านวิชาการ เพราะเรื่องนี้เหมือนดาบสองคมระหว่างการให้ความรู้และการชี้นำให้เกิดความอยากลอง ดังนั้นจึงต้องป้องกันไม่ให้เด็กให้อยากรู้อยากลองด้วย โดยครูแลผู้บริหารจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้กับนักเรียนด้วย จากนี้ไปจะไม่ใช่ครูเพียงคนเดียวที่เรียนรู้ด้านศีลธรรมแต่เป็นหน้าที่ของครูทุกคน และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นครูทุกคนจะต้องร่วมรับผิดชอบ”นายชินภัทร กล่าว
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีครูโรงเรียนนครพนมวิทยาคม เปิดเผยปัญหาสังคมหลังพบเด็กหญิงวัยเพียง 10 ขวบตั้งครรภ์และคลอดลูกก่อนวัยอันควร รวมถึงกรณีเด็กใช้ห้องพักเรียนในการแอบมีเพศสัมพันธ์ ว่า เรื่องนี้จะต้องเน้นระบบการดูแลนักเรียนให้มีความเข้มข้น เพราะจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ที่มีนักเรียนผู้ชายเล่นกันจนนำไปสู่การทำร้ายร่างกายและเสียชีวิต ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนยังมีช่องว่างเรื่องระบบดูแลนักเรียนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กในระดับประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษา หากโรงเรียน หรือครูปล่อยให้ไปทำกิจกรรมกันเองโดยที่ไม่อยู่ในสายตาก็อาจจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ได้ เพราะฉะนั้น ระบบการดูแลนักเรียนจะเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ได้มีแนวปฏิบัติเรื่องระบบการดูแลนักเรียนอยู่แล้ว ซึ่งกำชับว่าเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของโรงเรียนที่จะดูแลเฝ้าระวังนักเรียนทุกอิริยาบถเมื่อเด็กยังอยู่ในโรงเรียน
ทั้งนี้ ส่วนที่มีการทำกิจกรรมโครงการ “นครพนมวัยใสห่วงใยสุขภาพ” ของโรงเรียนนครพนมวิทยาคม จ.นครพนม และได้มีการเปิดเผยปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาชน โดยเฉพาะเรื่องการท้องก่อนวัยอันควรนั้น ก็ต้องยอมรับเมื่อทำโครงการลักษณะนี้ขึ้นคงจะปกปิดข้อมูลไม่ได้ และเมื่อพบปัญหาก็จะต้องได้รีบหาทางแก้ไขอย่างถูกต้อง ซึ่งการพยายามแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่วิธีการนำเสนอข้อมูลใดก็จะต้องดูว่าอะไรเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการใดๆ ที่ได้เข้ามามีส่วนเพื่อดูแลคุณภาพชีวิต ร่างกาย จิตใจ และความประพฤติ ของคนในสังคมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะมิติด้านการศึกษาตนก็ถือว่าเป็นโครงการที่ดี แต่ขณะเดียวกันครูจะต้องดูแลนักเรียนให้อยู่ในสายตาตลอดเวลาในขณะที่ยังอยู่ในโรงเรียนด้วย และต้องทำให้เกิดเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติงานของครูอย่างจริงจังด้วย เพราะในโรงเรียนบางแห่งจะมีมุมอับลับตาคน เมื่อเลิกเรียนแล้วโรงเรียนจะต้องกำหนดแนวปฏิบัติให้เด็กลงมาอยู่ในพื้นที่ควบคุมดูแลของครูอย่างเคร่งครัด
“สำหรับการเรียนการสอนเรื่องเพศศึกษาในโรงเรียนนั้น ผมอยากให้เริ่มให้ความรู้ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา แต่จะต้องอาศัยวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญเน้นการให้ความรู้ด้านวิชาการ เพราะเรื่องนี้เหมือนดาบสองคมระหว่างการให้ความรู้และการชี้นำให้เกิดความอยากลอง ดังนั้นจึงต้องป้องกันไม่ให้เด็กให้อยากรู้อยากลองด้วย โดยครูแลผู้บริหารจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้กับนักเรียนด้วย จากนี้ไปจะไม่ใช่ครูเพียงคนเดียวที่เรียนรู้ด้านศีลธรรมแต่เป็นหน้าที่ของครูทุกคน และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นครูทุกคนจะต้องร่วมรับผิดชอบ”นายชินภัทร กล่าว