เด็ก เยาวชน คนไหนต้องการใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอม แสวงหาความรู้ หาประสบการณ์นอกห้องเรียน แบบว่าในโรงเรียนไม่มีสอน ที่สำคัญผู้ปกครองไม่ต้องควักกระเป๋าแล้วล่ะก็ ลองคลิ๊กดูรายละเอียดที่ www.m-culture.go.th หรือ โทร.1765 สายด่วนวัฒนธรรม กำลังเปิดรับสมัครเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม “ค่ายเยาวชนวัฒนธรรมภาคฤดูร้อน” จัดโดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม มีกิจกรรมหลากหลายให้เยาวชนได้เลือกตามความสนใจ เช่น การทำหุ่น เทคนิคการเชิดหุ่นกระบอกไทย วาดภาพการ์ตูน การวาดลายเส้น การวาดสีน้ำกิจกรรมพฤษภาพาสุข กิจกรรมพาชมเล่าเรื่องโบราณวัตถุในโบราณสถาน รำวงมาตรฐาน จัดอบรมเยาวชนอนุรักษ์ภาพยนตร์ผ่านแอนนิเมชั่น ค่ายเยาวชนสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัย บวชอุปสมบทสามเณร บวชศีลจาริณี ฯลฯ
สนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เล่าว่า หลังกิจกรรมค่ายปิดฉากลง เราจะมีการคัดเลือกผลงานโดดเด่นของเยาวชนที่เข้าค่ายมาจัดนิทรรศการ เพื่อให้เยาวชนรู้สึกภาคภูมิใจ และจุดประกายให้เยาวชนร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบต่อไป
คราวนี้ลองมาฟังผู้ที่จะถ่ายทอดความรู้ให้เยาวชน เริ่มจาก นิเวศ แววสมณะ หรือ หนึ่ง ผู้ก่อตั้งบ้านตุ๊กกะตุ่น หุ่นกระบอกไทย เล่าว่า เยาวชนจะได้เรียนรู้ขั้นตอนการทำหุ่น พื้นฐานการเชิดหุ่น โดยจะเริ่มเรียนวันเสาร์ที่ 20 เม.ย.นี้ โดยจะเรียน 5 เสาร์ โดยวันเสาร์แรกจะสอนให้ทำหัวหุ่น แต่งหน้า ตลอดจนดีไซน์เสื้อผ้าหุ่น ติดลาย เพื่อให้เกิดความสวยสดงดงาม ส่วนวันเสาร์ถัดวิธีการเชิดหุ่นขั้นพื้นฐาน
“เมื่อจบกิจกรรมเราจะคัดเลือกผลงานเยาวชนชิ้นโดดเด่น เพื่อนำมาจัดแสดงด้วย ปีนี้จะพิเศษกว่าปีที่ผ่านมา ผลงานของเยาวชนจะไปโชว์ในประเทศอาเซียน และยุโรป” นิเวศ บอกว่า ช่วง 5-6 ปีเยาวชนที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมค่ายมักจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาพัฒนาต่อยอดการประดิษฐ์หุ่น เชิดหุ่น ขั้นสูงขึ้น
นอกจากจัดกิจกรรมค่ายแล้ว วันที่ 20 เม.ย.ถึง 31 พ.ค.ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จัดนิทรรศการเกี่ยวกับหุ่นกระบอกอาเซียน เพื่อให้เยาวชน ตลอดจนผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ด้วย โดยให้ผู้ชมสังเกตและศึกษาอย่างละเอียด จะพบว่าหุ่นกระบอกแต่ละชาติจะมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป
ด้าน โดม สุขวงศ์ ผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ เล่าว่า ปีนี้ หอภาพยนตร์ จะใช้พื้นที่ มิวเซียมสยาม จัดกิจกรรมค่าย เป็นตรีม “ประดิษฐ์ของเล่นโบราณก่อนจะมาเป็นแอนิเมชัน” โดยเยาวชนที่เข้าค่ายสามารถเรียนรู้จุดกำเนิดของแอนิเมชัน ที่พัฒนาจากภาพนิ่งมาสู่ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเด็กประดิษฐ์ เรียนรู้วิธีการทำแอนิเมชันภายใน 3 ชั่วโมง
“คิดตรีมนี้ เพราะเด็กรุ่นใหม่สนใจแอนิเมชัน โดยสังเกตได้จาก มหาวิทยาลัย หน่วยงานต่างๆ จัดโครงการให้เยาวชนส่งแอนนิเมชั่นเข้าประกวดในหัวข้อต่างๆ ดังนั้น จึงอยากให้เยาวชนรู้ที่มาของแอนนิเมชั่นในอดีต ที่นำภาพนิ่งมาเรียงต่อๆ กันแล้วหมุน สายตาเราจะเห็นภาพนั้นเคลื่อนไหวได้” โดม อธิบาย
ซึ่งกิจกรรมค่าย จัดขึ้นวันที่ 30-31 มี.ค.โดยเยาวชนจะได้เรียนทฤษฎี และลงมือประดิษฐ์ของเล่นให้เป็นแอนิเมชัน หากเยาวชนพลาดโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมค่าย สามารถเข้าชมนิทรรศการ โดยจะมีประวัติความเป็นมา วิธีการประดิษฐ์แอนิเมชันให้ศึกษา ระหว่าง 26 มี.ค.ถึง 21 เม.ย.นี้
...นี่เป็นเพียงตัวอย่างกิจกรรมค่ายวัฒนธรรม รอให้เยาวชนเข้ามาร่วมเรียนรู้ หากพลาดโอกาสจะต้องรอปีหน้า
สนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เล่าว่า หลังกิจกรรมค่ายปิดฉากลง เราจะมีการคัดเลือกผลงานโดดเด่นของเยาวชนที่เข้าค่ายมาจัดนิทรรศการ เพื่อให้เยาวชนรู้สึกภาคภูมิใจ และจุดประกายให้เยาวชนร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบต่อไป
คราวนี้ลองมาฟังผู้ที่จะถ่ายทอดความรู้ให้เยาวชน เริ่มจาก นิเวศ แววสมณะ หรือ หนึ่ง ผู้ก่อตั้งบ้านตุ๊กกะตุ่น หุ่นกระบอกไทย เล่าว่า เยาวชนจะได้เรียนรู้ขั้นตอนการทำหุ่น พื้นฐานการเชิดหุ่น โดยจะเริ่มเรียนวันเสาร์ที่ 20 เม.ย.นี้ โดยจะเรียน 5 เสาร์ โดยวันเสาร์แรกจะสอนให้ทำหัวหุ่น แต่งหน้า ตลอดจนดีไซน์เสื้อผ้าหุ่น ติดลาย เพื่อให้เกิดความสวยสดงดงาม ส่วนวันเสาร์ถัดวิธีการเชิดหุ่นขั้นพื้นฐาน
“เมื่อจบกิจกรรมเราจะคัดเลือกผลงานเยาวชนชิ้นโดดเด่น เพื่อนำมาจัดแสดงด้วย ปีนี้จะพิเศษกว่าปีที่ผ่านมา ผลงานของเยาวชนจะไปโชว์ในประเทศอาเซียน และยุโรป” นิเวศ บอกว่า ช่วง 5-6 ปีเยาวชนที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมค่ายมักจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาพัฒนาต่อยอดการประดิษฐ์หุ่น เชิดหุ่น ขั้นสูงขึ้น
นอกจากจัดกิจกรรมค่ายแล้ว วันที่ 20 เม.ย.ถึง 31 พ.ค.ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จัดนิทรรศการเกี่ยวกับหุ่นกระบอกอาเซียน เพื่อให้เยาวชน ตลอดจนผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ด้วย โดยให้ผู้ชมสังเกตและศึกษาอย่างละเอียด จะพบว่าหุ่นกระบอกแต่ละชาติจะมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป
ด้าน โดม สุขวงศ์ ผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ เล่าว่า ปีนี้ หอภาพยนตร์ จะใช้พื้นที่ มิวเซียมสยาม จัดกิจกรรมค่าย เป็นตรีม “ประดิษฐ์ของเล่นโบราณก่อนจะมาเป็นแอนิเมชัน” โดยเยาวชนที่เข้าค่ายสามารถเรียนรู้จุดกำเนิดของแอนิเมชัน ที่พัฒนาจากภาพนิ่งมาสู่ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเด็กประดิษฐ์ เรียนรู้วิธีการทำแอนิเมชันภายใน 3 ชั่วโมง
“คิดตรีมนี้ เพราะเด็กรุ่นใหม่สนใจแอนิเมชัน โดยสังเกตได้จาก มหาวิทยาลัย หน่วยงานต่างๆ จัดโครงการให้เยาวชนส่งแอนนิเมชั่นเข้าประกวดในหัวข้อต่างๆ ดังนั้น จึงอยากให้เยาวชนรู้ที่มาของแอนนิเมชั่นในอดีต ที่นำภาพนิ่งมาเรียงต่อๆ กันแล้วหมุน สายตาเราจะเห็นภาพนั้นเคลื่อนไหวได้” โดม อธิบาย
ซึ่งกิจกรรมค่าย จัดขึ้นวันที่ 30-31 มี.ค.โดยเยาวชนจะได้เรียนทฤษฎี และลงมือประดิษฐ์ของเล่นให้เป็นแอนิเมชัน หากเยาวชนพลาดโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมค่าย สามารถเข้าชมนิทรรศการ โดยจะมีประวัติความเป็นมา วิธีการประดิษฐ์แอนิเมชันให้ศึกษา ระหว่าง 26 มี.ค.ถึง 21 เม.ย.นี้
...นี่เป็นเพียงตัวอย่างกิจกรรมค่ายวัฒนธรรม รอให้เยาวชนเข้ามาร่วมเรียนรู้ หากพลาดโอกาสจะต้องรอปีหน้า
