ชาวศรีสะเกษร้อง รพ.เอกชนเรียกเก็บเงินค่ารักษาลูกสาว 1.3 หมื่นบาท แม้จะเป็นเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินใกล้ที่ไหนไปที่นั่น รักษาฟรีไม่ถามสิทธิ์ แต่โรงพยาบาลก็ไม่ยอมรักษาถ้าไม่จ่าย จนต้องไปกู้เงินนอกระบบมาจ่าย เผยดูแลไม่ถึงสี่ชั่วโมงแล้วส่งต่อไป รพ.เด็ก ชี้ผ่านไปกว่าปียังไม่ได้รับเงินคืน จนเป็นหนี้นอกระบบ
นายสงคราม ไชยสัตย์ ชาวศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากโรงพยาบาลเอกชน โดยเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2555 ลูกสาวของตนที่มีอายุเพียง 1 ขวบ มีอาการชัก ซึ่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ รพ.เซ็นทรัลเยเนอรัล ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเหตุฉุกเฉิน ก่อนจะทำการรักษา พยาบาลถามว่าใช้สิทธิ์อะไรและบอกว่าแม้จะเป็นเหตุฉุกเฉินก็ต้องจ่ายเงินค่ารักษาก่อน หลังจากนั้นเมื่อเบิกเงินคืนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้ ก็จะนำมาคืนให้ ตอนนั้นก็ต้องยอมเพราะเป็นความเป็นความตาย หาเงินมาจ่ายค่ารักษากว่า 13,000 บาท หลังจากรักษาอาการเบื้องต้นที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นก็ส่งต่อไปที่โรงพยาบาลเด็กทันที เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเด็กลูกสาวตนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่า 20 วัน
“รัฐบาลมีนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียว บอกไม่ต้องสำรองจ่าย แต่เหตุที่เกิดกับลูกสาวเป็นเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลก็ยังมาเรียกค่ารักษา คนไม่มีทางเลือก ความตายอยู่ตรงหน้าเราก็ต้องหามาจ่ายให้ได้ รักษา 3-4 ชั่วโมง เรียกเก็บเงินตั้ง 13,000 บาท ซึ่งผมคิดว่าเกินกว่าเหตุ ขูดรีดประชาชนมากเกินไป ก็ต้องสำรองจ่ายไปก่อน จนต้องกู้เงินนอกระบบมาจ่าย ทุกวันนี้ยังเป็นหนี้อยู่ พยายามติดตามทวงถามร้องเรียนไปที่ รมว.สธ. ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินคืน ผมควรจะได้เงินคืนตามสิทธิ สำหรับคนอื่นเงินอาจไม่เยอะ แต่สำหรับพวกเรามันเป็นเงินก้อนใหญ่มาก ทุกวันนี้ลูกสาวผมก็เสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรมคืนมา” นายสงครามกล่าว
นายสงคราม ไชยสัตย์ ชาวศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากโรงพยาบาลเอกชน โดยเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2555 ลูกสาวของตนที่มีอายุเพียง 1 ขวบ มีอาการชัก ซึ่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ รพ.เซ็นทรัลเยเนอรัล ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเหตุฉุกเฉิน ก่อนจะทำการรักษา พยาบาลถามว่าใช้สิทธิ์อะไรและบอกว่าแม้จะเป็นเหตุฉุกเฉินก็ต้องจ่ายเงินค่ารักษาก่อน หลังจากนั้นเมื่อเบิกเงินคืนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้ ก็จะนำมาคืนให้ ตอนนั้นก็ต้องยอมเพราะเป็นความเป็นความตาย หาเงินมาจ่ายค่ารักษากว่า 13,000 บาท หลังจากรักษาอาการเบื้องต้นที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นก็ส่งต่อไปที่โรงพยาบาลเด็กทันที เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเด็กลูกสาวตนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่า 20 วัน
“รัฐบาลมีนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินมาตรฐานเดียว บอกไม่ต้องสำรองจ่าย แต่เหตุที่เกิดกับลูกสาวเป็นเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลก็ยังมาเรียกค่ารักษา คนไม่มีทางเลือก ความตายอยู่ตรงหน้าเราก็ต้องหามาจ่ายให้ได้ รักษา 3-4 ชั่วโมง เรียกเก็บเงินตั้ง 13,000 บาท ซึ่งผมคิดว่าเกินกว่าเหตุ ขูดรีดประชาชนมากเกินไป ก็ต้องสำรองจ่ายไปก่อน จนต้องกู้เงินนอกระบบมาจ่าย ทุกวันนี้ยังเป็นหนี้อยู่ พยายามติดตามทวงถามร้องเรียนไปที่ รมว.สธ. ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินคืน ผมควรจะได้เงินคืนตามสิทธิ สำหรับคนอื่นเงินอาจไม่เยอะ แต่สำหรับพวกเรามันเป็นเงินก้อนใหญ่มาก ทุกวันนี้ลูกสาวผมก็เสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรมคืนมา” นายสงครามกล่าว