กทม.ร่วมยกย่องเชิดชูเกียรติครู เนื่องในวันครู ประจำปี 2556 ปลัด กทม.เผยเร่งปรับปรุงสวัสดิการกำลังใจให้แก่ครูกทม.
วันนี้ (16 ม.ค.) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดงานวันครูกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2556 โดยมีคณะผู้บริหารสำนักการศึกษา หัวหน้าฝ่ายการศึกษาสำนักงานเขต ผู้บริหารโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ครูอาวุโส และคณะครูโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร กว่า 3,000 คน ร่วมพิธี ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) โดย นางนินนาท กล่าวว่า อาชีพครูเป็นอาชีพที่สุจริตและต้องเป็นผู้ที่เสียสละ ดังนั้น จึงถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี นับเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน สังคม และประเทศชาติจึงให้การยอมรับและยกย่องอาชีพครูเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคโลกาภิวัตน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมไทยไปในหลากหลายมิติอย่างต่อเนื่อง ครูในฐานะผู้สั่งสอน จึงต้องรับภาระที่หนักยิ่ง เพราะนอกจากจะต้องสอนศิษย์ให้มีความรู้เท่าทันโลกแล้ว ยังต้องบ่มเพาะเด็กๆ ให้มีความงอกงามทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาอีกด้วย
สำหรับครู กทม.ที่ต้องรับผิดชอบในการดูแลและพัฒนาเยาวชนในโรงเรียนสังกัด กทม.ซึ่งมีจำนวนถึง 350,000 คน ให้เติบโตขึ้นเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าต่อประเทศชาติ กทม.ได้ตระหนักถึงความสำคัญของครูดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงได้ดำเนินการหลายโครงการเพื่อที่จะสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ครู โดยพัฒนางานด้านสวัสดิการต่างๆ สนับสนุนให้ครูได้มีโอกาสศึกษาต่อ และได้รับการอบรมเพื่อการเลื่อนวิทยฐานะ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการปฏิรูปการศึกษาของกรุงเทพฯ ให้ กทม.เป็นมหานครแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริงต่อไป
วันนี้ (16 ม.ค.) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดงานวันครูกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2556 โดยมีคณะผู้บริหารสำนักการศึกษา หัวหน้าฝ่ายการศึกษาสำนักงานเขต ผู้บริหารโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ครูอาวุโส และคณะครูโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร กว่า 3,000 คน ร่วมพิธี ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) โดย นางนินนาท กล่าวว่า อาชีพครูเป็นอาชีพที่สุจริตและต้องเป็นผู้ที่เสียสละ ดังนั้น จึงถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี นับเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน สังคม และประเทศชาติจึงให้การยอมรับและยกย่องอาชีพครูเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคโลกาภิวัตน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมไทยไปในหลากหลายมิติอย่างต่อเนื่อง ครูในฐานะผู้สั่งสอน จึงต้องรับภาระที่หนักยิ่ง เพราะนอกจากจะต้องสอนศิษย์ให้มีความรู้เท่าทันโลกแล้ว ยังต้องบ่มเพาะเด็กๆ ให้มีความงอกงามทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาอีกด้วย
สำหรับครู กทม.ที่ต้องรับผิดชอบในการดูแลและพัฒนาเยาวชนในโรงเรียนสังกัด กทม.ซึ่งมีจำนวนถึง 350,000 คน ให้เติบโตขึ้นเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าต่อประเทศชาติ กทม.ได้ตระหนักถึงความสำคัญของครูดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงได้ดำเนินการหลายโครงการเพื่อที่จะสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ครู โดยพัฒนางานด้านสวัสดิการต่างๆ สนับสนุนให้ครูได้มีโอกาสศึกษาต่อ และได้รับการอบรมเพื่อการเลื่อนวิทยฐานะ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการปฏิรูปการศึกษาของกรุงเทพฯ ให้ กทม.เป็นมหานครแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริงต่อไป
