‘กรมศิลป์’ครบ 102 ปี เปิดกรุโชว์มรดกล้ำค่าสมัย ร.5 เผยเป็นโบราณวัตถุ ตราแผ่นดินประจำรัชกาล หีบทองคำลงยา เหรียญ ซึ่งหาชมยาก อัญเชิญพระพุทธรูปคันธารราฐ พระพุทธรูปปางขอฝน วันที่ 25-27 มี.ค.นี้
นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า วันที่ 27 มีนาคม กรมศิลปากรครบรอบ 102 ปี จึงจัดงาน 102 ปีแห่งการสถาปนากรมศิลปากร เพื่อเผยแพร่ผลงานการทำนุบำรุงและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติ รวมถึงแนวทางขับเคลื่อนภารกิจของกรมศิลปากรในอนาคตให้ประชาชนได้รับทราบและเกิดความร่วมมือในการสงวนรักษามรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่และสืบทอดสู่อนุชนอย่างยั่งยืน โดยจัดแสดงนิทรรศการระหว่างวันที่ 25-27 มีนาคม เพื่อนำผลงานของหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากรมาเผยแพร่ รวมทั้งนำผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์จากทุนทางมรดกศิลปวัฒนธรรมมาจำหน่าย อาทิ งานเซรามิก เครื่องเงิน เมืองน่าน เครื่องทองเหลืองบ้านปะอาว จ.อุบลราชธานี เครื่องประดับจากไข่มุก จ.ภูเก็ต ภาชนะดินเผา ตุ๊กตาดินเผาแบบศิลปะหริภุญไชย จ.ลำพูน ผ้าฝ้ายทอมือของ อ.ป่าซาง ผ้าทอของกะเหรี่ยง อ.แม่ทาและอำเภอลี้ จ.ลำพูน เป็นต้น
นอกจากนี้สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จัดนิทรรศการพิเศษมรดกล้ำค่าสมเด็จพระปิยมหาราชในมิวเซียมหลวง ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยนำมรดกอันล้ำค่าในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาจัดแสดงให้ประชาชนได้มีโอกาสชื่นชม ซึ่งโบราณวัตถุทุกชิ้นที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ล้วนแต่เป็นโบราณวัตถุที่ทรงคุณค่าและหาชมได้ยากยิ่ง อาทิ ตราแผ่นดินประจำรัชกาล หีบทองคำลงยา เหรียญที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 1 กล้องเมียร์ชอม เหล็กไหล ไม้กลายเป็นหิน ฯลฯ
นายสหวัฒน์ กล่าวว่า กรมศิลป์ อัญเชิญพระพุทธรูปคันธารราฐ พระพุทธรูปปางขอฝน สร้างขึ้นสำหรับพระราชพิธีพิรุณศาสตร์และงานพระราชพิธีพืชมงคล เพื่ออำนวยให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล พื้นดินอุดมพร้อมพืชพันธุ์ธัญญาหารบริบูรณ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างขึ้นในปี 2453 และโปรดให้นายอัลฟอนโซ ทอร์นาเรลลี ช่างชาวอิตาเลียน ปั้นพระพุทธปฏิมายืน ปางขอฝนเลียนแบบพระพุทธรูปในศิลปะอินเดียแบบคันธารราฐโดยจะนำพระพุทธรูปคันธารราฐ ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ให้ประชาชนได้สักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย