ปลัด กทม.มั่นใจระบบประมวลผลการเลือกตั้งลั่นไม่มีใครสามารถแทรกแซงข้อมูลได้ พร้อมชวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาใช้สิทธิพิเศษเลือกผู้ว่าฯ กทม.
นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.ทถ.กทม.) ร่วมชมการทดสอบระบบประมวลผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เหมือนจริง ที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ภายในห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.โดยนางนินนาท กล่าวภายหลังการทดสอบว่า วันนี้ถือเป็นการซ้อมระบบการส่งข้อมูลออนไลน์ทั้งระบบ ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และคาดว่าในวันเลือกตั้งที่ 3 มีนาคมนี้ ก็จะไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 19.00 น.จากการคำนวณระยะเวลาการปิดหีบ การนับคะแนน และการส่งคะแนนจากหน่วยเลือกตั้งไปยังสำนักงานเขต ซึ่งใช้เวลาทั้งกระบวนการดังกล่าวหากไม่มีเหตุคัดค้านเกิดขึ้นก็ไม่น่าจะเกินเวลา 18.00 น.ทั้งนี้หากถึงเวลา 18.30 น.แล้วหน่วยเลือกตั้งใดยังไม่ส่งข้อมูลมาที่สำนักงานเขต ก็ได้สั่งการให้ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปแก้ไขปัญหาที่หน่วยเลือกตั้งนั้น ทั้งนี้มั่นใจว่าระบบดังกล่าวมีความเสถียรไม่มีใครสามารถแทรกแซงข้อมูลได้ เนื่องจากเป็นระบบภายในของ กทม.ที่ระบุให้เจ้าหน้าที่บางคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้ และที่ผ่านมา กทม.ก็ใช้ระบบลักษณะนี้มาโดยตลอดเป็นระยะเวลากว่า 20 ปีแล้วซึ่งไม่เคยมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น นอกจากนี้ กทม.มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ป้องกันไฟฟ้าดับและระบบล่มด้วย
นางนินนาท กล่าวอีกว่า กทม.ได้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาเฝ้าสังเกตการณ์ ติดตามผลคะแนนการเลือกตั้ง โดยได้ติดตั้งจอ LED ขนาด 4x6 เมตรไว้บริเวณหน้าศาลาว่าการ กทม.ซึ่งจะเปิดเผยข้อมูลตั้งเริ่มมีการส่งผลคะแนนจากแต่ละเขตมายังศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ภายในห้องรัตนโกสินทร์
นางนินนาท กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีความเป็นห่วงว่าประชาชนจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งน้อย โดยที่ผ่านมาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กทม.และคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกภาคส่วน ได้ทุ่มเทเต็มร้อย และเตรียมการรองรับประชาชนที่จะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครบ 100% แต่ก็ทราบว่าเป็นไปไม่ได้ จึงตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 เช่นเดียวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2554 ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้นอกจากจะเป็นหน้าที่ของประชาชนแล้ว การได้รับสิทธิดังกล่าวถือเป็นความพิเศษที่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับ มีอีกหลายจังหวัดที่ต้องการเลือกผู้ว่าราชการโดยตรงแต่ก็ไม่มีโอกาส
ส่วนประเด็นกระแสการสวมสิทธิ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งในกรณีมีรายชื่อบุคคลที่ไม่รู้จักเพิ่มขึ้นมาในทะเบียนบ้าน และรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหายไปจากทะเบียนบ้านนั้น ปลัดกทม กล่าวว่า หากพบกรณีการสวมสิทธิ์เกิดขึ้น ให้แจ้งได้ที่สำนักงานเขตเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเป็นรายกรณีไป โดยที่ผ่านมากทม.ได้ทำทุกอย่างตามกฎหมายเพื่อให้ทุกกระบวนการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทั้งการติดประกาศรายชื่อที่สำนักงานเขตและการส่งหนังสือแจ้งไปยังเจ้าบ้าน โดยในช่วงระยะเวลา 15 วันที่เปิดโอกาสให้เพิ่ม-ถอนรายชื่อ พบว่ามีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลดลงจำนวน 6,914 คน ซึ่งการทำระบบทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 4 ล้านคนก็อาจจะมีข้อบกพร่องได้ ดังนั้นหากพบความผิดปกติควรรีบแจ้งสำนักงานเขตให้แก้ไขให้ถูกต้อง
นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.ทถ.กทม.) ร่วมชมการทดสอบระบบประมวลผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เหมือนจริง ที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ภายในห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.โดยนางนินนาท กล่าวภายหลังการทดสอบว่า วันนี้ถือเป็นการซ้อมระบบการส่งข้อมูลออนไลน์ทั้งระบบ ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และคาดว่าในวันเลือกตั้งที่ 3 มีนาคมนี้ ก็จะไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 19.00 น.จากการคำนวณระยะเวลาการปิดหีบ การนับคะแนน และการส่งคะแนนจากหน่วยเลือกตั้งไปยังสำนักงานเขต ซึ่งใช้เวลาทั้งกระบวนการดังกล่าวหากไม่มีเหตุคัดค้านเกิดขึ้นก็ไม่น่าจะเกินเวลา 18.00 น.ทั้งนี้หากถึงเวลา 18.30 น.แล้วหน่วยเลือกตั้งใดยังไม่ส่งข้อมูลมาที่สำนักงานเขต ก็ได้สั่งการให้ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปแก้ไขปัญหาที่หน่วยเลือกตั้งนั้น ทั้งนี้มั่นใจว่าระบบดังกล่าวมีความเสถียรไม่มีใครสามารถแทรกแซงข้อมูลได้ เนื่องจากเป็นระบบภายในของ กทม.ที่ระบุให้เจ้าหน้าที่บางคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้ และที่ผ่านมา กทม.ก็ใช้ระบบลักษณะนี้มาโดยตลอดเป็นระยะเวลากว่า 20 ปีแล้วซึ่งไม่เคยมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น นอกจากนี้ กทม.มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ป้องกันไฟฟ้าดับและระบบล่มด้วย
นางนินนาท กล่าวอีกว่า กทม.ได้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาเฝ้าสังเกตการณ์ ติดตามผลคะแนนการเลือกตั้ง โดยได้ติดตั้งจอ LED ขนาด 4x6 เมตรไว้บริเวณหน้าศาลาว่าการ กทม.ซึ่งจะเปิดเผยข้อมูลตั้งเริ่มมีการส่งผลคะแนนจากแต่ละเขตมายังศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ภายในห้องรัตนโกสินทร์
นางนินนาท กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีความเป็นห่วงว่าประชาชนจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งน้อย โดยที่ผ่านมาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กทม.และคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกภาคส่วน ได้ทุ่มเทเต็มร้อย และเตรียมการรองรับประชาชนที่จะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครบ 100% แต่ก็ทราบว่าเป็นไปไม่ได้ จึงตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 เช่นเดียวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2554 ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้นอกจากจะเป็นหน้าที่ของประชาชนแล้ว การได้รับสิทธิดังกล่าวถือเป็นความพิเศษที่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับ มีอีกหลายจังหวัดที่ต้องการเลือกผู้ว่าราชการโดยตรงแต่ก็ไม่มีโอกาส
ส่วนประเด็นกระแสการสวมสิทธิ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งในกรณีมีรายชื่อบุคคลที่ไม่รู้จักเพิ่มขึ้นมาในทะเบียนบ้าน และรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหายไปจากทะเบียนบ้านนั้น ปลัดกทม กล่าวว่า หากพบกรณีการสวมสิทธิ์เกิดขึ้น ให้แจ้งได้ที่สำนักงานเขตเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเป็นรายกรณีไป โดยที่ผ่านมากทม.ได้ทำทุกอย่างตามกฎหมายเพื่อให้ทุกกระบวนการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทั้งการติดประกาศรายชื่อที่สำนักงานเขตและการส่งหนังสือแจ้งไปยังเจ้าบ้าน โดยในช่วงระยะเวลา 15 วันที่เปิดโอกาสให้เพิ่ม-ถอนรายชื่อ พบว่ามีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลดลงจำนวน 6,914 คน ซึ่งการทำระบบทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 4 ล้านคนก็อาจจะมีข้อบกพร่องได้ ดังนั้นหากพบความผิดปกติควรรีบแจ้งสำนักงานเขตให้แก้ไขให้ถูกต้อง
