กรมอนามัยหนุนศูนย์เด็กเล็กใช้ส้วมสำหรับเด็ก บอกเหมาะกับสรีระ ป้องกันเด็กลื่นหล่น เผยศูนย์เด็กเล็กทุกแห่งสอนเด็กใช้ส้วมและล้างมือ เชื่อสร้างพฤติกรรมการใช้ส้วมถูกสุขลักษณะไปยันโต
นพ.พิษณุ แสนประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันศูนย์เด็กเล็กเด็กก่อนวัยเรียนทั่วประเทศ มีอยู่ประมาณ 17,000-18,000 แห่ง โดยกรมอนามัยเข้าไปพัฒนาให้ได้มาตรฐานตามหลักวิชาการแล้วประมาณ 80% โดยจะดูในทุกด้านทั้งเรื่องสถานที่ ความปลอดภัย สุขอนามัย เพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาอย่างสมวัย ส่วนหนึ่งที่พบว่ายังถูกละเลยคือเรื่องการเลือกใช้สุขภัณฑ์สำหรับเด็ก ซึ่งตามมาตรฐานควรจะเป็นสุขภัณฑ์ขนาดเล็กที่เหมาะกับสรีระเด็ก ทำให้เด็กนั่งได้พอดีลดอันตรายจากการลื่นหล่น หรือหากใช้แบบนั่งยองมีฝาครอบก็ไม่มั่นคงและเป็นอันตรายจากการลื่นล้มได้เช่นกัน และยังทำให้เด็กไม่ยอมเข้าห้องน้ำด้วย
นพ.พิษณุ กล่าวอีกว่า การสร้างสุขลักษณะในการใช้ห้องน้ำตั้งแต่วัยเด็ก เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนพฤติกรรมทำให้มีสุขลักษณะในการใช้ส้วมอย่างถูกต้องไปตลอด โดยเด็กในศูนย์เด็กเล็กจะได้รับการสอนทั้งวิธีใช้ส้วมอย่างถูกวิธี และการล้างมือ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยป้องกันโรคติดต่อได้จำนวนมาก ซึ่งการเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นจำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก นอกจากนี้ ยังพบว่าการที่ส้วมไม่ถูกลักษณะ เช่น สกปรก ใช้ไม่สะดวก มืด ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กไม่อยากเข้าส้วมและทำให้เกิดการกลั้นไม่ยอมขับถ่ายตามปกติ
นพ.พิษณุ แสนประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันศูนย์เด็กเล็กเด็กก่อนวัยเรียนทั่วประเทศ มีอยู่ประมาณ 17,000-18,000 แห่ง โดยกรมอนามัยเข้าไปพัฒนาให้ได้มาตรฐานตามหลักวิชาการแล้วประมาณ 80% โดยจะดูในทุกด้านทั้งเรื่องสถานที่ ความปลอดภัย สุขอนามัย เพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาอย่างสมวัย ส่วนหนึ่งที่พบว่ายังถูกละเลยคือเรื่องการเลือกใช้สุขภัณฑ์สำหรับเด็ก ซึ่งตามมาตรฐานควรจะเป็นสุขภัณฑ์ขนาดเล็กที่เหมาะกับสรีระเด็ก ทำให้เด็กนั่งได้พอดีลดอันตรายจากการลื่นหล่น หรือหากใช้แบบนั่งยองมีฝาครอบก็ไม่มั่นคงและเป็นอันตรายจากการลื่นล้มได้เช่นกัน และยังทำให้เด็กไม่ยอมเข้าห้องน้ำด้วย
นพ.พิษณุ กล่าวอีกว่า การสร้างสุขลักษณะในการใช้ห้องน้ำตั้งแต่วัยเด็ก เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนพฤติกรรมทำให้มีสุขลักษณะในการใช้ส้วมอย่างถูกต้องไปตลอด โดยเด็กในศูนย์เด็กเล็กจะได้รับการสอนทั้งวิธีใช้ส้วมอย่างถูกวิธี และการล้างมือ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยป้องกันโรคติดต่อได้จำนวนมาก ซึ่งการเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นจำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก นอกจากนี้ ยังพบว่าการที่ส้วมไม่ถูกลักษณะ เช่น สกปรก ใช้ไม่สะดวก มืด ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กไม่อยากเข้าส้วมและทำให้เกิดการกลั้นไม่ยอมขับถ่ายตามปกติ