xs
xsm
sm
md
lg

ส่ง “แพทย์อาสาเฉพาะทาง” ออกหน่วยเคลื่อนที่ช่วย ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แพทยสภา จัดโครงการ “แพทย์อาสาเฉพาะทาง” รวมทุกสาขากว่า 200 คน ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนที่อยุธยา ถวายเป็นพระราชกุศล “ในหลวง-พระราชินี” วันที่ 17 มี.ค.นี้ คาด มีประชาชนเข้ารับบริการมากกว่า 7,000 คน เตรียมจดบันทึกสถิติหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จำนวนมากที่สุดในโลกลง “กินเนสส์บุ๊ก”

วันนี้ (31 ม.ค.) ที่ห้องประชุมแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดย ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทยสภา กล่าวว่า คณะกรรมการแพทยสภามีมติเห็นชอบให้จัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯขึ้น ที่ ร.ร.บางปะอินราชานุเคราะห์ 1 จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ โดยมีนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาล สำหรับผู้บริหารทางการแพทย์ รุ่นที่ 1 แพทยสภา ร่วมกับ สถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบันทางการแพทย์ทั่วประเทศ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการจัดหน่วยแพทย์อาสาที่มีแพทย์เฉพาะทางเข้าร่วมโครงการออกบริการประชาชนมากถึงกว่า 200 คน ถือว่าเป็นจำนวนมากที่สุดในโลกในการออกหน่วยแพทย์บริการประชาชน พร้อมกันนี้ ได้มีการประสานไปยัง “กินเนสส์บุ๊ก” เพื่อบันทึกลงเป็นสถิติโลกด้วย สำหรับโครงการนี้จะเป็นโครงการนำร่องก่อน จากนั้นจะมีการประเมินเพื่อหาแนวทางในการจัดโครงการในลักษณะดังกล่าวไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป

นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวว่า โครงการนี้จะเป็นการรวมแพทย์เฉพาะทางที่มากที่สุดในโลก จากราชวิทยาลัยแพทย์ทุกสาขาของประเทศไทย เพื่อออกให้บริการประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งแพทย์ที่อาสาเข้ามาร่วมโครงการจะมาจากทุกสังกัด และจะมีการแบ่งกลุ่มในการให้บริการ คือ 1.การตรวจคัดกรองโรคระบบประสาท โรคมะเร็ง 2.การรักษาพยาบาล และ 3.การส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งการออกให้บริการในครั้งนี้จะเน้นไปที่โรคเฉพาะทางซึ่งหากประชาชนไปเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลจะต้องต่อคิวเพื่อเข้ารับการรักษาเป็นเวลานาน เช่น โรคหัวใจ โรคระบบประสาท โรคระบบทางเดินอาหาร โรคนิ้วล็อก โรคตา โรคหูคอจมูก โรคทางนรีเวช โรคกระดูกพรุน เป็นต้น โดยมีเป้าหมายที่ประชาชนในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง 8 จังหวัด คาดว่า จะมีประชาชนมาเข้ารับบริการประมาณ 7,000 คน

“การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เฉพาะทาง จะเคลื่อนที่ไปให้บริการประชาชนอย่างครบวงจร ตั้งระดับปฐมภูมิจนถึงระดับตติยภูมิ เพื่อบริการด้านสาธารณสุขสำหรับประชาชนในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงที่ร่วมเครือข่ายอีก 7 จังหวัด คือ นนทบุรี อ่างทอง ปทุมธานี ลพบุรี สระบุรี ชัยนาท และนครนายก โดยรวมหน่วยงานทางการแพทย์ รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศมาร่วมพลังกันจัดโครงการนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย” นพ.อดิศร กล่าว

น.อ.(พิเศษ) นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า แพทย์ที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการยังสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ได้โดยติดต่อมายังแพทยสภา เพื่อรวมกันทำกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งเป็นการร่วมบันทึกสถิติโลกด้วย

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.เป็นหน่วยงานที่ให้การบริการด้านการเสริมสร้างสุขอนามัย การควบคุม ดูแลและตรวจรักษาประชาชนอยู่แล้ว จึงมีความยินดีทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุนเข้าร่วมกับแพทยสภา และสถาบันพระปกเกล้า นักศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลฯ เพื่อสร้างธรรมาภิบาลในระบบการรักษาพยาบาลของประชาชนชาวไทย ตามกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขประเทศ สำหรับโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการนี้ประกอบด้วย รพ.เลิดสิน สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) รพ.บ้านแพ้ว รพ.พระพุทธชินราช รพ.ขอนแก่น สถาบันประสาทวิทยา รพ.พระนครศรีอยุธยา และโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง เข้ามาให้บริการด้วย

“เนื่องจากยังมีความจำกัดในการเข้าถึงบริการ โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัด ในการเดินทางมารับบริการ และเข้าคิวนัดหมายที่ต้องใช้เวลารอนานเป็นเหตุให้ความเจ็บป่วยของประชาชนในบางกรณีไม่สามารถแก้ไขเยียวยาได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นในการจัดโครงการในครั้งนี้ จะเป็นโครงการหนึ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้ โดยสธ.พร้อมที่จะสนับสนุนในด้านกำลังแพทย์ และบุคคลากรทางการแพทย์ พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เพื่อการดำเนินโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี” รมช.สธ.กล่าว

ขณะที่ นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัด สธ.กล่าวว่า สธ.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว รวมทั้งแจ้งให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ช่วยประชาสัมพันธ์โครงการนี้ ซึ่งหากประชาชนที่สนใจเข้ารับบริการสามารถแจ้งชื่อไปยัง อสม.ได้ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น