คืบหน้าอาการ “น้องเอย” หลังติดในรถโรงเรียนนานกว่า 7 ชั่วโมง ขณะนี้ยังวิกฤต ต้องใช้ยากระตุ้นหัวใจ ม่านตาโต เอนไซม์ในตับยังทำงานแย่จากการขาดออกซิเจน ส่วนภาวะสมองบวมยังทรงตัว แพทย์ติดเครื่อง EEG ติดตามคลื่นสมอง
วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลกรุงเทพได้ออกแถลงข่าวถึงอาการของ ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ หรือน้องเอย นักเรียนอนุบาลวัย 3 ขวบ ที่กำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU 4 รพ.กรุงเทพ เนื่องจากขาดอากาศหายใจจากการติดอยู่ในรถโรงเรียนนานกว่า 7 ชั่วโมง ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยอัตราการเต้นของหัวใจ และสัญญาณชีพอยู่ในอัตราปกติ ยังมียากระตุ้นหัวใจ หายใจได้ตามเครื่องช่วยหายใจ ม่านตาโต การทำงานของเอนไซม์ในตับแย่ลงจากการขาดออกซิเจน ภาวะเลือดเป็นกรดดีขึ้น โดยแพทย์ได้พาคนไข้ไปเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ในส่วนสมอง (CT brain) พบว่าภาวะสมองบวมยังทรงตัว มีภาวะการทำงานของก้านสมองลดลง โดยทีมแพทย์ได้ติดเครื่อง EEG เพื่อติดตามคลื่นสมอง ดูการทำงานของเซลล์สมองเป็นระยะ ในส่วนของการผ่าตัดสมองขึ้นอยู่กับอาการโดยรวมและค่าการแข็งตัวของเลือดของคนไข้ ซึ่งแพทย์ได้ติดตามอาการทางสมองอย่างใกล้ชิด อยู่ที่หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤต (ICU)
วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลกรุงเทพได้ออกแถลงข่าวถึงอาการของ ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ หรือน้องเอย นักเรียนอนุบาลวัย 3 ขวบ ที่กำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU 4 รพ.กรุงเทพ เนื่องจากขาดอากาศหายใจจากการติดอยู่ในรถโรงเรียนนานกว่า 7 ชั่วโมง ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยอัตราการเต้นของหัวใจ และสัญญาณชีพอยู่ในอัตราปกติ ยังมียากระตุ้นหัวใจ หายใจได้ตามเครื่องช่วยหายใจ ม่านตาโต การทำงานของเอนไซม์ในตับแย่ลงจากการขาดออกซิเจน ภาวะเลือดเป็นกรดดีขึ้น โดยแพทย์ได้พาคนไข้ไปเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ในส่วนสมอง (CT brain) พบว่าภาวะสมองบวมยังทรงตัว มีภาวะการทำงานของก้านสมองลดลง โดยทีมแพทย์ได้ติดเครื่อง EEG เพื่อติดตามคลื่นสมอง ดูการทำงานของเซลล์สมองเป็นระยะ ในส่วนของการผ่าตัดสมองขึ้นอยู่กับอาการโดยรวมและค่าการแข็งตัวของเลือดของคนไข้ ซึ่งแพทย์ได้ติดตามอาการทางสมองอย่างใกล้ชิด อยู่ที่หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤต (ICU)