สพฐ.สั่งเด้ง! ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 เข้ากรุ ส่วน รอง ผอ.และ ผอ.กลุ่มบุคคลฯ ให้ช่วยราชการที่ สพป.ขอนแก่น เขต 1 พร้อมตั้ง “พะโยม” เป็นประธานสอบวินัยร้ายแรง
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา (สพฐ.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกับบุคคล จำนวน 7 รายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบครูผู้ช่วยในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต 3 แล้ว โดยมี นายพะโยม ชินวงศ์ ผู้อำนวยการการศึกษาพิเศษ สพฐ.เป็นประธาน พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งให้ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 เข้ามาช่วยราชการที่ สพฐ.รอง ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ที่รับผิดชอบการบริหารงานบุคคล ไปช่วยราชการที่ สพป.ขอนแก่น เขต 1 และผู้อำนวยการกลุ่มบุคคลประจำ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ไปช่วยราชการที่ สพป.นครราชสีมา เขต 1 เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้เข้าไปทำหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ข้อมูลมาว่า นอกจาก สพป.ขอนแก่น เขต 3 แล้วอาจจะมีเขตพื้นที่ใน จ.ยโสธร อุดรธานี และชัยภูมิ ที่มีการทุจริตด้วย ในส่วน สพฐ.จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมหรือไม่ เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า สพฐ.พร้อมจะไปตรวจสอบทุกพื้นที่ที่มีข้อมูลการทุจริตเกิดขึ้น แต่สาเหตุที่ สพฐ.ตรวจสอบ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ก่อน เพราะถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีหลักฐาน และมีข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจน ยืนยันว่าการตรวจสอบทุกอย่างจะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนและระบบว่าเหตุเกิดที่ใดและมีข้อมูลก็ต้องว่ากันเป็นพื้นที่ ทั้งนี้ โครงสร้างของ สพฐ. เป็นรูปแบบกระจายอำนาจ ดังนั้น สพฐ.ต้องทำการตรวจสอบเป็นจุดๆ ไม่ทำแบบปูพรม เพราะโดยระบบแล้วไม่สามารถทำได้ ส่วนข้อมูลของดีเอสไอที่พบจังหวัดที่มีปัญหาเพิ่มนั้น คงต้องรอผลสรุปของดีเอสไอก่อน จากนั้น สพฐ.จะนำข้อมูลการตรวจสอบมาประกอบการพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา (สพฐ.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกับบุคคล จำนวน 7 รายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบครูผู้ช่วยในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต 3 แล้ว โดยมี นายพะโยม ชินวงศ์ ผู้อำนวยการการศึกษาพิเศษ สพฐ.เป็นประธาน พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งให้ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 เข้ามาช่วยราชการที่ สพฐ.รอง ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ที่รับผิดชอบการบริหารงานบุคคล ไปช่วยราชการที่ สพป.ขอนแก่น เขต 1 และผู้อำนวยการกลุ่มบุคคลประจำ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ไปช่วยราชการที่ สพป.นครราชสีมา เขต 1 เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้เข้าไปทำหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ข้อมูลมาว่า นอกจาก สพป.ขอนแก่น เขต 3 แล้วอาจจะมีเขตพื้นที่ใน จ.ยโสธร อุดรธานี และชัยภูมิ ที่มีการทุจริตด้วย ในส่วน สพฐ.จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมหรือไม่ เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า สพฐ.พร้อมจะไปตรวจสอบทุกพื้นที่ที่มีข้อมูลการทุจริตเกิดขึ้น แต่สาเหตุที่ สพฐ.ตรวจสอบ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ก่อน เพราะถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีหลักฐาน และมีข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจน ยืนยันว่าการตรวจสอบทุกอย่างจะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนและระบบว่าเหตุเกิดที่ใดและมีข้อมูลก็ต้องว่ากันเป็นพื้นที่ ทั้งนี้ โครงสร้างของ สพฐ. เป็นรูปแบบกระจายอำนาจ ดังนั้น สพฐ.ต้องทำการตรวจสอบเป็นจุดๆ ไม่ทำแบบปูพรม เพราะโดยระบบแล้วไม่สามารถทำได้ ส่วนข้อมูลของดีเอสไอที่พบจังหวัดที่มีปัญหาเพิ่มนั้น คงต้องรอผลสรุปของดีเอสไอก่อน จากนั้น สพฐ.จะนำข้อมูลการตรวจสอบมาประกอบการพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป