กก.สอบข้อเท็จจริง มบส.เชือดอาจารย์หื่นกาม “ให้ออก” คาด แจ้งให้เจ้าตัวทราบปลายเดือน ม.ค.นี้ ชี้ มีหลักฐานชี้มูลทำผิดจริง หากอาจารย์ที่ถูกกล่าวอ้างไม่พอใจการตัดสิน ฟ้องร้องมหาวิทยาลัยได้
รศ.ดร.บังอร เสรีรัตน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มบส.เข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี นายกฤษดา สุขสำเนียง อายุ 38 ปี อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ สาขาศิลปกรรมศึกษา แขนงดนตรีไทย ในข้อหาล่อลวงและกระทำอนาจารกรณีเมื่อเดือน ต.ค.2555 ที่ผ่านมา ว่า จากผลการพิจารณาของคณะกรรมการเสาะหาข้อเท็จจริง และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้น ขณะนี้คณะกรรมการเสาะหาข้อเท็จจริง ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานต่างๆ พบว่า มีมูลความผิดจริง จึงได้ส่งเรื่องต่อไปยังคณะสอบสวนข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ได้สรุปผลการสอบข้อเท็จจริงเสนอให้ มบส.แล้ว ซึ่งพบว่า นายกฤษดา ได้กระทำผิดตามที่นักศึกษาร้องเรียนจริง จึงเห็นควรให้มีบทลงโทษนายกฤษดาโดยการให้ออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ทีมนักกฎหมายพิจารณารายละเอียดข้อมูลให้รอบคอบก่อนที่จะแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบและดำเนินการตามผลการพิจารณา คาดว่า น่าจะสรุปผลข้อมูลชัดเจนและแจ้งให้ทราบภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้
รองอธิการ มบส.กล่าวต่อว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่การพิจารณาล่าช้า เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านมีการเปลี่ยนตัวอธิการบดีคนใหม่ แต่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก็ยังทำงานต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น มบส.ได้ระงับการเรียนการสอนของนายกฤษดาทุกอย่าง แต่ตอนนี้ที่นักศึกษายังเห็นอาจารย์อยู่ในมหาวิทยาลัย เนื่องจากอาจารย์ยังต้องเข้ามาเคลียร์ข้อมูลการเรียนการสอนที่คงค้างให้เสร็จสิ้น แต่ภารกิจการสอนนั้นได้หยุดปฏิบัติการเรียนการสอนแล้ว
“นายกฤษดา เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยที่มบส.จ้างตามระเบียบของมหาวิทยาลัยซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขระเบียบการจัดจ้างรวมถึงจรรยาบรรณของอาจารย์อย่างชัดเจน ซึ่งการกระทำของนายกฤษดา มีมูลและข้อมูลชัดเจนเพียงพอที่มหาวิทยาลัยจะระงับการจ้างโดยให้ออก หากนายกฤษดา ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้เสียหายเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือเห็นแย้งกับผลการพิจารณาของมหาวิทยาลัยก็มีสิทธิที่จะฟ้องร้องดำเนินการอย่างไรกับ มบส.ก็ได้” รองอธิการบดี มบส.กล่าวและว่า ที่ผ่านมา ปัญหาที่นักศึกษาร้องเรียนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการกดเกรด แต่กรณีที่อาจารย์มีพฤติกรรมลวนลามนักศึกษา หรือมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่ผ่านมา ไม่เคยมี ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นกรณีพิเศษที่เพิ่งเกิดขึ้น ซึ่งจากนี้ รศ.ดร.พลสิทธิ์ หนูชูชัย อธิการบดีคนใหม่ คงยิ่งเข้มงวดในเรื่องจรรยาบรรณอาจารย์มากยิ่งขึ้น จากเดิมก็มีความเข้มงวดอยู่แล้ว
รศ.ดร.บังอร เสรีรัตน์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มบส.เข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี นายกฤษดา สุขสำเนียง อายุ 38 ปี อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ สาขาศิลปกรรมศึกษา แขนงดนตรีไทย ในข้อหาล่อลวงและกระทำอนาจารกรณีเมื่อเดือน ต.ค.2555 ที่ผ่านมา ว่า จากผลการพิจารณาของคณะกรรมการเสาะหาข้อเท็จจริง และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้น ขณะนี้คณะกรรมการเสาะหาข้อเท็จจริง ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานต่างๆ พบว่า มีมูลความผิดจริง จึงได้ส่งเรื่องต่อไปยังคณะสอบสวนข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ได้สรุปผลการสอบข้อเท็จจริงเสนอให้ มบส.แล้ว ซึ่งพบว่า นายกฤษดา ได้กระทำผิดตามที่นักศึกษาร้องเรียนจริง จึงเห็นควรให้มีบทลงโทษนายกฤษดาโดยการให้ออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ทีมนักกฎหมายพิจารณารายละเอียดข้อมูลให้รอบคอบก่อนที่จะแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบและดำเนินการตามผลการพิจารณา คาดว่า น่าจะสรุปผลข้อมูลชัดเจนและแจ้งให้ทราบภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้
รองอธิการ มบส.กล่าวต่อว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่การพิจารณาล่าช้า เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านมีการเปลี่ยนตัวอธิการบดีคนใหม่ แต่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก็ยังทำงานต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น มบส.ได้ระงับการเรียนการสอนของนายกฤษดาทุกอย่าง แต่ตอนนี้ที่นักศึกษายังเห็นอาจารย์อยู่ในมหาวิทยาลัย เนื่องจากอาจารย์ยังต้องเข้ามาเคลียร์ข้อมูลการเรียนการสอนที่คงค้างให้เสร็จสิ้น แต่ภารกิจการสอนนั้นได้หยุดปฏิบัติการเรียนการสอนแล้ว
“นายกฤษดา เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยที่มบส.จ้างตามระเบียบของมหาวิทยาลัยซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขระเบียบการจัดจ้างรวมถึงจรรยาบรรณของอาจารย์อย่างชัดเจน ซึ่งการกระทำของนายกฤษดา มีมูลและข้อมูลชัดเจนเพียงพอที่มหาวิทยาลัยจะระงับการจ้างโดยให้ออก หากนายกฤษดา ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้เสียหายเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือเห็นแย้งกับผลการพิจารณาของมหาวิทยาลัยก็มีสิทธิที่จะฟ้องร้องดำเนินการอย่างไรกับ มบส.ก็ได้” รองอธิการบดี มบส.กล่าวและว่า ที่ผ่านมา ปัญหาที่นักศึกษาร้องเรียนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการกดเกรด แต่กรณีที่อาจารย์มีพฤติกรรมลวนลามนักศึกษา หรือมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่ผ่านมา ไม่เคยมี ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นกรณีพิเศษที่เพิ่งเกิดขึ้น ซึ่งจากนี้ รศ.ดร.พลสิทธิ์ หนูชูชัย อธิการบดีคนใหม่ คงยิ่งเข้มงวดในเรื่องจรรยาบรรณอาจารย์มากยิ่งขึ้น จากเดิมก็มีความเข้มงวดอยู่แล้ว
