ศธ.ยันประกาศระเบียบทรงผม นร.ใหม่เสร็จทันประกาศใช้ก่อนเปิดเทอมปี 2556 นี้
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าในการยกร่าง กฎกระทรวงเรื่องทรงผมนักเรียน ว่า ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่าง ดำเนินการยกร่าง และดูในรายละเอียดต่างๆ ให้มีความสอดคล้องและทันสมัยขึ้น เนื่องจากกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2515) ออกตามความประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เม.ย.2515 และฉบับที่ 2 แก้ไขเพิ่ม (พ.ศ.2518) เป็นกฎกระทรวงที่ออกมานานแล้ว มาถึงปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไปเรามีอุปกรณ์แต่งทรงผมมากขึ้น เช่น น้ำมันใส่ผม เจลใส่ผม หรือมีการทำสีผม ซึ่งเหล่านี้ในอดีตยังไม่มีจึงไม่ได้มีการกำหนดลงในกฎกระทรวง ดังนั้น จึงได้หารือกันว่าร่าง กฎกระทรวงที่จะต้องกำหนดอย่างชัดเจนว่าเรื่องใดบ้างที่นักเรียนห้ามทำ หรือเรื่องใดอนุญาตให้ทำ เพื่อที่สถานศึกษาทุกแห่งจะได้นำไปปฏิบัติให้เป็นแนวทางเดียวกัน และไม่เกิดคำถาม หรือเกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม สำหรับร่าง กฎกระทรวงฉบับใหม่นั้น จะประกาศใช้ทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 นี้แน่นอน
ต่อข้อถามที่ว่า ขณะนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงระหว่างโรงเรียนและนักเรียนเกี่ยวกับทรงผม เพราะนักเรียนบางคนจะไว้ผมยาวแต่โรงเรียนไม่อนุญาต โดยบอกว่ายังไม่ได้รับหนังสือเวียนจาก ศธ. นางพนิตา กล่าวว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ลงนามในบันทึกข้อความ ด้วยที่สุด ที่ ศธ.0209/189 เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2556 เรื่องซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับทรงผมนักเรียน และได้มีการส่งไปยังโรงเรียนเพื่อเน้นย้ำให้สถานศึกษาปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมเป็นแนวทางเดียวกัน มีสาระสำคัญ คือ นักเรียนชาย ให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ หากไว้ผมยาวด้านข้างและด้านหลังต้องยาวไม่เลยตีนผม เช่น แบบทรงผมรองทรง นักเรียนนหญิง ให้ไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย โดยบันทึกข้อความดังกล่าวได้ระบุด้วยว่า ศธ.อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ในระหว่างนี้สถานศึกษาทุกแห่งต้องปฏิบัติให้เป็นในทิศทางเดียวกัน
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าในการยกร่าง กฎกระทรวงเรื่องทรงผมนักเรียน ว่า ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่าง ดำเนินการยกร่าง และดูในรายละเอียดต่างๆ ให้มีความสอดคล้องและทันสมัยขึ้น เนื่องจากกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2515) ออกตามความประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เม.ย.2515 และฉบับที่ 2 แก้ไขเพิ่ม (พ.ศ.2518) เป็นกฎกระทรวงที่ออกมานานแล้ว มาถึงปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไปเรามีอุปกรณ์แต่งทรงผมมากขึ้น เช่น น้ำมันใส่ผม เจลใส่ผม หรือมีการทำสีผม ซึ่งเหล่านี้ในอดีตยังไม่มีจึงไม่ได้มีการกำหนดลงในกฎกระทรวง ดังนั้น จึงได้หารือกันว่าร่าง กฎกระทรวงที่จะต้องกำหนดอย่างชัดเจนว่าเรื่องใดบ้างที่นักเรียนห้ามทำ หรือเรื่องใดอนุญาตให้ทำ เพื่อที่สถานศึกษาทุกแห่งจะได้นำไปปฏิบัติให้เป็นแนวทางเดียวกัน และไม่เกิดคำถาม หรือเกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม สำหรับร่าง กฎกระทรวงฉบับใหม่นั้น จะประกาศใช้ทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 นี้แน่นอน
ต่อข้อถามที่ว่า ขณะนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงระหว่างโรงเรียนและนักเรียนเกี่ยวกับทรงผม เพราะนักเรียนบางคนจะไว้ผมยาวแต่โรงเรียนไม่อนุญาต โดยบอกว่ายังไม่ได้รับหนังสือเวียนจาก ศธ. นางพนิตา กล่าวว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ลงนามในบันทึกข้อความ ด้วยที่สุด ที่ ศธ.0209/189 เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2556 เรื่องซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับทรงผมนักเรียน และได้มีการส่งไปยังโรงเรียนเพื่อเน้นย้ำให้สถานศึกษาปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมเป็นแนวทางเดียวกัน มีสาระสำคัญ คือ นักเรียนชาย ให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ หากไว้ผมยาวด้านข้างและด้านหลังต้องยาวไม่เลยตีนผม เช่น แบบทรงผมรองทรง นักเรียนนหญิง ให้ไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย โดยบันทึกข้อความดังกล่าวได้ระบุด้วยว่า ศธ.อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ในระหว่างนี้สถานศึกษาทุกแห่งต้องปฏิบัติให้เป็นในทิศทางเดียวกัน