“วัยทอง” เอ่ยชื่อขึ้นมา ไม่ว่าหญิงหรือชาย ล้วนแล้วต้องพบเจอเหมือนกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในผู้ชาย วัยทอง อาจหมายถึงความสุขหลายอย่างที่หายไปจากชีวิต แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป เพราะวัยทองป้องกันและรักษาได้ ไม่ยาก
พล.ต.รศ.นพ.บุญเติม แสงดิษฐ แพทย์ประจำคลินิกชายวัยทอง รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า โดยส่วนมากอาการวัยทองของผู้ชาย มักจะเดินทางมาถึงตอนอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป แตกต่างจากผู้หญิงที่มักจะมาในช่วง 50 ปี
“การที่ผู้หญิงเข้าสู่วัยทอง คือการที่ผู้หญิงหมดประจำเดือน คือรังไข่ไม่ทำงานแล้ว ก็ประมาณ 50 ปี บวกลบนิดหน่อย แต่ผู้ชาย พออายุ 40 ปี ฮอร์โมนของเพศชายจะค่อยๆ ลดลง จริงๆ แล้ว ฮอร์โมนของผู้ชาย จะถึงจุดสูงสุดก็ประมาณอายุ 30 ปี พออายุ 35-40 จะเริ่มลดลง แล้วพอ 40 ก็จะลดลงชัดเจน และมีอาการ แต่ถ้าดูแลสุขภาพดี ก็อาจจะยังไม่มีอาการก็ได้”
แพทย์ประจำคลินิกชายวัยทอง รพ.พระมงกุฎเกล้า ให้ข้อมูลว่าอาการวัยทอง เกิดจากการที่ฮอร์โมนของร่างกายลดลงหรือหมดไป ในเพศหญิง วัยทองมักจะมาพร้อมกับการหมดประจำเดือน ส่งผลให้ฮอร์โมนหมดไป ส่วนในผู้ชาย ฮอร์โมนจะไม่หมดไปในทันที แต่จะค่อยๆ ลดลง และพอ 40 ปีขึ้นไป จะลดลงปีละประมาณ 1-2 เปอร์เซ็นต์ แล้วแต่บุคคล
“อาการโดยส่วนใหญ่ในการสังเกตว่าผู้ชายคนไหนเข้าสู่วัยทองแล้วหรือยัง ให้ดู 3 อย่างหลักๆ คือ 1.ด้านร่างกาย จะรู้สึกร้อนวูบวาบ นอนไม่ค่อยหลับ หลับยาก ไม่ค่อยมีแรง สมาธิลดลง ความจำไม่ค่อยดี 2.ด้านจิตใจ ใจสั่น หงุดหงิดง่าย บางรายอาจจะมีซึมเศร้า ตื่นตกใจง่าย 3.ด้านกล้ามเนื้อ กระดูก ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะลดลง บางรายจะมีกระดูกบางหรือพรุน หกล้มนิดหน่อยก็อาจจะทำให้กระดูกแตกหรือหักได้ และบางรายที่ถือว่าเป็นกรณีที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด ก็คือ ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ความรู้สึกทางเพศ ความต้องการทางเพศจะลดลง เช่นเดียวกับปริมาณของน้ำอสุจิก็ลดลงตามไปด้วย”
ในปัจจุบันวัยทองสามารถรักษาได้ด้วยการฉีดหรือเพิ่มฮอร์โมน อย่างไรก็ตาม ข้อพึงระวังก็คือ ก่อนจะให้ฮอร์โมน ทางแพทย์ผู้รักษาต้องเช็กก่อนว่า ผู้ชายท่านนั้นมีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมากหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก ถ้ามีก็ห้ามให้ฮอร์โมน เพราะการให้ฮฮร์โมนเข้าไป จะส่งผลให้มะเร็งต่อมลูกหมากลุกลามเร็วขึ้น
“ทีนี้ก็มีคนถามว่า ในเมื่อการให้ฮอร์โมนมันส่งผลต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก จะไปให้ทำไม เพราะมันอันตราย คือให้ฮอร์โมน ไม่ทำให้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ถ้าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากอยู่แล้ว การให้ฮอร์โมน ก็เท่ากับเป็นการเข้าไปเร่งให้มะเร็งลุกลาม”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่วัยทองจะมาเยือน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้แนะว่าสามารถป้องกันได้ก่อนตั้งแต่วันนี้ ด้วยหลักการที่เรียกว่า 3 อ.
“อ.ที่ 1 คือ อาหาร เพราะวัยทอง ระบบการเผาผลาญไขมันจะลดลง ถ้าดูแลการทานอาหารไม่ดี ทานอาหารไขมันสูง ทานแป้งน้ำตาลสูง ก็จะมีอาการได้ง่าย อ.ที่ 2 คือ ออกกำลังกาย คนที่ไม่ออกกำลังกาย โอกาสที่วัยทองจะมาถึงก็เร็วขึ้น และ อ.ที่ 3 คือ อารมณ์ ต้องดูแลอารมณ์ไม่ให้เครียดเรื้อรัง ถ้าเครียดเรื้อรัง อาการของวัยทองก็จะมาเร็ว” นพ.บุญเติม กล่าว
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo
พล.ต.รศ.นพ.บุญเติม แสงดิษฐ แพทย์ประจำคลินิกชายวัยทอง รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า โดยส่วนมากอาการวัยทองของผู้ชาย มักจะเดินทางมาถึงตอนอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป แตกต่างจากผู้หญิงที่มักจะมาในช่วง 50 ปี
“การที่ผู้หญิงเข้าสู่วัยทอง คือการที่ผู้หญิงหมดประจำเดือน คือรังไข่ไม่ทำงานแล้ว ก็ประมาณ 50 ปี บวกลบนิดหน่อย แต่ผู้ชาย พออายุ 40 ปี ฮอร์โมนของเพศชายจะค่อยๆ ลดลง จริงๆ แล้ว ฮอร์โมนของผู้ชาย จะถึงจุดสูงสุดก็ประมาณอายุ 30 ปี พออายุ 35-40 จะเริ่มลดลง แล้วพอ 40 ก็จะลดลงชัดเจน และมีอาการ แต่ถ้าดูแลสุขภาพดี ก็อาจจะยังไม่มีอาการก็ได้”
แพทย์ประจำคลินิกชายวัยทอง รพ.พระมงกุฎเกล้า ให้ข้อมูลว่าอาการวัยทอง เกิดจากการที่ฮอร์โมนของร่างกายลดลงหรือหมดไป ในเพศหญิง วัยทองมักจะมาพร้อมกับการหมดประจำเดือน ส่งผลให้ฮอร์โมนหมดไป ส่วนในผู้ชาย ฮอร์โมนจะไม่หมดไปในทันที แต่จะค่อยๆ ลดลง และพอ 40 ปีขึ้นไป จะลดลงปีละประมาณ 1-2 เปอร์เซ็นต์ แล้วแต่บุคคล
“อาการโดยส่วนใหญ่ในการสังเกตว่าผู้ชายคนไหนเข้าสู่วัยทองแล้วหรือยัง ให้ดู 3 อย่างหลักๆ คือ 1.ด้านร่างกาย จะรู้สึกร้อนวูบวาบ นอนไม่ค่อยหลับ หลับยาก ไม่ค่อยมีแรง สมาธิลดลง ความจำไม่ค่อยดี 2.ด้านจิตใจ ใจสั่น หงุดหงิดง่าย บางรายอาจจะมีซึมเศร้า ตื่นตกใจง่าย 3.ด้านกล้ามเนื้อ กระดูก ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะลดลง บางรายจะมีกระดูกบางหรือพรุน หกล้มนิดหน่อยก็อาจจะทำให้กระดูกแตกหรือหักได้ และบางรายที่ถือว่าเป็นกรณีที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด ก็คือ ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ความรู้สึกทางเพศ ความต้องการทางเพศจะลดลง เช่นเดียวกับปริมาณของน้ำอสุจิก็ลดลงตามไปด้วย”
ในปัจจุบันวัยทองสามารถรักษาได้ด้วยการฉีดหรือเพิ่มฮอร์โมน อย่างไรก็ตาม ข้อพึงระวังก็คือ ก่อนจะให้ฮอร์โมน ทางแพทย์ผู้รักษาต้องเช็กก่อนว่า ผู้ชายท่านนั้นมีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมากหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก ถ้ามีก็ห้ามให้ฮอร์โมน เพราะการให้ฮฮร์โมนเข้าไป จะส่งผลให้มะเร็งต่อมลูกหมากลุกลามเร็วขึ้น
“ทีนี้ก็มีคนถามว่า ในเมื่อการให้ฮอร์โมนมันส่งผลต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก จะไปให้ทำไม เพราะมันอันตราย คือให้ฮอร์โมน ไม่ทำให้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ถ้าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากอยู่แล้ว การให้ฮอร์โมน ก็เท่ากับเป็นการเข้าไปเร่งให้มะเร็งลุกลาม”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่วัยทองจะมาเยือน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้แนะว่าสามารถป้องกันได้ก่อนตั้งแต่วันนี้ ด้วยหลักการที่เรียกว่า 3 อ.
“อ.ที่ 1 คือ อาหาร เพราะวัยทอง ระบบการเผาผลาญไขมันจะลดลง ถ้าดูแลการทานอาหารไม่ดี ทานอาหารไขมันสูง ทานแป้งน้ำตาลสูง ก็จะมีอาการได้ง่าย อ.ที่ 2 คือ ออกกำลังกาย คนที่ไม่ออกกำลังกาย โอกาสที่วัยทองจะมาถึงก็เร็วขึ้น และ อ.ที่ 3 คือ อารมณ์ ต้องดูแลอารมณ์ไม่ให้เครียดเรื้อรัง ถ้าเครียดเรื้อรัง อาการของวัยทองก็จะมาเร็ว” นพ.บุญเติม กล่าว
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo
