“สมศักดิ์” มอบรางวัลภาพถ่าย “สวดมนต์ข้ามปี” ชื่นชมโครงการดี ทำสังคมให้น่าอยู่ พร้อมขอร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมทุกปี ด้าน “นิคม” ชี้เป็นทางหนึ่งในการฟื้นฟูพุทธศาสนา ขณะที่ สสส.เผยตัวเลข 33 ล้านคนร่วมสวดมนต์ฉลองก้าวข้ามปีอย่างสร้างสรรค์
เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่อาคารรัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานพิธีประกาศผลการประกวดภาพถ่ายสวดมนต์ข้ามปี 2555-2556 โดยมีผู้ชนะการประกวด 12 รางวัล รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นายภมร มานะพรชัย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นายประเสริฐ ขวัญมา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นายศศกร จิระเกียรติ และรางวัลชมเชยอีก 9 รางวัล โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมมอบรางวัลด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ถือเป็นทางเลือกสร้างสรรค์ในการฉลองคืนข้ามปีให้แก่ประชาชน เป็นส่วนสำคัญช่วยลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บจำนวนมากทุกปี ที่สำคัญการสวดมนต์ ยังเป็นการสร้างสมาธิ สติ ปัญญา ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดี และกำลังได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยเฉพาะวัยรุ่นเริ่มเข้ามาร่วมกิจกรรมดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น แทนที่จะไปทำกิจกรรมสังสรรค์ กินดื่ม ดังนั้นในปีหน้าทางสภาผู้แทนราษฏรจะขอมีส่วนร่วมในโครงการนี้ด้วย
นายนิคม กล่าวว่า การจัดประกวดภาพถ่ายสวดมนต์ข้ามปี ถ่ายทอดให้เห็นภาพที่ชัดเจนถึงพลังของชาวไทย ที่เลือกเฉลิมฉลองคืนข้ามปีอย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัย และเป็นมงคล ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม โดยควรจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอย่างต่อเนื่องและขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชน มีหลักธรรมประจำใจ ซึ่งจะส่งผลให้สังคมน่าอยู่ และเป็นปกติสุขได้ในที่สุด โครงการสวดมนต์ข้ามปีถือเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยฟื้นฟูพุทธศาสนาขึ้นมา ช่วยหล่อหลอมให้ทุกเพศ ทุกวัย ได้ร่วมใจกันในกิจกรรมนี้มากขึ้น
ด้าน ทพ.กฤษดา เผยว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ครั้งที่ 3 ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสถานที่จัดงานทั่วประเทศ การติดตามการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์รวมกว่า 33 ล้านคน จากการประเมินผลการจัดกิจกรรม โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ประชาชนที่เข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีที่สนามหลวง 54.7% จะนำข้อคิดที่ได้รับไปปฏิบัติด้วยตนเอง และอีก 44.6% จะชักชวนให้ผู้อื่นปฏิบัติ มีเพียง 0.7% ที่ไม่ปฏิบัติ นอกจากนี้ 80% ระบุว่าจะมาร่วมกิจกรรมในปีหน้าอีก โดย 40.8% จะชักชวนเพื่อนมาร่วมกิจกรรมด้วย สะท้อนให้เห็นว่า สังคมต้องการพื้นที่สร้างสรรค์ ปลอดภัย ห่างไกลอบายมุขในการเฉลิมฉลองคืนข้ามปี และการประกวดภาพถ่ายจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่จะจุดกระแสให้คนไทยสนใจเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพิ่มมากขึ้น
เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่อาคารรัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานพิธีประกาศผลการประกวดภาพถ่ายสวดมนต์ข้ามปี 2555-2556 โดยมีผู้ชนะการประกวด 12 รางวัล รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นายภมร มานะพรชัย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นายประเสริฐ ขวัญมา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นายศศกร จิระเกียรติ และรางวัลชมเชยอีก 9 รางวัล โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมมอบรางวัลด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ถือเป็นทางเลือกสร้างสรรค์ในการฉลองคืนข้ามปีให้แก่ประชาชน เป็นส่วนสำคัญช่วยลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บจำนวนมากทุกปี ที่สำคัญการสวดมนต์ ยังเป็นการสร้างสมาธิ สติ ปัญญา ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดี และกำลังได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยเฉพาะวัยรุ่นเริ่มเข้ามาร่วมกิจกรรมดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น แทนที่จะไปทำกิจกรรมสังสรรค์ กินดื่ม ดังนั้นในปีหน้าทางสภาผู้แทนราษฏรจะขอมีส่วนร่วมในโครงการนี้ด้วย
นายนิคม กล่าวว่า การจัดประกวดภาพถ่ายสวดมนต์ข้ามปี ถ่ายทอดให้เห็นภาพที่ชัดเจนถึงพลังของชาวไทย ที่เลือกเฉลิมฉลองคืนข้ามปีอย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัย และเป็นมงคล ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม โดยควรจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอย่างต่อเนื่องและขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชน มีหลักธรรมประจำใจ ซึ่งจะส่งผลให้สังคมน่าอยู่ และเป็นปกติสุขได้ในที่สุด โครงการสวดมนต์ข้ามปีถือเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยฟื้นฟูพุทธศาสนาขึ้นมา ช่วยหล่อหลอมให้ทุกเพศ ทุกวัย ได้ร่วมใจกันในกิจกรรมนี้มากขึ้น
ด้าน ทพ.กฤษดา เผยว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ครั้งที่ 3 ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสถานที่จัดงานทั่วประเทศ การติดตามการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์รวมกว่า 33 ล้านคน จากการประเมินผลการจัดกิจกรรม โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ประชาชนที่เข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีที่สนามหลวง 54.7% จะนำข้อคิดที่ได้รับไปปฏิบัติด้วยตนเอง และอีก 44.6% จะชักชวนให้ผู้อื่นปฏิบัติ มีเพียง 0.7% ที่ไม่ปฏิบัติ นอกจากนี้ 80% ระบุว่าจะมาร่วมกิจกรรมในปีหน้าอีก โดย 40.8% จะชักชวนเพื่อนมาร่วมกิจกรรมด้วย สะท้อนให้เห็นว่า สังคมต้องการพื้นที่สร้างสรรค์ ปลอดภัย ห่างไกลอบายมุขในการเฉลิมฉลองคืนข้ามปี และการประกวดภาพถ่ายจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่จะจุดกระแสให้คนไทยสนใจเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพิ่มมากขึ้น
