ครม.ไฟเขียว ตั้ง “ฟารุค-มุข-อรุณ-วุฒิวัย” นั่งเก้าอี้ผู้ทรงคุณวุฒิบอร์ดฮัจญ์แทนชุดเดิมที่หมดวาระ 27 มีนาที่ผ่านมา
วันนี้ (30 เม.ย.) นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายฟารุค วงษ์บริสุทธิ์, นายมุข สุไลมาน, นายอรุณ บุญชม และ นายวุฒิวัย หวังบู่ ตามที่ วธ.เสนอ เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมได้พ้นตำแหน่งตามวาระ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะดำรงในตำแหน่งคราวละ 2 ปี โดยทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ในการให้ความรู้ ความคิดเห็น และ ที่ปรึกษาพร้อมทั้งลงมติเกี่ยวกับการดำเนินกิจการฮัจญ์ ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์ทุกครั้ง
พร้อมกันนี้ ตนได้ร่วมประชุมหารือกับสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมิชิแกน เกี่ยวกับการโครงการพุทธศึกษา ในมหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้มีการขอความร่วมมือให้ วธ.ช่วยเสนอแนะเกี่ยวกับกับการจัดทำการเรียนการสอนหลักสูตร พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ ของมหาวิทยาลัย ในเบื้องต้น ตนมีความเห็นว่า เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้คำสอนทางพระพุทธศาสนาได้เผยแพร่ และเห็นด้วยในหลักการของโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติของประเทศไทยได้เผยแพร่ออกไปให้ชาวต่างชาติ อย่างสหรัฐอเมริกาได้เรียนรู้ เข้าถึง และเข้าใจ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เกี่ยวกับการจัดทำหลักสูตร รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และข้อจำกัดของการดำเนินการ เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
วันนี้ (30 เม.ย.) นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายฟารุค วงษ์บริสุทธิ์, นายมุข สุไลมาน, นายอรุณ บุญชม และ นายวุฒิวัย หวังบู่ ตามที่ วธ.เสนอ เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมได้พ้นตำแหน่งตามวาระ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะดำรงในตำแหน่งคราวละ 2 ปี โดยทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ในการให้ความรู้ ความคิดเห็น และ ที่ปรึกษาพร้อมทั้งลงมติเกี่ยวกับการดำเนินกิจการฮัจญ์ ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์ทุกครั้ง
พร้อมกันนี้ ตนได้ร่วมประชุมหารือกับสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมิชิแกน เกี่ยวกับการโครงการพุทธศึกษา ในมหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้มีการขอความร่วมมือให้ วธ.ช่วยเสนอแนะเกี่ยวกับกับการจัดทำการเรียนการสอนหลักสูตร พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ ของมหาวิทยาลัย ในเบื้องต้น ตนมีความเห็นว่า เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้คำสอนทางพระพุทธศาสนาได้เผยแพร่ และเห็นด้วยในหลักการของโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติของประเทศไทยได้เผยแพร่ออกไปให้ชาวต่างชาติ อย่างสหรัฐอเมริกาได้เรียนรู้ เข้าถึง และเข้าใจ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เกี่ยวกับการจัดทำหลักสูตร รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และข้อจำกัดของการดำเนินการ เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
