กลุ่มคนรักหลักประกันมอบดอกไม้ให้กำลังใจ “หมอวิทิต” หลังถูกปลดเก้าอี้ ผอ.อภ.เจ้าตัวบอกขอบคุณที่ให้กำลังใจ ยันไม่เสียใจที่เลือกเดินตามอุดมการณ์ เพราะคนมีอำนาจอยู่ไม่นานก็ไป แขวะเจ็บพวกอยุติธรรมเหมือนเชื้อโรค ต้องอยู่ให้ได้แบบมีภูมิต้านทาน ลั่นจะยังทำงานเพื่อสุขภาพ ปชช.
วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ชมรมคนรักหลักประกันสุขภาพกว่า 50 คน ได้มารวมตัวกันให้กำลังใจ นพ.วิทิต อรรถเวชกุล อดีต ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปลด นพ.วิทิต ออกจากตำแหน่ง ตามมติคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กรณีปัญหายาพาราเซตามอลปนเปื้อน และการก่อสร้างโรงงานวัคซีนล่าช้า ทั้งนี้ นพ.วิทิต ได้เดินทางมาร่วมพูดคุยกับชมรมฯ ซึ่งได้มอบดอกไม้และร้องเพลงกำลังใจให้ โดย นพ.วิทิต ก็ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจ และร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ทำให้ทุกคนที่เข้าร่วมให้กำลังใจน้ำตาไหลด้วยความเศร้า
นพ.วิทิต กล่าวว่า ตนเดินตามเส้นทางของวิชาชีพแพทย์มาตลอด 30 ปีที่เข้ารับราชการ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เสียใจ และเสียดายโอกาส เพราะเชื่อว่าทุกอย่างมีจุดจบ ไม่ว่าสัญญาจ้างหรืออายุขัย ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ และอยากบอกว่าที่เดินทางมาถึงวันนี้ชีวิตคุ้มค่าแล้ว ส่วนพวกมาร พวกอยุติธรรม ก็เหมือนเชื้อโรค ที่ต้องอยู่กับเชื้อโรคให้ได้โดยมีภูมิต้านทาน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนที่ซ้ำซาก ซึ่งเกิดขึ้นในกระทรวง และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมด เชื่อว่าทุกคนเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นมาพอสมควร จึงไม่อยากให้เสียใจ และถือเป็นบทเรียน ส่วนคนที่ใช้อำนาจอยู่บนความอยุติธรรม ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ในที่สุดก็จะเห็นว่าไม่ยั่งยืน ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนหากทำเช่นนั้นก็ไม่ยั่งยืน คนที่เกิดเพื่อล่า ก็ต้องล่าต่อไป ส่วนคนที่เป็นเหยื่อก็ต้องเป็นเหยื่อ
“เคยมีคนถามผมว่า ระหว่างตามใจผู้มีอำนาจกับมีอุดมการณ์แต่ไร้เสถียรภาพจะเลือกอะไร ผมตอบแบบไม่ต้องลังเลคือ มีอุดมการณ์ เพราะคนที่มีอำนาจอยู่ไม่นานก็ไป เราต้องยึดสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีคนบอกว่าผมแพ้ แต่ผมคิดว่าเกมนี้ยังไม่จบ ถ้าดินไม่กลบหน้าก็ถือว่าไม่รู้แพ้ รู้ชนะ กรรมที่ใครก่อก็จะได้เช่นนั้น ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่โทษใคร แต่ขอโทษตัวเองที่ทำดีไม่พอ ต่อจากนี้ก็คงยังเดินเส้นทางของตัวเอง และเป้าหมายคือทำงานเพื่อสุขภาพของประชาชน และหวังว่าจะได้กลับมาทำงานเพื่ออุดมการณ์เดียวกันอีกครั้ง” นพ.วิทิต กล่าว
นพ.วิทิต กล่าวอีกว่า สำหรับงบ 75 ล้านบาทในการทำกิจกรรมภาพลักษณ์ตามระเบียบ อภ.ที่จะให้กับสถานพยาบาลที่ชำระเงินภายใน 60 วันจะได้รับเงินเพื่อทำโครงการพัฒนาต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าฝ่ายการเมืองใช้อำนาจให้ สปสช.โอนให้แก่กระทรวงสาธารณสุขนั้น ตนได้ปรึกษาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยังไม่มีลายลักษณ์อักษรกลับมา แต่ได้รับคำแนะนำเพียงว่า ในทางปฏิบัติการโอนเงินเป็นสิ่งที่ทำได้ในทางแพ่ง แต่ในด้านความรับผิดรับชอบของส่วนราชการถือว่าไม่เหมาะสม โดยเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงแนวทางที่ให้คำปรึกษา แต่วันรุ่งขึ้นตนโดนปลดออกจากตำแหน่งก่อน ซึ่งจะส่งต่อไปยังรักษาการ ผอ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชุมนุมวันที่ 6 มิ.ย.นี้ ซึ่งมีข่าวว่า นพ.ไพโรจน์ นิงสานนท์ จะเดินทางเข้าร่วมด้วยนั้น นพ.ไพโรจน์ ไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมได้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จาก สปสช.เขตต่างๆ จะเข้ามาร่วมการชุมนุมด้วย
วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ชมรมคนรักหลักประกันสุขภาพกว่า 50 คน ได้มารวมตัวกันให้กำลังใจ นพ.วิทิต อรรถเวชกุล อดีต ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปลด นพ.วิทิต ออกจากตำแหน่ง ตามมติคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กรณีปัญหายาพาราเซตามอลปนเปื้อน และการก่อสร้างโรงงานวัคซีนล่าช้า ทั้งนี้ นพ.วิทิต ได้เดินทางมาร่วมพูดคุยกับชมรมฯ ซึ่งได้มอบดอกไม้และร้องเพลงกำลังใจให้ โดย นพ.วิทิต ก็ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจ และร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ทำให้ทุกคนที่เข้าร่วมให้กำลังใจน้ำตาไหลด้วยความเศร้า
นพ.วิทิต กล่าวว่า ตนเดินตามเส้นทางของวิชาชีพแพทย์มาตลอด 30 ปีที่เข้ารับราชการ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เสียใจ และเสียดายโอกาส เพราะเชื่อว่าทุกอย่างมีจุดจบ ไม่ว่าสัญญาจ้างหรืออายุขัย ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ และอยากบอกว่าที่เดินทางมาถึงวันนี้ชีวิตคุ้มค่าแล้ว ส่วนพวกมาร พวกอยุติธรรม ก็เหมือนเชื้อโรค ที่ต้องอยู่กับเชื้อโรคให้ได้โดยมีภูมิต้านทาน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนที่ซ้ำซาก ซึ่งเกิดขึ้นในกระทรวง และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมด เชื่อว่าทุกคนเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นมาพอสมควร จึงไม่อยากให้เสียใจ และถือเป็นบทเรียน ส่วนคนที่ใช้อำนาจอยู่บนความอยุติธรรม ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ในที่สุดก็จะเห็นว่าไม่ยั่งยืน ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนหากทำเช่นนั้นก็ไม่ยั่งยืน คนที่เกิดเพื่อล่า ก็ต้องล่าต่อไป ส่วนคนที่เป็นเหยื่อก็ต้องเป็นเหยื่อ
“เคยมีคนถามผมว่า ระหว่างตามใจผู้มีอำนาจกับมีอุดมการณ์แต่ไร้เสถียรภาพจะเลือกอะไร ผมตอบแบบไม่ต้องลังเลคือ มีอุดมการณ์ เพราะคนที่มีอำนาจอยู่ไม่นานก็ไป เราต้องยึดสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีคนบอกว่าผมแพ้ แต่ผมคิดว่าเกมนี้ยังไม่จบ ถ้าดินไม่กลบหน้าก็ถือว่าไม่รู้แพ้ รู้ชนะ กรรมที่ใครก่อก็จะได้เช่นนั้น ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่โทษใคร แต่ขอโทษตัวเองที่ทำดีไม่พอ ต่อจากนี้ก็คงยังเดินเส้นทางของตัวเอง และเป้าหมายคือทำงานเพื่อสุขภาพของประชาชน และหวังว่าจะได้กลับมาทำงานเพื่ออุดมการณ์เดียวกันอีกครั้ง” นพ.วิทิต กล่าว
นพ.วิทิต กล่าวอีกว่า สำหรับงบ 75 ล้านบาทในการทำกิจกรรมภาพลักษณ์ตามระเบียบ อภ.ที่จะให้กับสถานพยาบาลที่ชำระเงินภายใน 60 วันจะได้รับเงินเพื่อทำโครงการพัฒนาต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าฝ่ายการเมืองใช้อำนาจให้ สปสช.โอนให้แก่กระทรวงสาธารณสุขนั้น ตนได้ปรึกษาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยังไม่มีลายลักษณ์อักษรกลับมา แต่ได้รับคำแนะนำเพียงว่า ในทางปฏิบัติการโอนเงินเป็นสิ่งที่ทำได้ในทางแพ่ง แต่ในด้านความรับผิดรับชอบของส่วนราชการถือว่าไม่เหมาะสม โดยเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงแนวทางที่ให้คำปรึกษา แต่วันรุ่งขึ้นตนโดนปลดออกจากตำแหน่งก่อน ซึ่งจะส่งต่อไปยังรักษาการ ผอ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชุมนุมวันที่ 6 มิ.ย.นี้ ซึ่งมีข่าวว่า นพ.ไพโรจน์ นิงสานนท์ จะเดินทางเข้าร่วมด้วยนั้น นพ.ไพโรจน์ ไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมได้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จาก สปสช.เขตต่างๆ จะเข้ามาร่วมการชุมนุมด้วย