ผอ.สทศ.เตรียมเสนอบอร์ดเห็นชอบขยายเวลาพักกลางวันสอบ PAT วันที่ 3 มี.ค.เพิ่มอีก 1 ชม.เพื่อให้เด็กได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พร้อมเตรียมสำรวจหน่วยเลือกตั้งว่าใกล้สนามสอบจุดใด เพื่อประสานขอ ร.ร.จัดรถบริการรับ-ส่ง ย้ำ พยายามหาทางแก้ไขดีที่สุดเพื่ออำนวยความสะดวกให้เด็กไม่เสียสิทธิ์ทางการเมือง
รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวว่า ตนได้หารือกับ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว และเห็นตรงกัน ว่า จะไม่มีการเลื่อนการสอบความถนัดทั่วไป หรือ GAT และความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT ครั้งที่ 2/2556 แน่นอน เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบกับคนส่วนใหญ่ และสทศ.ได้มีการเตรียมความพร้อมการจัดสอบทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งนักเรียนและผู้ปกครองได้มีการวางแผนล่วงหน้าที่จะมาสอบด้วย ซึ่งในวันที่ 3 มี.ค.จะสอบ 2 วิชา ได้แก่ ช่วงเช้า สอบ PAT2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เวลา 08.30-11.30 น.มีผู้เข้าสอบ 7,071 คน ส่วนช่วงบ่าย สอบ PAT5 ความถนัดทางวิชาชีพครู มีผู้เข้าสอบ 3,223 คน
อย่างไรก็ตาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะได้ไปใช้สิทธิช่วงพักกลางวัน ดังนั้น ตนและประธาน ทปอ.ตกลงกันว่า จะเพิ่มเวลาพักกลางวันเฉพาะการสอบในวันที่ 3 มี.ค.เพิ่มขึ้นอีก 1 ชั่วโมง จากเดิมพักช่วงสอบตั้งแต่เวลา 11.30-13.00 น.ก็จะเพิ่มเป็น 11.30-14.00 น.เพราะฉะนั้น ในวันที่ 3 มี.ค.ในช่วงบ่ายที่มีการสอบ PAT 5 ความถนัดทางวิชาชีพครู นั้นจากเดิมกำหนดเวลาสอบ 13.00-16.00 น.ก็จะเลื่อนสอบในเวลา 14.00-17.00 น.การขยับเวลาดังกล่าวจะทำให้ผู้เข้าสอบที่สอบในช่วงเช้าก็สามารถไปใช้สิทธิในตอนบ่ายได้ ส่วนผู้เข้าสอบที่สอบในช่วงบ่ายก็สามารถไปใช้สิทธิในช่วงเช้าได้ โดยในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (บอร์ด สทศ.) ตนจะเสนอเรื่องการเพิ่มเวลาพักกลางวันดังกล่าว เพื่อขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมด้วย
“กลุ่มผู้เข้าสอบที่จะได้รับผลกระทบ คือ ผู้เข้าสอบที่ต้องสอบทั้ง 2 วิชา ซึ่งมีจำนวน 2,821 คน ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้อาจต้องใช้ช่วงเวลาพักกลางวันที่เพิ่มเวลาให้อีก 1 ชั่วโมงไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้ สทศ.ส่งเสริม และสนับสนุนความเป็นประชาธิปไตย จึงอยากให้เด็กทุกคนไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง โดย สทศ.ก็พยายามหาแนวทางที่ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลของหน่วยเลือกตั้งว่าตั้งอยู่ที่ใดบ้าง และอยู่ใกล้สนามสอบหรือไม่ หากอยู่ใกล้ก็อาจจะต้องขอความร่วมมือไปยังโรงเรียนที่เป็นสนามสอบโดยอาจจะจัดรถรับส่งนักเรียนไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เด็ก ไม่ให้เด็กต้องเสียสิทธิ์ทางการเมือง” นายสัมพันธ์ กล่าว
รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวว่า ตนได้หารือกับ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว และเห็นตรงกัน ว่า จะไม่มีการเลื่อนการสอบความถนัดทั่วไป หรือ GAT และความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT ครั้งที่ 2/2556 แน่นอน เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบกับคนส่วนใหญ่ และสทศ.ได้มีการเตรียมความพร้อมการจัดสอบทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งนักเรียนและผู้ปกครองได้มีการวางแผนล่วงหน้าที่จะมาสอบด้วย ซึ่งในวันที่ 3 มี.ค.จะสอบ 2 วิชา ได้แก่ ช่วงเช้า สอบ PAT2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เวลา 08.30-11.30 น.มีผู้เข้าสอบ 7,071 คน ส่วนช่วงบ่าย สอบ PAT5 ความถนัดทางวิชาชีพครู มีผู้เข้าสอบ 3,223 คน
อย่างไรก็ตาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะได้ไปใช้สิทธิช่วงพักกลางวัน ดังนั้น ตนและประธาน ทปอ.ตกลงกันว่า จะเพิ่มเวลาพักกลางวันเฉพาะการสอบในวันที่ 3 มี.ค.เพิ่มขึ้นอีก 1 ชั่วโมง จากเดิมพักช่วงสอบตั้งแต่เวลา 11.30-13.00 น.ก็จะเพิ่มเป็น 11.30-14.00 น.เพราะฉะนั้น ในวันที่ 3 มี.ค.ในช่วงบ่ายที่มีการสอบ PAT 5 ความถนัดทางวิชาชีพครู นั้นจากเดิมกำหนดเวลาสอบ 13.00-16.00 น.ก็จะเลื่อนสอบในเวลา 14.00-17.00 น.การขยับเวลาดังกล่าวจะทำให้ผู้เข้าสอบที่สอบในช่วงเช้าก็สามารถไปใช้สิทธิในตอนบ่ายได้ ส่วนผู้เข้าสอบที่สอบในช่วงบ่ายก็สามารถไปใช้สิทธิในช่วงเช้าได้ โดยในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (บอร์ด สทศ.) ตนจะเสนอเรื่องการเพิ่มเวลาพักกลางวันดังกล่าว เพื่อขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมด้วย
“กลุ่มผู้เข้าสอบที่จะได้รับผลกระทบ คือ ผู้เข้าสอบที่ต้องสอบทั้ง 2 วิชา ซึ่งมีจำนวน 2,821 คน ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้อาจต้องใช้ช่วงเวลาพักกลางวันที่เพิ่มเวลาให้อีก 1 ชั่วโมงไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้ สทศ.ส่งเสริม และสนับสนุนความเป็นประชาธิปไตย จึงอยากให้เด็กทุกคนไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง โดย สทศ.ก็พยายามหาแนวทางที่ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลของหน่วยเลือกตั้งว่าตั้งอยู่ที่ใดบ้าง และอยู่ใกล้สนามสอบหรือไม่ หากอยู่ใกล้ก็อาจจะต้องขอความร่วมมือไปยังโรงเรียนที่เป็นสนามสอบโดยอาจจะจัดรถรับส่งนักเรียนไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เด็ก ไม่ให้เด็กต้องเสียสิทธิ์ทางการเมือง” นายสัมพันธ์ กล่าว