ศน.ยันพุทธสภาไม่สร้างความขัดแย้ง รวมพลัง 9 เครือข่ายทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา ด้านอนุ กก.ส่งเสริมศาสนาฯคาดสามารถตั้งพุทธสภาได้เกิน 80 เปอร์เซ็นต์
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวถึงกรณีการจัดตั้งพุทธสภา ผนึกกำลังภาคเครือข่าย 9 ประเภท ได้แก่ 1.ภาคีเครือข่ายภาคพระสงฆ์ 2.สตรี 3.องค์กรการกุศล 4.ชุมชน 5.ภาคธุรกิจ 6.ภาควิชาการและวิชาชีพ 7.สื่อมวลชน 8.ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา และ 9.เด็กและเยาวชน เพื่อส่งเสริมงานด้านพระพุทธศาสนา ทั้งระดับชาติและระดับจังหวัดว่า เป็นยุทธวิธีในการรวมตัวกันทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนยกร่างกฎหมายรองรับ และประชาพิจารณ์ เปิดให้ทุกภาคส่วนเสนอข้อดี ข้อเสียเพื่อแก้ไขร่างดังกล่าว ไม่ให้เกิดความขัดแย้งภายหลัง โดยจุดเด่นของพุทธสภาจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นองค์กรภาคประชาชนที่แท้จริง ประธานสภาจะมาจากภาคประชาชนทั้งหมด และไม่เป็นนิติบุคคล
พลตรี ดร.ไชยนาจ ญาติฉิมพลี อนุกรรมการส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาองค์กรส่งเสริมศาสนาต่างคนต่างทำ ไม่เป็นระบบ ดังนั้นตนจึงมองความเป็นไปได้ในการจัดตั้งพุทธสภาเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นรวมเครือข่ายชาวพุทธ 9 สาขา ทำให้การส่งเสริมพระพุทธศาสนาเป็นระบบ เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เผยแพร่พระพุทธศาสนาให้เหมาะสมกับยุคสมัย เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ทำงานด้านพระพุทธศาสนากับพระสังฆาธิการ ข้าราชการระดับจังหวัดทั้งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้เชิญมาเป็นที่ปรึกษาพุทธสภาด้วย แต่สิ่งที่พึงระวังคือไม่ให้การจัดตั้งพุทธสภาเป็นไปเพื่อการเมือง
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวถึงกรณีการจัดตั้งพุทธสภา ผนึกกำลังภาคเครือข่าย 9 ประเภท ได้แก่ 1.ภาคีเครือข่ายภาคพระสงฆ์ 2.สตรี 3.องค์กรการกุศล 4.ชุมชน 5.ภาคธุรกิจ 6.ภาควิชาการและวิชาชีพ 7.สื่อมวลชน 8.ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา และ 9.เด็กและเยาวชน เพื่อส่งเสริมงานด้านพระพุทธศาสนา ทั้งระดับชาติและระดับจังหวัดว่า เป็นยุทธวิธีในการรวมตัวกันทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนยกร่างกฎหมายรองรับ และประชาพิจารณ์ เปิดให้ทุกภาคส่วนเสนอข้อดี ข้อเสียเพื่อแก้ไขร่างดังกล่าว ไม่ให้เกิดความขัดแย้งภายหลัง โดยจุดเด่นของพุทธสภาจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นองค์กรภาคประชาชนที่แท้จริง ประธานสภาจะมาจากภาคประชาชนทั้งหมด และไม่เป็นนิติบุคคล
พลตรี ดร.ไชยนาจ ญาติฉิมพลี อนุกรรมการส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาองค์กรส่งเสริมศาสนาต่างคนต่างทำ ไม่เป็นระบบ ดังนั้นตนจึงมองความเป็นไปได้ในการจัดตั้งพุทธสภาเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นรวมเครือข่ายชาวพุทธ 9 สาขา ทำให้การส่งเสริมพระพุทธศาสนาเป็นระบบ เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เผยแพร่พระพุทธศาสนาให้เหมาะสมกับยุคสมัย เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ทำงานด้านพระพุทธศาสนากับพระสังฆาธิการ ข้าราชการระดับจังหวัดทั้งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้เชิญมาเป็นที่ปรึกษาพุทธสภาด้วย แต่สิ่งที่พึงระวังคือไม่ให้การจัดตั้งพุทธสภาเป็นไปเพื่อการเมือง