ศวส.คาดสงกรานต์นี้เจ็บตายเพิ่มขึ้นแน่ ด้านเครือข่ายองค์กรงดเหล้าผิดหวัง เสนอร่างประกาศห้ามขายน้ำเมาทุกเทศกาลหยุดยาว เจอ “หมอประดิษฐ” เบรก
นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวในแต่ละปีจะมีการเดินทางจำนวนเพิ่มมากกว่าปกติหลายเท่า ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งช่วงเทศกาลที่ผ่านมา มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นและรุนแรงขึ้น โดยพบว่า ร้อยละ 60 ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล 2 ใน 3 มีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดในปริมาณเกินกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และ 1 ใน 3 มีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดในปริมาณเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และพบว่าแนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุเริ่มเพิ่มขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากการที่ภาครัฐไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ เพิ่มเติม ทำให้ยังเกิดการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งคาดว่าในปีนี้ปริมาณการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนเพราะไม่มีมาตรการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเพิ่มเติม
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า มาตรการป้องกันผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์ ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่ง โดยพบว่าจุดเริ่มต้นการกระทำผิดมักเกิดที่ถนนสายรองและเข้าไปเกิดอุบัติเหตุที่ถนนสายหลัก ซึ่งจำเป็นต้องมีเครื่องมือเพื่อป้องกันอุบัติเหตุมากกว่าเดิมให้สอดคล้องกับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบันใช้มาระยะเวลาหนึ่งแล้วก็จะลดประสิทธิภาพลง เช่น ญี่ปุ่นมีการเพิ่มโทษให้รุนแรงโดยเฉพาะเรื่องเมาแล้วขับ จะถูกจัดให้เป็นการกระทำผิดเทียบเท่าการกระทำอาชญากรรม ทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุลดลงร้อยละ 80 ในช่วง 10 ปี เป็นต้น ซึ่งประเทศไทยก็ต้องมีการเพิ่มโทษให้รุนแรงเช่นกัน
“ที่ผ่านมามีการนำเสนอร่างประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลหยุดยาว โดยจะอ้างอิงจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อห้ามขายในวันที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเจ็บตายสูง แต่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังไม่อนุมัติวันประชุมทำให้กฎหมายดังกล่าวจะไม่สามารถบังคับใช้ได้ทันเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางสาธารณะ ที่ยังติดอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมฯด้วย ซึ่งหากไม่มีมาตรการใหม่เชื่อว่าอุบัติเหตุจะเพิ่มแน่นอน” นายสงกรานต์ กล่าว
นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวในแต่ละปีจะมีการเดินทางจำนวนเพิ่มมากกว่าปกติหลายเท่า ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งช่วงเทศกาลที่ผ่านมา มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นและรุนแรงขึ้น โดยพบว่า ร้อยละ 60 ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล 2 ใน 3 มีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดในปริมาณเกินกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และ 1 ใน 3 มีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดในปริมาณเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และพบว่าแนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุเริ่มเพิ่มขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากการที่ภาครัฐไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ เพิ่มเติม ทำให้ยังเกิดการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งคาดว่าในปีนี้ปริมาณการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนเพราะไม่มีมาตรการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเพิ่มเติม
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า มาตรการป้องกันผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์ ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่ง โดยพบว่าจุดเริ่มต้นการกระทำผิดมักเกิดที่ถนนสายรองและเข้าไปเกิดอุบัติเหตุที่ถนนสายหลัก ซึ่งจำเป็นต้องมีเครื่องมือเพื่อป้องกันอุบัติเหตุมากกว่าเดิมให้สอดคล้องกับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบันใช้มาระยะเวลาหนึ่งแล้วก็จะลดประสิทธิภาพลง เช่น ญี่ปุ่นมีการเพิ่มโทษให้รุนแรงโดยเฉพาะเรื่องเมาแล้วขับ จะถูกจัดให้เป็นการกระทำผิดเทียบเท่าการกระทำอาชญากรรม ทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุลดลงร้อยละ 80 ในช่วง 10 ปี เป็นต้น ซึ่งประเทศไทยก็ต้องมีการเพิ่มโทษให้รุนแรงเช่นกัน
“ที่ผ่านมามีการนำเสนอร่างประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลหยุดยาว โดยจะอ้างอิงจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อห้ามขายในวันที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเจ็บตายสูง แต่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังไม่อนุมัติวันประชุมทำให้กฎหมายดังกล่าวจะไม่สามารถบังคับใช้ได้ทันเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางสาธารณะ ที่ยังติดอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมฯด้วย ซึ่งหากไม่มีมาตรการใหม่เชื่อว่าอุบัติเหตุจะเพิ่มแน่นอน” นายสงกรานต์ กล่าว